“จีน” ย้ำจุดยืน “รักษ์โลก” สร้าง “ศูนย์ข้อมูลใต้น้ำ” ขับเคลื่อนด้วยพลังงานลมแห่งแรกของโลก

จีนปักธงการเปลี่ยนผ่านสู่ความเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและคาร์บอนต่ำ อย่างไม่หยุดยั้ง  พร้อมเร่งจัดทำและปฏิบัติตามเป้าหมายฯ เพื่อเสริมพลังบวกต่อความร่วมมือการกำกับดูแลสภาพภูมิอากาศโลก ด้วยแผนดำเนินการภายในปี 2035 ได้แก่

1. ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ลงร้อยละ 7-10 จากระดับสูงสุด

2. เพิ่มสัดส่วนพลังงานที่ไม่ใช่เชื้อเพลิงฟอสซิล ให้เกินร้อยละ 30 ของการใช้พลังงานทั้งหมด

3. ขยายกำลังการผลิตติดตั้งไฟฟ้าพลังงานลมและพลังงานแสงอาทิตย์ ให้มากกว่า 6 เท่าของระดับปี 2020 โดยตั้งเป้าให้ถึง 3,600 กิกะวัตต์

4. เพิ่มปริมาณกักเก็บคาร์บอนในป่าไม้ ให้เกิน 2.4 หมื่นล้านลูกบาศก์เมตร

5. ทำให้ยานยนต์พลังงานใหม่ กลายเป็นกระแสหลัก

6. ขยายตลาดซื้อขายสิทธิการปล่อยคาร์บอนระดับชาติ ให้ครอบคลุมอุตสาหกรรมที่มีการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสูง

7. สร้างสังคมที่สามารถปรับตัวต่อสภาพภูมิอากาศได้โดยพื้นฐาน

ล่าสุด จีนก่อสร้างโครงการศูนย์ข้อมูลใต้น้ำ (UDC) ที่ขับเคลื่อนด้วยพลังงานลมแห่งแรกของโลกเสร็จสิ้นแล้ว ในเขตเทศบาลนครเซี่ยงไฮ้ ทางตะวันออกของจีน ในวันอังคาร (21 ต.ค.) ซึ่งถือเป็นมาตรฐานใหม่ สำหรับการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านการประมวลผลที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม

สำนักข่าวซินหัว ระบุว่า คณะกรรมการบริหารเขตพิเศษหลินกั่ง เผยว่าโครงการศูนย์ข้อมูลใต้น้ำ  ตั้งอยู่ในเขตใหม่หลินกั่ง เขตพิเศษของเขตการค้าเสรีนำร่องเซี่ยงไฮ้ (FTZ) เงินลงทุน 1.6 พันล้านหยวน (ราว 7.35 พันล้านบาท) มีกำลังไฟฟ้ารวม 24 เมกะวัตต์

โครงการนี้ถูกออกแบบให้ใช้ไฟฟ้าสีเขียว มากกว่าร้อยละ 95 ลดการใช้พลังงานลงร้อยละ 22.8  ตลอดจนลดการใช้น้ำและที่ดินลงร้อยละ 100 และมากกว่าร้อยละ 90 ตามลำดับ เมื่อเทียบกับศูนย์ข้อมูลบนบกแบบดั้งเดิม

คณะกรรมการฯ กล่าวว่า งานก่อสร้างที่เสร็จสิ้นแล้ว นับเป็นหมุดหมายสำคัญในการพัฒนาศูนย์ข้อมูลใต้น้ำ และพลังงานหมุนเวียนนอกชายฝั่งแบบบูรณาการ โครงการนี้สะท้อนถึงการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านการประมวลผล ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมและคาร์บอนต่ำ รวมถึงการบริโภคพลังงานลมนอกชายฝั่งในระดับท้องถิ่น