วันที่ 22 ต.ค.68 ภายใต้การอำนวยการของนายภูมิวิศาล เกษมศุข เลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ท. นายเอกชัย เกษมสุขธวัช รองเลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ท. พ.ต.ท.สิริพงษ์ ศรีตุลา ผู้ช่วยเลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ท. รักษาราชการแทน รองเลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ท. และ พ.ต.ท.สราวุธ คำเหลือง ผู้อำนวยการกองอำนวยการต่อต้านการทุจริต มอบหมายให้ พ.ต.ต.จักรกฤษณ์ ประจันพล ผู้อำนวยการกลุ่มงานอำนวยการด้านคุ้มครองพยาน นายโสภณ ธีระวงศ์ภิญโญ นักสืบสวนสอบสวนชำนาญการ นายปิยพนธ์ เปรมโยธิน นักสืบสวนสอบสวนชำนาญการ และนายณัฐวุฒิ วุฒิ นักสืบสวนสอบสวนชำนาญการ ปฏิบัติการร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ บก.ปปป. นำโดย พ.ต.อ.ศานุวงษ์ คงคาอินทร์ ผกก.4 บก.ปปป. ติดตามจับกุม นายธนยศฯ (ขอสงวนนามสกุล)
ผู้ต้องหาหมายจับศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 1 ลงวันที่ 10 มกราคม 2568 ในความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 147 มาตรา 157 มาตรา 161 และพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 และที่แก้ไขเพิ่มเติมมาตรา 123/1 ซึ่งเป็นกฎหมายที่ใช้บังคับขณะกระทำความผิด (ปัจจุบันเป็นความผิดตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 มาตรา 172) เมื่อครั้งผู้ต้องหาตามหมายจับรักษาราชการในตำแหน่งผู้อำนวยการหัวหน้าสถานีอนามัยวัดโชติการาม หรือ รพ.สต.วัดโชติการาม จ.นนทบุรี กระทำการปลอมลายมือชื่อของผู้อื่นในใบถอนเงินจากบัญชีเงินทุนบัตรประกันสุขภาพถ้วนหน้าและการของบเงินกองทุนหลักประกันสุขภาพระดับท้องถิ่นตำบล ทำการทุจริตรวม 3 ครั้ง เป็นเงินจำนวนรวมทั้งสิ้น 652,000 บาท เป็นเหตุให้เกิดความเสียหายแก่ รพ.สต.วัดโชติการาม ต่อมาคณะกรรมการ ป.ป.ท. มีมติชี้มูลความผิด แต่ผู้ต้องหาไม่ไปพบพนักงานอัยการเพื่อยื่นฟ้องต่อศาลตามกำหนดนัด พนักงาน ป.ป.ท. จึงได้ขอออกหมายจับเพื่อติดตามตัวผู้ต้องหามาฟ้องคดีต่อศาล
ทั้งนี้ จากการสืบสวนทราบว่าผู้ต้องหาหลบหนีมาอุปสมบทอยู่ที่วัดแห่งหนึ่งย่านอำเภอบางบัวทอง จังหวัดนนทบุรี เจ้าหน้าที่สำนักงาน ป.ป.ท. จึงประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจกองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบทำการจับกุม โดยผู้ต้องหาได้ลาสิกขาออกจากสมณเพศด้วยความสมัครใจ เพื่อเข้าสู่กระบวนการทางกฎหมาย เจ้าหน้าที่จึงได้นำตัวผู้ต้องหาส่งศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 1 ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป






