“จ่าคิงส์ แตงทิม สะพานใหม่” พา “แม่นก” และ “น้องแพน” เข้าร้องกองปราบฯ ขอเปลี่ยนตัวพนักงานสอบสวน พร้อมเร่งรัดคดีการเสียชีวิตปริศนาของ “โยโกะ พราวรวี” พริตตี้สาววัย 29 ปี ที่พบพิษไซยาไนด์ในร่างคาคอนโดหรู หลังอัยการชี้ชัดเป็น “การกระทำผิดทางอาญา” ครอบครัวเชื่อถูกฆาตกรรมอำพราง ไม่ใช่ฆ่าตัวตาย
เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 27 ตุลาคม 2568 ที่ศูนย์รับแจ้งความ กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (บช.ก.)
“จ่าคิงส์ แตงทิม สะพานใหม่” พา น.ส.กมลพัฒน์ สหัสธัชพงศ์ หรือ แม่นก อายุ 53 ปี และ น.ส.บุษยรินทร์ สหัสธัชพงศ์ หรือ น้องแพน อายุ 18 ปี เดินทางเข้ายื่นหนังสือร้องขอความเป็นธรรมต่อ ผบช.ก. และ ผบก.ป. เพื่อให้รับผิดชอบและเร่งรัดคลี่คลายคดีการเสียชีวิตของ น.ส.พราวรวี สหัสธัชพงศ์ หรือ โยโกะ พริตตี้สาววัย 29 ปี ที่เสียชีวิตปริศนาในคอนโดย่านเอกมัย เมื่อวันที่ 1 พฤศจิกายน 2566
น.ส.กมลพัฒน์ เปิดเผยว่า ในคืนวันที่ 31 ตุลาคม 2566 ลูกสาวพักอยู่กับแฟนหนุ่มคือ นายวันเผด็จ หรือ “โป้ง” ภายในคอนโด ก่อนจะพบว่าเสียชีวิตในวันรุ่งขึ้น โดยผลชันสูตรยืนยันชัดว่า “เสียชีวิตจากพิษไซยาไนด์”
อย่างไรก็ตาม พนักงานสอบสวนกลับสรุปสำนวนส่งอัยการ ระบุว่า “ญาติไม่ติดใจการเสียชีวิต” และส่งสำนวนไปยังสำนักงานอัยการคดีอาญากรุงเทพใต้ 4 แต่เรื่องกลับค้างนานถึง 2 ปี
ล่าสุด วันที่ 30 กันยายน 2568 อธิบดีอัยการคดีอาญากรุงเทพใต้ มีความเห็นว่า “เป็นการกระทำผิดทางอาญา” พร้อมมีคำสั่งส่งคืนสำนวนให้พนักงานสอบสวนดำเนินการสอบสวนต่อ ถือเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญของคดี
แม่นกเผยว่า ตนไม่เคยเชื่อว่าลูกสาวฆ่าตัวตาย เพราะมีข้อพิรุธหลายอย่าง เช่น
- แฟนหนุ่มทักแชทถามซ้ำ ๆ ว่า “ได้กินยาแล้วหรือยัง” ก่อนโยโกะเสียชีวิต
- ไม่พบ DNA หรือลายนิ้วมือของโยโกะ บนขวดไซยาไนด์
- กล้องวงจรปิดถูกลบหาย ในช่วงเวลาสำคัญของเหตุการณ์
“ตลอด 2 ปี ดิฉันร้องขอให้เปลี่ยนตัวพนักงานสอบสวนหลายครั้ง ทั้งที่ สน.คลองตัน, บก.น.5 และ บช.น. แต่ไม่มีความคืบหน้า จึงต้องมาขอให้กองปราบฯ เข้ามาช่วยดูแลคดีอย่างเป็นธรรม” — น.ส.กมลพัฒน์ กล่าว
เธอยืนยันว่า จะดำเนินคดีให้ถึงที่สุด พร้อมเตรียมพิจารณาแจ้งความเจ้าหน้าที่ตำรวจบางราย หากพบว่าปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ หรือปล่อยปละละเลยจนคดีไม่คืบหน้า
คดี “โยโกะ พริตตี้สาวไซยาไนด์” เป็นหนึ่งในคดีที่สังคมให้ความสนใจอย่างกว้างขวาง หลังผลชันสูตรยืนยันมีสารพิษไซยาไนด์ในร่าง แต่ตำรวจกลับสรุปว่าเป็นการฆ่าตัวตาย เนื่องจากมีประวัติรักษาโรคซึมเศร้า และพบการสั่งซื้อสารพิษผ่านออนไลน์ ขณะครอบครัวเชื่อว่าโยโกะถูกหลอกให้กินยาแคปซูลผสมไซยาไนด์โดยแฟนหนุ่ม
ด้าน พ.อ.นพ.ธวัชชัย กาญจนรินทร์ ผู้เชี่ยวชาญคดี เปิดเผยว่า แหล่งซื้อไซยาไนด์ของโยโกะตรงกับคดีดัง “แอม–เบียร์” โดยมีพฤติกรรมหลายอย่างของแฟนหนุ่มที่น่าสงสัย เช่น บังคับให้เปลี่ยนเบอร์โทรศัพท์ ทำลายข้อมูลเก่า และอยู่ในที่เกิดเหตุช่วงที่พัสดุสารพิษถูกส่งมาถึงคอนโด
ขณะที่ พล.ต.วิชัย สังข์ประไพ อดีตรอง ผบช.น. ให้ข้อมูลว่า ตำรวจได้สอบสวนแล้วแต่ยังไม่พบหลักฐานชัดเจนบ่งชี้ว่าเป็นการฆาตกรรม เว้นแต่ครอบครัวจะมีหลักฐานใหม่เพิ่มเติม
ด้านแฟนหนุ่มของโยโกะ ยืนยัน “ไม่หนักใจ” ที่ครอบครัวผู้ตายขอรื้อคดี และย้ำว่า “ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใด ๆ กับการเสียชีวิตของโยโกะ”
คดีนี้ยังคงเป็นที่จับตาของสังคม หลังอัยการชี้ชัดว่าเป็น “คดีอาญา” และสั่งรื้อสำนวนใหม่ เปิดทางให้มีการสอบสวนเชิงลึกอีกครั้ง เพื่อไขปริศนาการตายของ “โยโกะ” — พริตตี้สาวผู้จากไปพร้อมคำถามที่ยังไร้คำตอบ.
