วันเสาร์, พฤศจิกายน 1, 2025
หน้าแรกการเมืองสืบการเมือง“การกุศลนิยม” พ่นพิษ สถาบันจัดอันดับโลก...

“การกุศลนิยม” พ่นพิษ สถาบันจัดอันดับโลก ปรับลดเครดิตไทยระนาว

ละครการเมืองฉากใหญ่ ซุกซ่อนปัญหาเศรษฐกิจ ลดขีดความสามารถทางการแข่งขันของคนไทย ทำเครดิตประเทศตกต่ำ หลายสถาบันจัดอันดับโลก ปรับลดความน่าเชื่อถือ

นายธีระชัย ภูวนาถนรานุบาล รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวว่า การเมืองยุคปัจจุบัน ยังแก้ปัญหาด้วยการแจกเงิน กลายเป็น “การกุศลนิยม” ซึ่งเงินก็คือเงินของประชาชน ปัญหาคือการนำภาษีมาแจก ส่งผลให้ประเทศขาดดุลงบประมาณ 3-4 เปอร์เซ็นต์ เมื่อปิดหีบงบประมาณไม่ได้ ต้องอาศัยเงินกู้ ทำให้หนี้สาธารณะเพิ่มขึ้นทุกปี ขณะที่การแจกเงิน  นำไปกิน ไปใช้ประจำวัน ทำให้ประชาชนหลงทาง บอกว่าการกระตุ้นเศรษฐกิจแบบนี้ดี สุดท้ายแค่ไฟไหม้ฟาง

ความคิดแบบเพ้อฝัน เสนอสิ่งที่ดีที่สุดในจักรวาล ไม่ได้เพิ่มความสามารถทางการแข่งขันของพลเมือง  จนสถาบันจัดอันดับเครดิตเตือน เพราะฉะนั้นการใช้นโยบายการคลังแล้วหวังว่าจะกระตุ้นเศรษฐกิจ เป็นการกระตุ้นรอบเดียว เช่น แจกเงินหมื่น นำไปกินไปใช้ คนที่ได้ประโยชน์คือคนขายของบริษัทขนาดใหญ่ แต่ได้ประโยชน์แค่รอบเดียว

ล่าสุด ประเทศไทยถูก Fitch Ratings สถาบันจัดอันดับความน่าเชื่อถือ     ปรับลด Outlook เครดิตเรตติ้งของไทย จาก Stable เป็น Negative ส่งสัญญาณว่า ไทยมีโอกาสถูกปรับลดเครดิตในอนาคต โดยก่อนหน้านี้ Moody’s ก็เพิ่งปรับมุมมองของไทยเป็น “Negative” และคาดว่า S&P Global Ratings ก็อาจจะมีแนวโน้มปรับลดเช่นกัน โดยมีสัญญาณเตือนจากกระทรวงการคลัง คาดว่า S&P Global Ratings เตรียมปรับลดมุมมองความน่าเชื่อถือของประเทศไทยเป็น “เชิงลบ” ในช่วงเดือน พ.ย. นี้

นายธีระชัย ยังกล่าวถึงจุดยืนของพรรคพลังประชารัฐว่า ต้องทำให้ทุกคนเสมอภาค สร้างพลเมืองที่มีความเข้มแข็งมากขึ้นกว่านโยบายที่ดำเนินการมาในอดีต ไม่ให้ประชาหวังแค่ว่าได้รัฐบาลใหม่แล้ว จะมีเงินหล่นจากฟ้า โดยไม่ต้องทำอะไรเลย ต้องสร้างพลังให้กับประชาชน พัฒนาทักษะให้เกิดความเข้มแข็ง ตามแนวทางศาสตร์พระราชา แล้วประชาชนมาช่วยสร้างชาติ ทำให้รัฐเข้มแข็ง

#สืบจากข่าว รายงาน

Get notified whenever we post something new!

spot_img

Create a website from scratch

Just drag and drop elements in a page to get started with Newspaper Theme.

Continue reading

ปปง.ถอนรากถอนโคน สแกมเมอร์ข้ามชาติสาย ‘ลี ยงพัด’

https://youtu.be/WtnkVEbga_M นาทีนี้ไม่มีคำว่าปรานี! แม้รัฐบาลจะยกระดับให้การปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีเป็น “วาระแห่งชาติ” ปปง. ก็เดินหน้า 'ปิดฉาก' เครือข่ายสแกมเมอร์ข้ามชาติอย่างดุดัน! วันนี้ (31 ต.ค. 2568) ปปง. ประกาศ 'อวสานเส้นทางเงินบาป' ด้วยการสั่งยึดและอายัดทรัพย์สิน เพิ่มเติมอีกกว่า 350 ล้านบาท ที่เชื่อมโยงกับนายพัด สุภาภา หรือ ลี ยงพัด กับพวก ทำให้ยอดรวมการทวงคืนทรัพย์สินทะลุ 650 ล้านบาท! นี่คือสัญญาณชัดเจนว่า แผ่นดินนี้ไม่มีที่ยืนให้คนโกง! นายวิทยา นีติธรรม ผู้ช่วยเลขาธิการ ปปง. และโฆษกประจำสำนักงาน ปปง. ได้ออกแถลงการณ์สำคัญในวันนี้ (31 ตุลาคม 2568) โดยเน้นย้ำถึงมาตรการเด็ดขาดของรัฐบาลภายใต้การนำของ...

จีนคลอดแล้ว “แผนสานฝัน” แผนพัฒนา “ฉบับที่ 15” สร้างจีนให้เป็น “สังคมเอไอ” โดย “สีจิ้นผิง”

“....การประชุมเต็มคณะครั้งที่ 4 ของคณะกรรมการกลางพรรคคอมมิวนิสต์จีนชุดที่ 20 ที่มีสีจิ้นผิงเป็นผู้นำ มีการพิจารณาญัตติสำคัญที่ชาวโลกให้ความสนใจติดตาม คือการผ่านมติรับรองแผนพัฒนา 5 ปีฉบับที่ 15 ที่จะเริ่มนำมาใช้จริงในไตรมาสแรกของปีหน้า จุดเด่นอยู่ที่การวางเป้าหมายสร้างจีนให้เป็นสังคมเอไอ บนพื้นฐานของความสำเร็จของแผน 14 ที่สามารถพลิกจีนจากประเทศอุตสาหกรรมใหญ่ที่มีห่วงโซ่การผลิตครบวงจร มาเป็นอุตสาหกรรมการผลิตอัจฉริยะ อันเป็นผลจากการดำเนินนโยบาย"IT+" โดยตั้งเป้าสานต่อให้ครอบคลุมการขับเคลื่อนของสังคมจีนทั้งทางภาคการผลิต และการบริการ ให้เป็นไปในทางที่สะดวกสะบายขึ้นไปอีกขั้นหนึ่ง นักวิเคราะห์จีนมองว่า นี่เป็นผลของการปรับน้ำหนักการทุ่มทรัพยากรจากการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานแบบเดิม เช่นการสร้างถนนหนทาง และการขยายธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ เป็นต้น มาเป็นการสร้างโครงสร้างพื้นฐานใหม่สำหรับเศรษฐกิจดิจิตอลและเอไอ เช่นดาต้าเซ็นเตอร์ คอมพิวติ้งเซ็นเตอร์ เพื่อรองรับอุตสาหกรรมผลิตชิปคุณภาพสูง และอุตสาหกรรมการผลิตอัจฉริยะท้้งหุ่นยนต์ รถยนต์ และสิ่งอุปโภคบริโภคอัจฉริยะมากมายสนองต่อสังคมจีน ให้พัฒนาก้าวหน้าไปสู่อนาคตได้อย่างเป็นจริง ซึ่งจะเป็นไปอย่างรวดเร็ว และสามารถบรรลุเป้าหมายที่ตั้งไว้....” https://youtu.be/V9km6xJAiio แผนสานฝัน 织梦蓝图 ระหว่างวันที่ 20-23 ตุลาคมที่ผ่านมา ได้มีการประชุมเต็มคณะครั้งที่...

เป็นถึง “นายกฯ” “แต่” พูดให้ไทยเสียหาย

https://youtu.be/-fWIr4Aj1RI “...ขณะที่รัฐบาลประกาศความสำเร็จในการ ลงนามสันติภาพ ชายแดนไทย-กัมพูชา กลับมีเสียงวิจารณ์ดังกึกก้องจาก “วีระ สมความคิด” ว่า ข้อตกลงนี้อาจเป็นเพียง "กระดาษแผ่นเดียว" แลกกับการสูญเสียอธิปไตยครั้งใหญ่ ทั้งการถูก กัมพูชายึดครองผืนแผ่นดินไทย 100% ที่บ้านหนองจานและหนองหญ้าแก้วนานกว่า 40 ปี และที่น่าตกใจกว่าคือ การเซ็นสัญญา "ดีลลับ" ยกสัมปทาน "แร่แรร์เอิร์ธ" ทรัพยากรหายากให้แก่ สหรัฐอเมริกา โดยไม่มีการสอบถามประชาชนแม้แต่น้อย ที่สำคัญ “วีระ” ได้เปิดฉาก ซัดรัฐบาลอย่างรุนแรง ถึงคำพูดของผู้นำ ที่ระบุว่า "เขมรก็รุกแผ่นดินไทย ไทยก็รุกแผ่นดินเขมร" โดยตอบโต้ด้วยถ้อยคำเผ็ดร้อนว่า "พูดออกมาได้อย่างไรจากปากผู้นำ ไอ้โกหก ไอ้ขายชาติ พูดอย่างนี้ได้อย่างไร? ตนเองไม่ใช่ตาสีตาสา" ที่จะถูกหลอกลวงได้ง่าย ๆ...

Enjoy exclusive access to all of our content

Get an online subscription and you can unlock any article you come across.