วันศุกร์, ตุลาคม 31, 2025
หน้าแรกการเมืองสืบการเมืองเป็นถึง “นายกฯ” “แต่”...

เป็นถึง “นายกฯ” “แต่” พูดให้ไทยเสียหาย

“…ขณะที่รัฐบาลประกาศความสำเร็จในการ ลงนามสันติภาพ ชายแดนไทย-กัมพูชา กลับมีเสียงวิจารณ์ดังกึกก้องจาก “วีระ สมความคิด” ว่า ข้อตกลงนี้อาจเป็นเพียงกระดาษแผ่นเดียว” แลกกับการสูญเสียอธิปไตยครั้งใหญ่ ทั้งการถูก กัมพูชายึดครองผืนแผ่นดินไทย 100% ที่บ้านหนองจานและหนองหญ้าแก้วนานกว่า 40 ปี และที่น่าตกใจกว่าคือ การเซ็นสัญญาดีลลับ” ยกสัมปทานแร่แรร์เอิร์ธ” ทรัพยากรหายากให้แก่ สหรัฐอเมริกา โดยไม่มีการสอบถามประชาชนแม้แต่น้อย

ที่สำคัญ “วีระ” ได้เปิดฉาก ซัดรัฐบาลอย่างรุนแรง ถึงคำพูดของผู้นำ ที่ระบุว่า “เขมรก็รุกแผ่นดินไทย ไทยก็รุกแผ่นดินเขมร” โดยตอบโต้ด้วยถ้อยคำเผ็ดร้อนว่า “พูดออกมาได้อย่างไรจากปากผู้นำ ไอ้โกหก ไอ้ขายชาติ พูดอย่างนี้ได้อย่างไร? ตนเองไม่ใช่ตาสีตาสา” ที่จะถูกหลอกลวงได้ง่าย ๆ การเจรจาสันติภาพครั้งนี้จึงถูกตั้งคำถามเชิงสืบสวนว่า เป็นฉากบังหน้าเพื่อแลกกับผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจและภูมิรัฐศาสตร์ โดยมี อธิปไตยของชาติเป็นเดิมพันใช่หรือไม่? ซ้ำร้าย! ผู้นำการทวงคืนผืนแผ่นดินกลับกำลังถูกคุกคามด้วยข่าวการใช้ กฎอัยการศึก คุมตัว ซึ่งเจ้าตัวประกาศชัดว่าพร้อมสู้และชนทุกอำนาจ…”

สันติภาพที่บาดลึกกว่าสงคราม

1. ภารกิจทวงคืนที่ถูกคุกคาม: ใครคือ ผู้บ่อนทำลายความมั่นคงตัวจริง?

ท่ามกลางกำหนดการที่ประชาชน และ คุณวีระ สมความคิด จะรวมตัวกันแต่เช้า เพื่อยื่นคำขาดให้เจ้าหน้าที่รัฐขับไล่ชาวกัมพูชาที่รุกล้ำอยู่ในพื้นที่ บ้านหนองจาน และ บ้านหนองหญ้าแก้ว ออกไปภายในเวลา 13:00 น. กลับมีกระแสข่าวว่า รัฐบาลอาจสั่ง ควบคุมตัว คุณวีระ ภายใต้ข้อหา ปล่อยข่าวบ่อนทำลายความมั่นคง” และ สร้างความแตกแยก” เพื่อขัดขวางปฏิบัติการทวงคืน

คุณวีระตอบโต้ข้อกล่าวหานี้อย่างเผ็ดร้อน โดยตั้งคำถามกลับไปยังผู้มีอำนาจว่า หากจะใช้ กฎอัยการศึก ในการจับกุมตนซึ่งเป็นพลเมืองไทยผู้ทำหน้าที่ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 51 (ปกป้องชาติ) เหตุใดเจ้าหน้าที่รัฐจึงละเลยที่จะใช้กฎหมายเดียวกัน จับกุมชาวกัมพูชาหลายร้อยคน ที่บุกรุกแผ่นดินไทยอย่างชัดเจนมานานถึง 40 ปี การปล่อยปละละเลยให้ต่างชาติยึดครองดินแดนต่างหาก ที่เป็นพฤติการณ์ ยิ่งกว่าบ่อนทำลายความมั่นคง” และ แบ่งแยกดินแดน” อย่างชัดเจน โดยย้ำว่าพื้นที่ทั้งสองแห่งนั้น เป็นแผ่นดินไทยร้อยเปอร์เซ็นต์” ไม่ใช่พื้นที่พิพาทตามแผนที่ใด ๆ

2. สันติภาพฉาบฉวย: ความไม่สมดุลและการแอบแฝงผลประโยชน์

การลงนามใน ข้อตกลงสันติภาพ” ถูกวิเคราะห์ว่ามีแต่ความไม่สมมาตรและขาดหลักประกัน

  • ไร้หลักประกันความปลอดภัย: ข้อตกลงไม่มีหลักประกันว่ากัมพูชาจะไม่ แอบยิง” หรือ แอบวางระเบิด” ซ้ำยังใช้กลไก IOT (Observation Team) อย่างไม่โปร่งใส โดยกัมพูชาไม่เคยแจ้งฝ่ายไทยเมื่อมีการนำคณะตรวจสอบเข้าพื้นที่ ต่างจากฝ่ายไทยที่เปิดเผยข้อมูลทุกครั้ง

  • ความเหลื่อมล้ำในการถอนอาวุธ: ในขณะที่ไทย ขนรถถังกลับไปถึงสระบุรี พร้อมเปิดเผยรายละเอียดรุ่นและขนาดทั้งหมดอย่างโจ่งแจ้ง ซึ่งเท่ากับเป็นการเปิดเผยความลับทางทหาร กัมพูชาถอนอาวุธออกไปเพียงไม่กี่ร้อยเมตรและไม่มีรายละเอียดใด ๆ ทำให้ไทยเสี่ยงต่อการถูกบุกรุกหากมีการถอนกำลังจนหมด

  • มูลเหตุที่ซ่อนเร้น: MOU แรร์เอิร์ธและการเปิดด่าน: คุณวีระชี้ว่า ผลประโยชน์ที่แท้จริง ของการเจรจาอาจเชื่อมโยงกับการที่ผู้นำต่างชาติ อย่าง “สหรัฐอเมริกา” ได้ “แร่แรร์เอิร์ธ” ซึ่งเป็นทรัพยากรหายากจากไทยไป พร้อมทั้งการปูทางไปสู่การ เปิดด่าน ถาวร ซึ่งจะช่วยต่อชีวิต บ่อนคาสิโน ในกัมพูชาที่กำลังซบเซา (เนื่องจากลูกค้าหลักกว่า 80% คือคนไทย) การตัดสินใจยกผลประโยชน์ทางทรัพยากรเหล่านี้ถูกดำเนินการโดย ไร้การถามความเห็นจากประชาชน อย่างสิ้นเชิง ซึ่งเป็นพฤติกรรมที่ซ้ำรอย MOU 2543 ที่รัฐบาลในอดีตเคยแอบเซ็นไว้โดยไม่ผ่านสภา

3. ‘ละมุนละม่อม’ ที่ล้มเหลว: 40 ปีแห่งการทรยศต่ออธิปไตย

คำถามที่ว่า ทำไมรัฐบาลจึงไม่เลือกใช้แนวทาง ละมุนละม่อม” ในการจัดการปัญหาการบุกรุก 40 ปีที่ผ่านมา กลับกลายเป็นหลักฐานความบกพร่องของรัฐไทยเอง คุณวีระระบุว่า การบุกรุกพื้นที่บ้านหนองจานและหนองหญ้าแก้ว เป็นการ ละเมิดสิทธิมนุษยชน ต่อชาวบ้านคนไทยที่เป็นเจ้าของพื้นที่มานานกว่าสี่ทศวรรษ ผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้ว และ กองทัพบก ต่างก็ยืนยันว่าพื้นที่ดังกล่าวเป็นของไทย 100% มานานแล้ว การประท้วงกัมพูชาไปแล้วกว่า 600 ครั้ง โดยไม่เกิดผลใด ๆ ชี้ให้เห็นว่า ความละมุนละม่อมไม่เคยได้ผล มีแต่การถูก ทอดธุระ” และ ปล่อยปละละเลย” จากเจ้าหน้าที่รัฐอย่างต่อเนื่อง

ประเด็นร้อน: คำพูดนายกฯ ที่สั่นคลอนอธิปไตย

คุณวีระ สมความคิด ได้กล่าวถึงประเด็นที่ นายกรัฐมนตรี เคยกล่าวในที่สาธารณะว่า ไทยก็ไปแย่งแผ่นดินเขมร เขมรก็ไปแย่งแผ่นดินไทย” ซึ่งคุณวีระมองว่าเป็นการพูดที่ ทำลายประเทศตัวเองอย่างรุนแรง

ไอ้โกหก ไอ้ขายชาติ พูดออกมาอย่างงี้ได้ยังไงอ่ะ เป็นนายกมาพูดอย่างนี้ได้ไง… นายกไทยก็ยอมรับว่าไทยก็ไปแย่งแผ่นดินมัน สมควรพูดไหมครับ คนเป็นนายกประเทศไทย สมควรพูดให้ร้ายประเทศตัวเองเหรอครับ”

คำพูดดังกล่าวไม่เพียงแต่เป็นการ พูดให้ร้ายประเทศตัวเอง” เท่านั้น แต่ยังส่งผลให้ ฮุนเซน ของกัมพูชานำไปใช้ เคลม” และประกาศต่อโลกได้ว่า ไทยยอมรับการรุกล้ำดินแดน ซึ่งคุณวีระยืนยันว่า ตนเองในฐานะผู้ติดตามข้อมูลพื้นที่ชายแดนมาอย่างยาวนาน ไม่เคยปรากฏข้อเท็จจริงว่าไทยรุกล้ำแผ่นดินเขมร และเน้นย้ำว่าพื้นที่พิพาทโดยเฉพาะ บ้านหนองจาน นั้นเป็น แผ่นดินไทยร้อยเปอร์เซ็นต์ มาโดยตลอด การที่นายกฯ พูดเช่นนั้นเท่ากับเป็นการ บิดเบือนข้อเท็จจริง และ ทรยศต่อผลประโยชน์ของชาติ เพราะตนเองนั้น ไม่ใช่ตาสีตาสา ที่จะหลงเชื่อการโกหกหลอกลวงของรัฐบาล

สิ่งที่ประชาชนค้างคาใจตลอดมา

เมื่อพลเมืองไทยผู้ลุกขึ้นมาทวงคืนแผ่นดินถูกคุกคามด้วยข้อหา ‘บ่อนทำลายความมั่นคง’ ในขณะที่ผู้บุกรุกต่างชาติกลับได้รับการปกป้องโดยปริยายจากรัฐบาล คำจำกัดความของ ‘ความมั่นคงของชาติ’ สำหรับรัฐบาลชุดนี้คืออะไรกันแน่?

รัฐบาลสามารถลงนามในข้อตกลงที่ผูกพันผลประโยชน์ทรัพยากรชาติ (แร่แรร์เอิร์ธ) และมีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมโดยไม่ต้องถามความเห็นประชาชน แต่กลับโยนภาระการตัดสินใจยกเลิก MOU 2543 ให้ประชาชนไปทำประชามติ—การกระทำเช่นนี้สะท้อนว่า รัฐบาล ‘เห็นหัว’ ประชาชนในสถานการณ์ใด?

Get notified whenever we post something new!

spot_img

Create a website from scratch

Just drag and drop elements in a page to get started with Newspaper Theme.

Continue reading

กลุ่ม ปตท. จัดพิธีแสดงความอาลัยถวายแด่

สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง   https://youtube.com/shorts/i21NbGnj9n0?feature=share เมื่อวันที่ 30 ต.ค. 2568 ดร.คงกระพัน อินทรแจ้ง ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) (ปตท.) พร้อมด้วย คณะผู้บริหารและพนักงานกลุ่ม ปตท. ร่วมพิธีแสดงความอาลัย และน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ณ อาคาร ปตท. สำนักงานใหญ่ ถ.วิภาวดีรังสิต กรุงเทพมหานคร สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ทรงเป็นคู่พระบารมีเคียงข้างพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร และด้วยพระราชดำรินานัปการที่ยกระดับคุณภาพชีวิตของพสกนิกรชาวไทยตลอดมา ผู้บริหารและพนักงานกลุ่ม ปตท. ล้วนสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ   อันหาที่สุดมิได้ พร้อมมุ่งสืบสานพระราชปณิธาน ในการสร้างความมั่นคงทางพลังงานของชาติ...

“ปฏิญญาลวง” แลกชาติ! เปิดประตูให้ “มะกัน” ขุดแร่!

https://youtu.be/z7VaE3sXeqw "ปืนจ่อหัว" หรือ "แผนซ่อนเร้น"? เปิดเบื้องลึกเบื้องหลัง ปฏิญญาสันติภาพ และ MOU แร่หายาก! พล.อ.รังษี กิติญาณทรัพย์ หัวหน้าพรรคเศรษฐกิจ ออกโรงวิเคราะห์สถานการณ์ประเทศด้วยถ้อยคำที่ดุเดือดและสั่นสะเทือนอารมณ์ประชาชน โดยเฉพาะการลงนาม "ปฏิญญาสันติภาพไทย-กัมพูชา" ที่มีขึ้นเมื่อเร็วๆ นี้ ซึ่ง พล.อ.รังษี ชี้ว่า แท้จริงแล้วนี่คือ "เครื่องมือมัดมือชก" ที่ทำให้ไทยถูก "ล็อคขา" ตัวเองอย่างถาวร! ข้อตกลงนี้มิใช่แค่เรื่องความมั่นคง แต่เป็น "ละครฉากบังหน้า" ที่ซ่อนเร้นภาระผูกพันมหาศาล ทั้ง MOU 43/44 และการเปิดประตูให้ "มหาอำนาจสหรัฐฯ" เข้ามาตักตวงผลประโยชน์ "แร่หายาก" ของไทย! การตัดสินใจของ "นายกฯ คนที่ 32" กำลังจะกลายเป็น...

ช็อก! หนี้สาธารณะปริ่มน้ำ

https://youtu.be/L0mavrjc4qk ปัจจุบันประเทศไทยมีหนี้สาธารณะ ณ สิ้นเดือนสิงหาคม 2568 จำนวน 12.06 ล้านล้านบาท คิดเป็น 64.5% ของ GDP ขณะที่ GDP หรือ รายได้ทั้งหมดของประเทศไทยปี 2567 มีมูลค่ารวม 18.58 ล้านล้านบาท เท่ากับว่า มูลค่าหนี้สาธารณะ 12.06 ล้านล้านบาท เกือบเท่ากับรายได้ต่อปีของประเทศคือ 18.58 ล้านล้านบาท แบ่งเป็นหนี้รัฐบาล 10.91 ล้านล้านบาท หนี้รัฐวิสาหกิจ 1.03 ล้านล้านบาท หนี้รัฐวิสาหกิจที่ทำธุรกิจในภาคการเงิน (รัฐบาลค้ำประกัน) 1.58 แสนล้านบาท หนี้หน่วยงานของรัฐ 5.93 หมื่นล้านบาท โดยกฎหมายกำหนดว่า รัฐบาลจะก่อหนี้ได้สูงสุดไม่เกิน 70% ของ GDP เท่ากับว่ารัฐบาลจะกู้หนี้ได้อีกเพียง 5.5% ของ GDP นั่นทำให้การเลือกตั้งปี 2569 ถูกมองว่า ถ้าพรรคการเมืองใดใช้ระบบ “ประชานิยม”...

Enjoy exclusive access to all of our content

Get an online subscription and you can unlock any article you come across.