วันพุธ, พฤศจิกายน 5, 2025
หน้าแรกการเมืองสืบการเมือง"มีเราไม่มีเทา" แค่ละครตบตา!

“มีเราไม่มีเทา” แค่ละครตบตา!

“…ท่ามกลาง “ม่านหมอกสีเทา” ทางการเมืองที่แยกมิตร-ศัตรูไม่ออก สภาวะ “อีรุงตุงนัง” ที่แม้แต่ฤดูกาลยังสับสน การเมืองไทยกำลังเดินเข้าสู่เกมที่ซับซ้อนและอำมหิตเกินกว่าที่ตาเห็น ปฏิบัติการ “มีเราไม่มีเทา” ของพรรคประชาชน ที่ดูเหมือนการกวาดล้างสแกมเมอร์เพื่อชาติ แท้จริงแล้วอาจเป็นเพียง “ละครฉากใหญ่” ที่มีผู้ได้ประโยชน์สูงสุดนั่งยิ้มอยู่มุมตึกหรือไม่?

รศ.ดร.โอฬาร ถิ่นบางเตียว นักวิชาการผู้ไม่เคยมองการเมืองแค่ชั้นเดียว ซึ่งกำลังชี้ให้เห็นว่า เกมนี้นอกจากจะ “ล็อกเป้า” พรรคกล้าธรรม ให้แตกกระเจิง ยังเป็นการ “ดองเค็ม” พรรคเพื่อไทย ให้รอวันตายทางการเมือง โดยมี “พรรคภูมิใจไทย” เป็นผู้เก็บเกี่ยวผลประโยชน์ทั้งหมด

รศ.ดร.โอฬาร ผ่าให้เห็นภาพการเมืองไทยที่ “เน่าใน” ไม่ว่าจะเป็นการคัมแบ็กของ “อภิสิทธิ์” ที่เป็นแค่ “นั่งร้าน” ให้ สส. บ้านใหญ่ใน “พรรคพันธุกรรม” ที่รอวันตาย หรือ “พรรคเพื่อไทย” ที่ถูก “ภูมิใจไทย” วางแผน “ดองเค็ม” รอการเชือด โดยมีปฏิบัติการ “มีเราไม่มีเทา” ของพรรคประชาชน เป็นเพียง “ละครตบตา” ที่ซ่อนเกมอำมหิตไว้…”

ปฏิบัติการ “ลากไส้” เกมซ้อนเกมที่ “ภูมิใจไทย” ยืนยิ้ม

ปฏิบัติการ “ลากไส้แก๊งคอลเซ็นเตอร์” ของ สส. พรรคประชาชน ที่นำโดย “โรม” และ “ไอซ์” นั้น ต้องยอมรับว่า “ต้องชื่นชม” ในการตีแผ่ความจริง สร้างความหวังเล็กๆ ให้กับสังคมที่สิ้นหวังกับอาชญากรรมไซเบอร์

แต่ในทางการเมือง “โอฬาร” กลับมองทะลุเกมนี้ว่า “มันมีเรื่องการเมือง”

เขาชี้ว่า ท่าทีที่ “นิ่งเฉย” ของรัฐบาลอนุทิน หรือ สตช. ที่ดู “ขยับช้า” จนถูกสังคมวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก อาจเป็นเพียงการ “ปล่อยเกม” เพราะการฟาดฟันครั้งนี้ หางเลขไม่ได้พุ่งไปที่ภูมิใจไทย แต่กลับ “ล็อกเป้า” ไปที่ พรรคกล้าธรรม” พรรคร่วมรัฐบาลอีกพรรค ที่กระแสกำลังเริ่มแผ่ว

การที่พรรคประชาชน “ชง” และ “ตบ” ไม่หยุด ทำให้ สส. ที่คิดจะย้ายซบ “กล้าธรรม” เกิดอาการ “เหนียมอาย” ไม่กล้ามา แถมยังลาก “พรรคเพื่อไทย” ลงเหวไปด้วย

“โอฬาร” วิเคราะห์ว่านี่คือแผน ดองเค็มงูเห่า” ที่แหลมคมของกุนซือภูมิใจไทย “ถ้าย้ายไม่ได้ ก็ดองมันไว้… สส. บ้านใหญ่ในเพื่อไทยที่ไร้ความมั่นใจ ก็ไปต่อไม่ถูก จะย้ายไปกล้าธรรมก็เจ็บ จะอยู่ที่เดิมก็เหนื่อย สุดท้ายใครได้เปรียบ? ภูมิใจไทยเห็นๆ”

เขาประเมินว่า ภูมิใจไทย “เจ็บ” ที่โดนวิจารณ์ แต่ “คุ้ม” เมื่อเทียบกับการได้ “จัดการ” ทั้งพรรคกล้าธรรมและพรรคเพื่อไทยในคราวเดียว

“เพื่อไทย” พรรคที่ถูกสาป: ไร้ “ชินวัตร” ไม่ได้ แต่ “มี” ก็ไปไม่เป็น

แล้วทำไมพรรคใหญ่อย่าง “เพื่อไทย” ถึงอ่อนแอจนถูกดองเค็มได้?

“โอฬาร” ชี้ไปที่ปัญหาเดิมที่กัดกินพรรคมานาน นั่นคือ “การจัดการดุลอำนาจระหว่างเจ้าของพรรคกับคนทำหน้าที่แทน”

การมาของ “จุลพันธ์ อมรวิวัฒน์” ในฐานะหัวหน้าพรรค ก็ยังไม่สามารถสลัดเงาของ “บ้านจันทร์ส่องหล้า” หรือ “คลองเปรม” ได้ ปรากฏการณ์ประหลาดที่หัวหน้าพรรคตัวจริงกลับ “ไม่กล้าบอกว่าตัวเองคือแคนดิเดตนายกฯ” สะท้อนภาวะ “กลืนไม่เข้าคายไม่ออก” และการแทรกแซงที่ยังคงอยู่

ไม่มีชินวัตร ไม่ได้ แต่มีอย่างไร?” นี่คือคำถามใหญ่

“โอฬาร” ฟันธงว่าตระกูลชินวัตรคือ “ทั้งจุดแข็งและจุดอ่อน” หากยังไม่ชัดเจนเรื่องอำนาจ สส. บ้านใหญ่ก็จะรอฟังคำสั่งจาก “เจ้าของตัวจริง” มากกว่าหัวหน้าพรรค เกมนี้ “จุลพันธ์ก็เสีย พรรคก็เสีย”

ส่วนกระแส “ลูกเขย” หรือ “คุณหญิงพจมาน” หรือแม้แต่ “พานทองแท้” ที่ “โอฬาร” มองว่ามีเครดิตจากการบริหารสื่อ Voice แต่สังคมกลับมองเป็นเรื่องตลก ทั้งหมดนี้สะท้อนว่า “เพื่อไทย” ยังคงติดหล่มกับการใช้ “บารมี” มากกว่า “ประสบการณ์” ทางการเมืองที่แท้จริง

“ประชาธิปัตย์” พรรคพันธุกรรม: “อภิสิทธิ์” แค่นั่งร้านให้ “บ้านใหญ่”

หันไปดูพรรคเก่าแก่อย่าง “ประชาธิปัตย์” ที่ได้ “อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ” คืนรัง แม้จะมีความหวังริบหรี่ แต่ “โอฬาร” มองว่า “กู้ชีพไม่ขึ้น”

เขาวิเคราะห์ว่า “อภิสิทธิ์” ทำได้แค่ “เก็บคะแนนตกหล่น” จากฝั่งอนุรักษ์นิยมที่แตกกระสานซ่านเซ็นไปอยู่ รทสช. เท่านั้น แต่ไม่สามารถสร้างการเปลี่ยนแปลงได้จริง เพราะปัญหาที่แท้จริงไม่เคยถูกแก้

ปัญหานั้นคือ สส. บ้านใหญ่” ที่ประชาชนไม่เอาแล้ว

“กลุ่มคนที่ทำให้พรรคพินาศมา 2 สมัย ยังอยู่ครบ” รศ.ดร.โอฬาร กล่าวอย่างเผ็ดร้อน “คนเหล่านี้ไป ‘นิมนต์’ อภิสิทธิ์มาเป็น ‘นั่งร้าน’ เพื่อให้ตัวเองอยู่รอด”

นี่คือการ “สมประโยชน์” กันระหว่าง “อภิสิทธิ์” ที่ต้องการกลับมา กับบ้านใหญ่ที่ต้องการที่ยึดเกาะ

“โอฬาร” ถึงกับเปรียบเปรยว่า ประชาธิปัตย์ยุคนี้กลายเป็น พรรคพันธุกรรม” ที่สืบทอดกันเหมือน “เบาหวาน-ความดัน” อาศัยใบบุญเก่าของพ่อ มากกว่าจะ “เปิดตัวแล้วสังคมร้องว้าว” เหมือนในอดีตยุคทศวรรษ 2530

เกมอำนาจบนความสิ้นหวังของประชาชน

“ม่านหมอกสีเทา” นี้ จึงอาจไม่ใช่ปรากฏการณ์ธรรมชาติ แต่เป็น “ยุทธศาสตร์” ที่ผู้มีอำนาจจงใจสร้างขึ้นเพื่อให้ประชาชนสับสน

การเมืองไทยวันนี้จึงเหลือเพียง “เกมของผู้เล่น” ที่วางหมาก “ดอง” คู่แข่ง ล็อกเป้าศัตรู และใช้ “ละครตบตา” เป็นเครื่องมือ โดยไม่สนว่าประชาชนจะรู้สึกอย่างไร

แล้ว “ประชาชน” ที่เป็นเหยื่อสแกมเมอร์จริงๆ… พวกเขายืนอยู่ตรงไหนในสมการอำนาจนี้?

หรือสุดท้าย เราเป็นเพียงผู้ชมเกม “เทาชนเทา” ที่รอวันเลือกผู้ชนะที่ “เทาน้อยกว่า” เท่านั้นเอง?

Get notified whenever we post something new!

spot_img

Create a website from scratch

Just drag and drop elements in a page to get started with Newspaper Theme.

Continue reading

จีนก้าวขึ้น “ผู้นำโลก”สันติภาพ “การพัฒนา”เกิดขึ้นทิศทาง​โลก​”หลังทรัมป์จับมือสี”

".... ภายหลังจากพบปะเจรจากับประธาน​าธิบดี​สีจิ้นผิง​ที่สนามบินเมืองปูซานเกาหลีใต้​ เมื่อวันที่30​ตุลาคม​ที่ผ่านมา​ ประธานาธิบดี​โดนัลด์​ ได้บรรยาย​ถึงความสำเร็จในการแก้ไขปัญหา​การค้าระหว่างสหรัฐ​ฯกับจีน​ พร้อมกับนำเสนอแนวคิดเรื่องโลกยุคG2 ที่สหรัฐ​ฯกับจีนจะร่วมกันบริหารโลก หมายถึงว่าผู้นำสหรัฐอเมริกา​สลัดทิ้งกลุ่มG7 มาจับมือกับจีนจัดระเบียบโลก น่าแปลกกลับมีเสียงตอบรับในเชิงบวก​ คล้ายกับว่าเมื่อเสือสองตัวนี้จับมือกัน สันติภาพ​ก็จะเกิดขึ้น​ สะท้อนให้เห็นถึงความต้องการเบื้องลึกของชาวโลกในเรื่องสันติภาพ​ การพัฒนา​และความยุติธรรม​ ทีนี้​ ในทางเป็นจริง​ ทิศทาง​ขับเคลื่อน​ของสังคมโลกหลังจากนี้จะดำเนินไปในแนว​ใด? ตามคำวินิจฉัย​ของประธานาธิบดี​สีจิ้นผิง​ที่ว่า​ สังคมโลกกำลัง​อยู่​ใน​ระหว่าง​การเปลี่ยนแปลง​ใหญ่​ที่ไม่เคยปรากฏ​มาก่อน​ในรอบร้อยปี ในลักษณะ​ที่"ตะวันออกลอยสูง​ ตะวันตกคล้อยต่ำ" จีนอยู่ในฐานะที่กำลังลอยสูง​ ไม่มีความจำเป็นใดๆที่จะรีบร้อนรวบรัดจัดระเบียบ​โลกใหม่โดยพลการเพียงเพื่อผลประโยชน์​เฉพาะตัว​ ความ​สัมพันธ์​กับสหรัฐ​อเมริกา​แม้จะสำ​คัญ​มาก​ แต่ก็ไม่อยู่เหนือกฎเกณฑ์​การพัฒนา​ของประวัติศาสตร์​ ถ้าให้จีนเลือกระหว่างสหรัฐ​อเมริกา​กับโลกทั้งใบ​ จีนย่อมเลือกที่จะร่วมกับทั้งโลกเดินหน้าสร้างประวัติศาสต​ร​์​หน้าใหม่ๆต่อไป​ และก็ไม่ปิดโอกาสที่สหรัฐ​อเมริกา​จะเดินตาม..." https://youtu.be/aWs44WpYTgU ทิศทาง​โลก​หลังทรัมป์จับมือสี特与习握手后的世界走向 ภายหลังจากพบปะเจรจากับประธาน​าธิบดี​สีจิ้นผิง​ราว1ชั่วโมง40นาที​ ที่สนามบินเมืองปูซานเกาหลีใต้​ เมื่อวันที่30​ตุลาคม​ที่ผ่านมา​ ประธานาธิบดี​โดนัลด์​ ทรัมป์ก็เดินทางกลับอเมริกา​ ระหว่างนั้นก็ได้บรรยาย​ถึงความสำเร็จในการแก้ไขปัญหา​การค้าระหว่างสหรัฐ​ฯกับจีน​ พร้อมกับนำเสนอแนวคิดเรื่องโลกยุคG2 ที่สหรัฐ​ฯกับจีนจะร่วมกันบริหารโลก หมายถึงว่าผู้นำสหรัฐอเมริกา​สลัดทิ้งกลุ่มG7 มาจับมือกับจีนจัดระเบียบโลก มองในมุมหนึ่งสหรัฐอเมริกา​ยอมรับว่าประเทศ​จีนได้ก้าวขึ้นมาทาบรัศมี​ตนแล้วอย่างแท้จริง​ เพราะไม่ว่าจะใช้สงครามการค้าแบบไหน​ ข่มขู่อย่างไร ก็กินจีนไม่ลง ตรงกันข้ามกลับตื้อตันทันทีที่โดนจีนสวนกลับในแทบทุกจังหวะ ขืนยืนซดกันต่อไป​ เห็นท่าจะไม่ได้การ​ ทางออกที่ดีก็คือรักษา​สถานะ​ความเป็นมหาอำนาจ​หมายเลขหนึ่ง​เอาไว้​ แล้วให้จีนมายืนประกบในฐานะมหาอำนาจหมายเลขสอง สองมหาอำนาจร่วมกันปกครองทั้งโลก​ น่าจะสวยที่สุด ถ้าเป็นก่อนหน้านี้​...

“การกุศลนิยม” พ่นพิษ สถาบันจัดอันดับโลก ปรับลดเครดิตไทยระนาว

https://youtu.be/2TAyqk9d2SU ละครการเมืองฉากใหญ่ ซุกซ่อนปัญหาเศรษฐกิจ ลดขีดความสามารถทางการแข่งขันของคนไทย ทำเครดิตประเทศตกต่ำ หลายสถาบันจัดอันดับโลก ปรับลดความน่าเชื่อถือ นายธีระชัย ภูวนาถนรานุบาล รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวว่า การเมืองยุคปัจจุบัน ยังแก้ปัญหาด้วยการแจกเงิน กลายเป็น “การกุศลนิยม” ซึ่งเงินก็คือเงินของประชาชน ปัญหาคือการนำภาษีมาแจก ส่งผลให้ประเทศขาดดุลงบประมาณ 3-4 เปอร์เซ็นต์ เมื่อปิดหีบงบประมาณไม่ได้ ต้องอาศัยเงินกู้ ทำให้หนี้สาธารณะเพิ่มขึ้นทุกปี ขณะที่การแจกเงิน  นำไปกิน ไปใช้ประจำวัน ทำให้ประชาชนหลงทาง บอกว่าการกระตุ้นเศรษฐกิจแบบนี้ดี สุดท้ายแค่ไฟไหม้ฟาง ความคิดแบบเพ้อฝัน เสนอสิ่งที่ดีที่สุดในจักรวาล ไม่ได้เพิ่มความสามารถทางการแข่งขันของพลเมือง  จนสถาบันจัดอันดับเครดิตเตือน เพราะฉะนั้นการใช้นโยบายการคลังแล้วหวังว่าจะกระตุ้นเศรษฐกิจ เป็นการกระตุ้นรอบเดียว เช่น แจกเงินหมื่น นำไปกินไปใช้ คนที่ได้ประโยชน์คือคนขายของบริษัทขนาดใหญ่ แต่ได้ประโยชน์แค่รอบเดียว ล่าสุด ประเทศไทยถูก...

ปปง.ถอนรากถอนโคน สแกมเมอร์ข้ามชาติสาย ‘ลี ยงพัด’

https://youtu.be/WtnkVEbga_M นาทีนี้ไม่มีคำว่าปรานี! แม้รัฐบาลจะยกระดับให้การปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีเป็น “วาระแห่งชาติ” ปปง. ก็เดินหน้า 'ปิดฉาก' เครือข่ายสแกมเมอร์ข้ามชาติอย่างดุดัน! วันนี้ (31 ต.ค. 2568) ปปง. ประกาศ 'อวสานเส้นทางเงินบาป' ด้วยการสั่งยึดและอายัดทรัพย์สิน เพิ่มเติมอีกกว่า 350 ล้านบาท ที่เชื่อมโยงกับนายพัด สุภาภา หรือ ลี ยงพัด กับพวก ทำให้ยอดรวมการทวงคืนทรัพย์สินทะลุ 650 ล้านบาท! นี่คือสัญญาณชัดเจนว่า แผ่นดินนี้ไม่มีที่ยืนให้คนโกง! นายวิทยา นีติธรรม ผู้ช่วยเลขาธิการ ปปง. และโฆษกประจำสำนักงาน ปปง. ได้ออกแถลงการณ์สำคัญในวันนี้ (31 ตุลาคม 2568) โดยเน้นย้ำถึงมาตรการเด็ดขาดของรัฐบาลภายใต้การนำของ...

Enjoy exclusive access to all of our content

Get an online subscription and you can unlock any article you come across.