วันที่ 5 พ.ย.68 ที่ สำนักงานคณะกรรมการป้องกัน และปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (สำนักงาน ป.ป.ช.) สนามบินน้ำ นายศรีสุวรรณ จรรยา ผู้นำองค์กรรักชาติ รักแผ่นดิน ได้เดินมาไปยื่นหนังสือร้องเรียนต่อคณะกรรมการ ป.ป.ช.เพื่อขอให้ไต่สวนและวินิจฉัยชี้มูลความผิดผู้บริหารกระทรวงพลังงาน กฟผ.แม่เมาะ เหตุกระทำการโดยมิชอบด้วยกฎหมาย เป็นเหตุให้เกิดดินสไลด์สร้างความเสียหายนับ 100 ล้านบาท
ทั้งนี้สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 4 พ.ย.68 ที่ผ่านมาได้เกิดเหตุการเคลื่อนตัวของมวลดินและเกิดดินสไลด์บริเวณที่ทิ้งดินฝั่งตะวันตกด้านใต้ (SW Dump) ของเหมืองขุดถ่านหินลิกไนต์ ส่งผลให้อาคารสำนักงานและทรัพย์สินบางส่วนของผู้รับเหมาของ กฟผ. คือบริษัท สหกลอิควิปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) รวมทั้งถนน เสาและระบบสายส่งไฟฟ้า สายพานลำเลียง หม้อแปลงไฟฟ้าของ กฟผ.ได้รับความเสียหายอย่างมากนับ 100 ล้านบาท
เหตุที่เกิดขึ้นไม่ใช่เรื่องเหตุสุดวิสัย หากแต่เป็นความผิดพลาดและล้มเหลวในการวางแผนและการกำหนดมาตรการเพื่อความปลอดภัยอย่างชัดเจน โดยเฉพาะการอนุญาตให้ผู้รับเหมาเข้าไปก่อสร้างอาคารสำนักงานและสิ่งปลูกสร้างต่าง ๆ ในพื้นที่ใกล้แหล่งทิ้งดิน ซึ่ง กฟผ.มีวิศวกรที่มีความรู้ความสามารถล้นองค์กร จะไม่ทราบเลยหรือว่าการอนุญาตให้สร้างสิ่งปลูกสร้างใกล้แหล่งทิ้งดินที่มยังไม่มีความเสถียรของโครงสร้างดินที่มีความสูงของเนินดินทิ้งเป็นภูเขานั้น ย่อมมีความเสี่ยงสูงต่อการเกิดการสไลด์ตัวของดินมาถล่มทับได้ และเมื่อเกิดฝนตกมามากๆดินที่ยังไม่เสถียรย่อมอุ้มน้ำจนกลายเป็นวิบัติขึ้นมา และเมื่อปี 2561 ก็เคยเกิดเหตุทำให้คนงานเสียชีวิตไป 1 รายแล้วนั่นเอง
อย่างไรก็ตาม กฟผ.พยายามอ้างว่าเหตุทร่เกิดขึ้นไม่ส่งผลกระทบกับชุมชนโดยรอบ และไม่กระทบกับการจ่ายกระแสไฟฟ้าในพื้นที่ภาคเหนือนั้น แต่พูดความจริงไม่หมด เพียงแต่พยายามสร้างภาพว่าไม่มีปัญหาและไม่มีผลกระทยเท่านั้น แต่ความจริงความเสียหายและผลกระทบดังกล่าว ได้สร้างความหวาดผวาให้เกิดกับขาวบ้านในพื้นที่ใกล้เหมืองอย่างมากโดยไม่มีหลักประกันแต่อย่างใด และการแก้ไขฟื้นฟูความเสียหายนั้นจะต้องใช้ค่าใช้จ่ายหลายร้อยล้านบาท ซึ่งค่าใช้จ่ายเหล่านี้จะถูกนำไปลงในบัญชีการดำเนินงานผลิตไฟฟ้าของ กฟผ. ซึ่งสุดท้ายก็จะผลักภาระไปให้ผู้ใช้ไฟฟ้าทุกครัวเรือนผ่านค่าเอฟที(Ft)นั่นเอง
นอกจากนี้ การอนุญาตให้ปลูกสร้างอาคารสำนักงานใดๆในแหล่งทิ้งดินในเหมืองไม่ปรากฎในรายงานผลกระทบสิ่งแวดล้อม(EHIA) และในมาตรการความเสี่ยงภ้ยด้านสิ่งแวดล้อมและสุขภาพแต่อย่างใด อันถือได้ว่าเป็นการกระทำโดยมิชอบของผู้บริหาร กฟผ.แม่เมาะ ยันมาถึง กกพ.และ รมว.พลังงาน ที่เพิกเฉยต่อการกำกับดูแลด้วย
องค์การรักชาติ รักแผ่นดิน จึงนำความมาชี้ให้ ป.ป.ช.ไต่สวนและวินิจฉัยชี้มูลความผิดผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งหมด เพื่อมิให้เกิดเหตุเยี่ยงนี้ซ้ำซากอีกต่อไป
