“….”ความคิดฝันของประชาชน คือเป้าหมายที่เราจะต้องทำให้ปรากฏเป็นจริง” นี่คือคำพูดหนักแน่นของประธานาธิบดีสีจิ้นผิงในทุกโอกาสที่ได้พบปะกับประชาชนชาวจีนในทุกหนทุกแห่งที่ท่านไปถึง ผู้นำของจีนจึงจะต้องประกอบไปด้วยคุณสมบัติของผู้นำเฉกเช่นสีจิ้นผิง สามารถปฏิบัติหน้าที่แบบ “ไม่มีฉัน” ใช้อำนาจบริหารเพื่อประเทศชาติและประชาชนโดยปราศจากผลประโยชน์เฉพาะตนอย่างแท้จริง คิด พูด และทำได้อย่างสอดคล้องกับความเป็นจริงมากที่สุด รู้ปัญหา รู้วิธีแก้ปัญหา สามารถระดมสรรพกำลังแก้ไขปัญหา สอดคล้องกับความเรียกร้องต้องการของประชาชนมากที่สุด โดยไม่ต้องรอให้ประชาชนนำเสนอ จนกระทั่งประชาชนรู้สึกพอใจสูงสุดเสมอ หลักนี้ ปัจจุบันถูกบรรจุไว้ในฐานะเข็มทิศชี้นำทางความคิดและการปฏิบัติของชาวพรรคคอมมิวนิสต์จีนทั่วไป และเป็นเส้นแบ่งทางสังคมที่ชัดเจนระหว่างสมาชิกพรรคกับประชาชนทั่วไป ซึ่งจะมีการคัดสรรผู้ปฏิบัติงานที่เก่งที่สุดในหมู่เพื่อนสมาชิกพรรคด้วยกันขึ้นรับหน้าที่การงานสำคัญๆ ยิ่งเก่งยิ่งมีผลงานมากก็จะยิ่งได้ทำงานใหญ่ขึ้น …”

คุณสมบัติ 3 ประการของผู้นำยุคใหม่แบบสีจิ้นผิง习近平式领导三本领
“ความคิดฝันของประชาชน คือเป้าหมายที่เราจะต้องทำให้ปรากฏเป็นจริง”
นี่คือคำพูดหนักแน่นของประธานาธิบดีสีจิ้นผิงในทุกโอกาสที่ได้พบปะกับประชาชนชาวจีนในทุกหนทุกแห่งที่ท่านไปถึง ซึ่งจะได้รับเสียงปรบมือกึกก้องตอบรับอย่างสุดจิตสุดใจ
จิตใจผู้นำกับจิตใจประชาชนเชื่อมโยงเป็นหนึ่งเดียว ด้วยการถือเอาผลประโยชน์ของประชาชนเป็นตัวตั้ง
สะท้อนแก่นในของคติธรรม”ประชาชนสูงสุด” หรือ”เหรินหมินจื้อซ่าง” (人民至上)ที่ชาวพรรคคอมมิวนิสต์จีนยึดมั่นและต้องทำให้ถึง
จากกรณีศึกษาบุคลิกการนำเชิงเปรียบเทียบ ระหว่างสีจิ้นผิงกับผู้นำโลกยุคใหม่ ในบริบทที่ทุกอย่างเชื่อมโยงกันเข้าเป็นหนึ่งเดียวกันทั้งโลกด้วยเทคโนโลยี่เอไอและการสื่อสารไวเท่าแสงหลากหลายช่องทาง ชาวโลกมองเห็นมากขึ้นุในคุณสมบัติผู้นำที่ตนต้องการ แล้วก็มีมติในตัวอย่างเป็นเอกฉันท์ว่า ผู้นำของเขาจะต้องประกอบไปด้วยคุณสมบัติของผู้นำเฉกเช่นสีจิ้นผิงเป็นเบื้องต้น
ซึ่งในความเข้าใจของผู้เขียน คุณสมบัติเช่นว่านี้ สามารถไฮไลต์ขึ้นมาเสนอท่านผู้อ่านได้สามประการ ดังนี้
ประการแรก สามารถปฏิบัติหน้าที่แบบ”ไม่มีฉัน” ใช้อำนาจบริหารเพื่อประเทศชาติและประชาชนโดยปราศจากผลประโยชน์เฉพาะตนอย่างแท้จริง
ประการที่สอง คิด พูด และทำได้อย่างสอดคล้องกับความเป็นจริงมากที่สุด รู้ปัญหา รู้วิธีแก้ปัญหา สามารถระดมสรรพกำลังแก้ไขปัญหาได้ดีที่สุด
ประการที่สาม คิด พูด และทำได้อย่างสอดคล้องกับความเรียกร้องต้องการของประชาชนมากที่สุด โดยไม่ต้องรอให้ประชาชนนำเสนอ แต่สามารถคาดหมายล่วงหน้าถึงทิศทางความต้องการที่มากขึ้นเรื่อยๆตามยุคสมัยของประชาชน และกำหนดแผนรองรับให้ได้มากที่สุดในทุกขั้นตอนของการพัฒนาประเทศ จนกระทั่งประชาชนรู้สึกพอใจสูงสุดเสมอ
หลักสามประการนี้ ปัจจุบันถูกบรรจุไว้ในฐานะเข็มทิศชี้นำทางความคิดและการปฏิบัติของชาวพรรคคอมมิวนิสต์จีนทั่วไป และเป็นเส้นแบ่งทางสังคมที่ชัดเจนระหว่างสมาชิกพรรคกับประชาชนทั่วไป
โดยนัยก็คือจะไม่เรียกร้องให้คนจีนทั่วไปยึดปฏิบัติ แต่จะเป็นตัววัดว่าใครจะสมัครเข้าเป็นสมาชิกพรรคฯ ก็ต้องผ่านเกณฑ์การตรวจสอบสามประการนี้
อีกนัยหนึ่ง สมาชิกพรรคคอมมิวนิสต์จีน จะถูกตรวจสอบคุณสมบัติในระดับสูงกว่า เข้มงวดกว่าประชาชนทั่วไป
เพื่อเป็นหลักประกันเบื้องต้นว่าพวกเขายึดมั่นในอุดมการณ์ลัทธิมาร์กซ์ที่ถือเอาประชาชนเป็นศูนย์กลาง ต้องยืนอยู่บนความถูกต้องของประวัติศาสตร์ และสามารถรวมพลังทุกภาคส่วนแก้ไขปัญหาใหญ่ๆได้เสมอ
ดังนั้น เราจึงพบว่า กระบวนการคัดสรรผู้นำในประเทศจีน มีการแบ่งออกเป็นสองระดับใหญ่ๆ
ระดับต้น คัดสรรสมาชิกพรรคจากประชาชนที่มุ่งทุ่มเทชีวิตให้กับการรับใช้ประชาชน
ระดับที่สอง คัดสรรผู้ปฏิบัติงานที่เก่งที่สุดในหมู่เพื่อนสมาชิกพรรคด้วยกันขึ้นรับหน้าที่การงานสำคัญๆ ยิ่งเก่งยิ่งมีผลงานมากก็จะยิ่งได้ทำงานใหญ่ขึ้น
ในทางปฏิบัติ การช่วงชิงกันขึ้นเป็นผู้นำอาจจะเกิดขึ้นในระหว่างนั้น ปัญหาเช่นนี้มีมาแล้วตั้งแต่ยุคปฏิวัติ แต่ก็เป็นการช่วงชิงระหว่างผิดกับถูก ซึ่งหลายครั้งก็ต้องให้ผลจากการปฏิบัติจริงเป็นตัวตัดสิน
การขึ้นเป็นผู้นำสูงสุดของเหมาเจ๋อตง ก็เป็นผลจากการพิสูจน์ถึงความล้มเหลวของคณะผู้นำชุดเก่า การขึ้นนำพรรคฯของเติ้งเสี่ยวผิงก็เป็นผลจากความผิดพลาดอย่างร้ายแรงของแก๊งสี่คน
ขณะที่การขึ้นนำพรรคฯของสีจิ้นผิงเป็นมติเอกฉันท์ภายในพรรคฯถึงความเพียบพร้อมในคุณสมบัติของความเป็นผู้นำที่แสดงออกตลอดระยะเวลาหลายสิบปีที่อุทิศตัวรับใช้ประชาชน
กระบวนการเชิงบวกที่นับวันทันสมัยและทันการณ์เช่นนี้ ได้ปรากฏเป็นที่ประจักษ์ชัดเจนยิ่งขึ้นทั้งในสายตาชาวจีนและชาวโลก
ซึ่งถ้าเราไม่รังเกียจคำว่า”คอมมิวนิสต์” ก็น่าจะนำมาปรับใช้กับประเทศไทย เพื่อให้ประชาชนไทยมีทางเลือกที่เป็นของตนเองอย่างแท้จริง!
ไขคำจีน
หลิงต่าว การนำ



