วันอาทิตย์, ตุลาคม 5, 2025
หน้าแรกคอลัมนิสต์สืบจากข่าวใหญ่กว่า “กสทช.” ควบรวม “ทรูและดีแทค”

ใหญ่กว่า “กสทช.” ควบรวม “ทรูและดีแทค”

Published on

spot_img

“…ฉับพลันที่ “เจ้าสัวน้อย” นายศุภชัย เจียรวนนท์ ประธานคณะผู้บริหาร เครือเจริญโภคภัณฑ์ และประธานกรรมการบริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด(มหาชน) ออกมาประกาศกร้าวถึงความคืบหน้าของ “ดีล” ควบรวมกิจการระหว่างทรูและดีแทคที่จะผนึกกิจการสู่บริษัท Telecom-Tech Company…”

โดยย้ำว่า ตามประกาศ กสทช.เรื่องมาตรการควบรวมกิจการโทรคมนาคมปี 2561 นั้น การควบรวมกิจการระหว่างกลุ่มทรูและดีแทค สามารถทำได้เลยไม่ต้องขออนุมัติต่อกสทช. และไม่ขัดต่อกฎหมาย “แต่ กสทช. มีอำนาจในการสร้างเงื่อนไขที่จะลดผลกระทบทางลบ และเพิ่มผลกระทบทางบวกที่เกิดประโยชน์สูงสุดต่อประเทศและผู้บริโภค และหากจะมีข้อโต้แย้งที่จะไม่อนุมัติต้องไปที่ศาลปกครอง ซึ่งไม่มีผู้ให้บริการรายไหนอยากจะไปถึงจุดนั้น”

ประกาศิตของเจ้าสัวน้อยข้างต้นจะผิด-ถูกอย่างไร แต่แวดวงสื่อสารโทรคมนาคมต่างก็ “อึ้งกิมกี่” เพราะเป็นการ “ตีแสกหน้า” กสทช.ที่แทบจะไม่ให้ค่าองค์กรกำกับดูแลแห่งนี้แม้แต่น้อย การที่บริษัทเอกชนออกมาประกาศกร้าวว่าสามารถจะดำเนินการควบรวมกิจการกันได้ตามกฎหมาย โดยไม่ต้องขออนุมัติจาก กสทช.นั้น

แล้วจะมีองค์กร กสทช.ไว้ทำซากอะไร!

น่าแปลก! แทนที่ฝ่ายบริหาร กสทช.และโดยเฉพาะบอร์ด กสทช.จะออกมาฟ้อนเงี้ยวเกรี้ยวกราดที่องค์กรถูกหยันราวกับ ”ไม่มีตัวตน” เช่นนี้ แต่วันวาน นายไตรรัตน์ วิริยะศิริกุล รักษาการแทนเลขาธิการ กสทช. กลับออกมาฟ้อนเงี้ยวกรณีมีการปูดเอกสารรายงานผลศึกษาของอนุกรรมการศึกษาผลกระทบดีลควบรวมทั้ง 4 ชุด ที่ กสทช.แต่งตั้งขึ้น ซึ่งมีรายงานหลุดออกมาว่าอนุกรรมการ 3 ชุดไม่เห็นด้วยกับการอนุมัติดีลควบรวมในครั้งนี้

โดยเจ้าตัวออกมายืนยันว่า รายงานผลสรุปของคณะอนุกรรมการฯ ทั้ง 4 ชุดยังอยู่ระหว่างการรวบรวมข้อมูลโดยสำนักงานฯ ซึ่งจำเป็นต้องประมวลข้อมูลจำนวนมากทั้งจากการประชุมของคณะอนุกรรมการ การจัดทำโฟกัสกรุ๊ปกับกลุ่มผู้เกี่ยวข้องต่างๆ และรายงานผลการศึกษาจากที่ปรึกษาทางวิชาการที่สำนักงาน กสทช.จัดจ้าง โดยล่าสุดสำนักงานฯ ได้ขอขยายเวลารวบรวมข้อมูลไปจนถึงวันที่ 3 ส.ค. 2565

พร้อมกับหันไปเร่งรัดกระบวนการรวบรวมข้อมูลของคณะทำงานประสานงานคณะอนุกรรมการฯที่รักษาการแทนเลขาธิการ กสทช.ใช้อำนาจแต่งตั้งขึ้น รวมทั้งยังมีคำสั่งสำนักงาน กสทช.ที่ 854/2565 แต่งตั้งคณะทำงานศึกษาแนวทางการกำหนดมาตรการเพื่อป้องกันผลกระทบจากกรณีการรวมธุรกิจ โดยมี นายเฉลิมชัย ก๊กเกียรติกุล เป็นประธานเพื่อศึกษา รวบรวมข้อมูลและแนวทางการกำหนดมาตรการเฉพาะหรือเงื่อนไขในการกำกับดูแลเพื่อป้องกันมิให้มีการกระทำอันเป็นการผูกขาด ลด จำกัด หรือก่อให้เกิดความไม่เป็นธรรมในการแข่งขันในตลาดโทรคมนาคม หรือตลาดที่เกี่ยวข้อง

นี่สำนักงานกสทช.กำลังเล่นพิเรนทร์อะไรกันหรือ?

ขณะที่ประเด็นการควบรวมกิจการยังไม่ตกผลึก กสทช.สมควรจะอนุมัติดีลควบรวมครั้งประวัติศาสตร์นี้หรือไม่? และมีอำนาจพิจารณาอนุมัติหรือไม่? จน กสทช.ต้องแต่งตั้งอนุกรรมการศึกษาผลกระทบจากการควบรวมถึง 4 ชุด ซึ่งแต่ละชุดมีความเห็นอย่างไรนั้น ก็มีรายงานประจักษ์ชัดรองรับมีบันทึกการประชุมชัดเจนอยู่แล้ว ก่อนจะนำเสนอต่อที่ประชุมกสทช.

แน่นอน! ในท้ายที่สุดหากที่ประชุม กสทช.จะพิจารณาอนุมัติดีลควบรวมฯโดยมีเงื่อนไข หรือกำหนดมาตรการเฉพาะเพื่อรองรับผลกระทบที่จะเกิดขึ้น ก็สมควรจะเป็นเรื่องที่กสทช.จะเป็นผู้พิจารณาสั่งการ หรือมีคำสั่งให้สำนักงาน กสทช.ต้องจัดทำมาตรการเฉพาะขึ้นมาไม่ใช่หรือ?

มันหาได้เป็นอำนาจหน้าที่ที่สำนักงานฯจะด่วนไปพิจารณาดำเนินการกำหนดมาตรการก่อนหน้าที่ทำราวกับว่าได้รับไฟเขียวจากที่ประชุมบอร์ด กสทช.ไปแล้ว

เหนือสิ่งอื่นใด หากทุกฝ่ายจะได้ย้อนกลับไปพิจารณาคำสั่งของศาลปกครองเมื่อวันที่ 16 มิ.ย.65 ที่ได้มีคำสั่งยกคำร้องของ นายณภัทร วินิจฉัยกุล กรรมการติดตามการปฏิบัติหน้าที่ของ กสทช. หรือ “ซุปเปอร์บอร์ด กสทช.”กรณียื่นฟ้องคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) โดยระบุว่าประกาศ กสทช. เรื่องมาตรการกำกับดูแลการรวมธุรกิจในกิจการโทรคมนาคมลงวันที่ 4 ธันวาคม 2560 (ประกาศการรวมธุรกิจฯ)ไม่ชอบด้วยกฎหมาย ขอให้มีคำสั่งทุเลาการบังคับ หรือหยุดใช้ประกาศเรื่องการรวมธุรกิจฯ โดยเร่งด่วน

แม้ศาลปกครองกลางจะมีคำสั่งยกคำร้องด้วยเห็นว่า ประกาศ กสทช.เรื่อง มาตรการกำกับดูแลการรวมธุรกิจในกิจการโทรคมนาคมลงวันที่ 4 ธ.ค. 2560 ประกอบประกาศ กสทช.ว่าด้วยมาตรการป้องกันการผูกขาดปี 2549 นั้น ได้ให้อำนาจ กสทช.ที่จะพิจารณา “อนุมัติ” หรือไม่อนุมัติการขอควบรวมธุรกิจได้อยู่แล้ว หากพิจารณาเห็นว่า การรวมธุรกิจดังกล่าวอาจส่งผลให้เกิดการผูกขาด หรือลด หรือ จำกัดการแข่งขันในการให้บริการโทรคมนาคม จึงให้ยกคำร้องขอคุ้มครองชั่วคราวไป

แล้วจะบอกว่า บริษัทเอกชนสามารถที่จะดำเนินการควบรวมกิจการโดยไม่จำเป็นต้องขออนุมัติ กสทช.ได้อย่างไร ?

ก็คงต้องฝากเตือนสติ กสทช.ชุดปัจจุบัน โดยขอยกเอาจดหมายเปิดผนึกของ ศ.ประสิทธิ์ ประพิณมงคลการ อดีตประธานคณะกรรมการกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ(กทช.) ที่ได้ส่งจดหมายเปิดผนึกแสดงความเห็นคัดค้านการควบรวมกิจการในครั้งนี้ พร้อมเรียกร้องให้ กสทช.จริงจังกับการบังคับใช้หลักเกณฑ์กำกับดูแลของตนเอง

แต่จะฝากความหวังได้มากน้อยแค่ไหน เมื่อเห็นสิ่งที่สำนักงาน กสทช.ดำเนินการไปในเวลานี้ ก็ไม่รู้ประชาชนคนไทยและวงการสื่อสารโทรคมนาคมไทยจะฝากความหวังไว้กับองค์การนี้ได้มากน้อยแค่ไหน?!!!

Latest articles

นายพลป้ายแดง “ผู้การตุ๋ย” พล.ต.ต.ชาตรี สุขศิริ ขึ้นรับตำแหน่ง ผบก.อก.ภ.2 พร้อมภริยา “คุณเอ๋” สักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ก่อนเริ่มปฏิบัติราชการ

เมื่อเวลา 09.00 น. วันเสาร์ที่ 4 ตุลาคม 2568 ณ สำนักงานตำรวจภูธรภาค 2 พล.ต.ต.ชาตรี สุขศิริ หรือที่เพื่อนร่วมรุ่นรู้จักกันในนาม “ผู้การตุ๋ย”...

“นายกเมืองชล”ให้นักเรียนประถม-มัธยม มีส่วนร่วมเพ้นท์สีควายปูนสวยงาม งานวิ่งควายชลบุรี “พ่อเมืองคนใหม่-นายกอบจ.ชลบุรี” ร่วมขบวนแห่เกวียนกัณฑ์ ”รองนายกรัฐมนตรี“เปิดงานประเพณีวิ่งควายชลบุรี ครั้งที่ 154

“นายกเมืองชล”ให้นักเรียนประถม-มัธยม มีส่วนร่วมเพ้นท์สีควายปูนสวยงาม งานวิ่งควายชลบุรี “พ่อเมืองคนใหม่-นายกอบจ.ชลบุรี” ร่วมขบวนแห่เกวียนกัณฑ์ ”รองนายกรัฐมนตรี“เปิดงานประเพณีวิ่งควายชลบุรี ครั้งที่ 154 ”นายกหนุ่ม“นายองอาจ ประเสริฐจิตต์ นายกเทศมนตรีเทศบาลเมืองชลบุรี เปิดเผยว่าในการจัดงานประเพณีวิ่งควายครั้งที่ 154 ประจำปี 2568...

จีน “เปิดประตูรับคนเก่งทั้งโลก”ต้อนรับ “นศ.ด้านเทคโนโลยี่”เปิดวีซ่า “ใช้ชีวิตเหมือนคนจีน”

https://youtu.be/OgeHmhaL9Qw “…..จากแนวคิดที่ว่า ทรัพยากรมนุษย์คุณภาพสูงเป็นองค์ประกอบสำคัญของพลังการผลิตคุณภาพใหม่ พวกเขาสามารถนำทฤษฎีวิทยาศาสตร์เทคโนโลยีที่ก้าวหน้ามาพัฒนาเครื่องมือและอุปกรณ์ต่างๆ กระทั่งสร้างผลงานด้านนวัตกรรมล้ำยุคขึ้นมาได้อย่างไม่ขาดสาย อะไรต่อมิอะไรที่เป็นสิ่งประดิษฐ์ใหม่ๆก็จะเกิดขึ้นที่จีนก่อนแล้วจึงกระจายไปทั่วโลก จีนแสดงความพร้อมอีกแล้ว เมื่อเปิดใช้นโยบายเปิดประตูต้อนรับคนหนุ่มสาวหัวกระทิจากทุกมุมโลกเข้าไปสร้างอนาคตและผลงานในประเทศจีนได้ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคมนี้เป็นต้นไป โดยคนหนุ่มสาวที่จบปริญญาตรีหรือสูงกว่านั้นทางด้านวิทยาศาสตร์เทคโนโลยีจากสถาบันการศึกษาที่จีนรับรองสามารถยื่นขอวีซ่าประเภท K ต่อสถานทูตจีนทุกแห่งทั่วโลก โดยไม่ต้องมีเอกสารอื่นใดประกอบ และเมื่อได้รับอนุมัติแล้วก็สามารถเดินทางเข้าประเทศจีน...

ศาลอุทธรณ์ยืนตามศาลชั้นต้น ยกฟ้อง“แพรรี่-จตุรงค์”หมิ่นประมาท-ดูหมิ่นด้วยการโฆษณา” หลวงพี่น้ำฝน ในโหนกระแส ปมวิจารณ์ “ลงนะหน้าทอง”

ศาลอุทธรณ์ภาค 7 มีคำพิพากษายืนตามศาลชั้นต้น ยกฟ้อง "แพรรี่ ไพรวัลย์ วรรณบุตร" (อดีตพระมหาไพรวัลย์) และ "จตุรงค์ จงอาษา" นักวิชาการด้านศาสนา ในคดีที่ถูกฟ้องร้องฐานหมิ่นประมาทและดูหมิ่นด้วยการโฆษณา กรณีร่วมรายการ...

คุณอาจชอบเนื้อหาเหล่านี้

พายุฝนถล่ม กทม. ต้นไม้ล้มขวางถนน-บ้านพัง การจราจรเป็นอัมพาตหลายจุด

https://www.youtube.com/watch?v=r5CDAGSG-z4 เมื่อ 05.50 น. วันที่ 3 ต.ค.68 กรมอุตุนิยม แจ้งผ่านรายการข่าววิทยุ อสมท.100.5 ว่า ฝนที่ตกหนักช่วงเช้ามืดวันนี้ในพื้นที่ กทม.เป็น‘ลมหมุน’ มาเร็วไปเร็ว ผู้สื่อข่าวรายงานว่า...

โบกสะบัดพร้อมเพรียง! 28 กันยาฯ ปลุกใจไทยทั้งชาติ รำลึก 108 ปี เกียรติภูมิ “ธงไตรรงค์”

รัฐบาลเชิญชวนชาวไทยทั่วประเทศ ร่วมประดับธงชาติไทยให้โบกสะบัดโดยพร้อมเพรียงกันในวันที่ 28 กันยายนนี้ เนื่องในวาระครบรอบ 108 ปี "วันพระราชทานธงชาติไทย" เพื่อร่วมจารึกประวัติศาสตร์และน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว ผู้พระราชทานธงไตรรงค์ให้เป็นศักดิ์ศรีแห่งสยามประเทศ วันนี้ (28 ก.ย. 68) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า...

โรงพยาบาลวชิระ เปิดให้บริการตามปกติหลังเหตุถนนทรุด – จนท.เร่งอัดปูน-เฝ้าระวัง 24 ชม.

เมื่อเวลา 08.10 น.วันที่ 26 ก.ย.68 ผู้สื่อข่าวรายงานจากพื้นที่บรรยากาศบริเวณถนนที่เกิดเหตุทรุดตัว หน้าโรงพยาบาลวชิรพยาบาล เขตดุสิตสถานการณ์เริ่มกลับเข้าสู่ภาวะปกติ เดิมโรงพยาบาลซึ่งได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ดังกล่าว ได้กลับมาเปิดให้บริการตามปกติแล้ว โดยเฉพาะอาคารผู้ป่วยนอก "ทีปังกรรัศมีโชติ" ที่ได้ปิดให้บริการชั่วคราวเป็นเวลา 2...