วันพุธ, สิงหาคม 20, 2025
หน้าแรกคอลัมนิสต์สืบจากข่าวใหญ่กว่า “กสทช.” ควบรวม “ทรูและดีแทค”

ใหญ่กว่า “กสทช.” ควบรวม “ทรูและดีแทค”

Published on

spot_img

“…ฉับพลันที่ “เจ้าสัวน้อย” นายศุภชัย เจียรวนนท์ ประธานคณะผู้บริหาร เครือเจริญโภคภัณฑ์ และประธานกรรมการบริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด(มหาชน) ออกมาประกาศกร้าวถึงความคืบหน้าของ “ดีล” ควบรวมกิจการระหว่างทรูและดีแทคที่จะผนึกกิจการสู่บริษัท Telecom-Tech Company…”

โดยย้ำว่า ตามประกาศ กสทช.เรื่องมาตรการควบรวมกิจการโทรคมนาคมปี 2561 นั้น การควบรวมกิจการระหว่างกลุ่มทรูและดีแทค สามารถทำได้เลยไม่ต้องขออนุมัติต่อกสทช. และไม่ขัดต่อกฎหมาย “แต่ กสทช. มีอำนาจในการสร้างเงื่อนไขที่จะลดผลกระทบทางลบ และเพิ่มผลกระทบทางบวกที่เกิดประโยชน์สูงสุดต่อประเทศและผู้บริโภค และหากจะมีข้อโต้แย้งที่จะไม่อนุมัติต้องไปที่ศาลปกครอง ซึ่งไม่มีผู้ให้บริการรายไหนอยากจะไปถึงจุดนั้น”

ประกาศิตของเจ้าสัวน้อยข้างต้นจะผิด-ถูกอย่างไร แต่แวดวงสื่อสารโทรคมนาคมต่างก็ “อึ้งกิมกี่” เพราะเป็นการ “ตีแสกหน้า” กสทช.ที่แทบจะไม่ให้ค่าองค์กรกำกับดูแลแห่งนี้แม้แต่น้อย การที่บริษัทเอกชนออกมาประกาศกร้าวว่าสามารถจะดำเนินการควบรวมกิจการกันได้ตามกฎหมาย โดยไม่ต้องขออนุมัติจาก กสทช.นั้น

แล้วจะมีองค์กร กสทช.ไว้ทำซากอะไร!

น่าแปลก! แทนที่ฝ่ายบริหาร กสทช.และโดยเฉพาะบอร์ด กสทช.จะออกมาฟ้อนเงี้ยวเกรี้ยวกราดที่องค์กรถูกหยันราวกับ ”ไม่มีตัวตน” เช่นนี้ แต่วันวาน นายไตรรัตน์ วิริยะศิริกุล รักษาการแทนเลขาธิการ กสทช. กลับออกมาฟ้อนเงี้ยวกรณีมีการปูดเอกสารรายงานผลศึกษาของอนุกรรมการศึกษาผลกระทบดีลควบรวมทั้ง 4 ชุด ที่ กสทช.แต่งตั้งขึ้น ซึ่งมีรายงานหลุดออกมาว่าอนุกรรมการ 3 ชุดไม่เห็นด้วยกับการอนุมัติดีลควบรวมในครั้งนี้

โดยเจ้าตัวออกมายืนยันว่า รายงานผลสรุปของคณะอนุกรรมการฯ ทั้ง 4 ชุดยังอยู่ระหว่างการรวบรวมข้อมูลโดยสำนักงานฯ ซึ่งจำเป็นต้องประมวลข้อมูลจำนวนมากทั้งจากการประชุมของคณะอนุกรรมการ การจัดทำโฟกัสกรุ๊ปกับกลุ่มผู้เกี่ยวข้องต่างๆ และรายงานผลการศึกษาจากที่ปรึกษาทางวิชาการที่สำนักงาน กสทช.จัดจ้าง โดยล่าสุดสำนักงานฯ ได้ขอขยายเวลารวบรวมข้อมูลไปจนถึงวันที่ 3 ส.ค. 2565

พร้อมกับหันไปเร่งรัดกระบวนการรวบรวมข้อมูลของคณะทำงานประสานงานคณะอนุกรรมการฯที่รักษาการแทนเลขาธิการ กสทช.ใช้อำนาจแต่งตั้งขึ้น รวมทั้งยังมีคำสั่งสำนักงาน กสทช.ที่ 854/2565 แต่งตั้งคณะทำงานศึกษาแนวทางการกำหนดมาตรการเพื่อป้องกันผลกระทบจากกรณีการรวมธุรกิจ โดยมี นายเฉลิมชัย ก๊กเกียรติกุล เป็นประธานเพื่อศึกษา รวบรวมข้อมูลและแนวทางการกำหนดมาตรการเฉพาะหรือเงื่อนไขในการกำกับดูแลเพื่อป้องกันมิให้มีการกระทำอันเป็นการผูกขาด ลด จำกัด หรือก่อให้เกิดความไม่เป็นธรรมในการแข่งขันในตลาดโทรคมนาคม หรือตลาดที่เกี่ยวข้อง

นี่สำนักงานกสทช.กำลังเล่นพิเรนทร์อะไรกันหรือ?

ขณะที่ประเด็นการควบรวมกิจการยังไม่ตกผลึก กสทช.สมควรจะอนุมัติดีลควบรวมครั้งประวัติศาสตร์นี้หรือไม่? และมีอำนาจพิจารณาอนุมัติหรือไม่? จน กสทช.ต้องแต่งตั้งอนุกรรมการศึกษาผลกระทบจากการควบรวมถึง 4 ชุด ซึ่งแต่ละชุดมีความเห็นอย่างไรนั้น ก็มีรายงานประจักษ์ชัดรองรับมีบันทึกการประชุมชัดเจนอยู่แล้ว ก่อนจะนำเสนอต่อที่ประชุมกสทช.

แน่นอน! ในท้ายที่สุดหากที่ประชุม กสทช.จะพิจารณาอนุมัติดีลควบรวมฯโดยมีเงื่อนไข หรือกำหนดมาตรการเฉพาะเพื่อรองรับผลกระทบที่จะเกิดขึ้น ก็สมควรจะเป็นเรื่องที่กสทช.จะเป็นผู้พิจารณาสั่งการ หรือมีคำสั่งให้สำนักงาน กสทช.ต้องจัดทำมาตรการเฉพาะขึ้นมาไม่ใช่หรือ?

มันหาได้เป็นอำนาจหน้าที่ที่สำนักงานฯจะด่วนไปพิจารณาดำเนินการกำหนดมาตรการก่อนหน้าที่ทำราวกับว่าได้รับไฟเขียวจากที่ประชุมบอร์ด กสทช.ไปแล้ว

เหนือสิ่งอื่นใด หากทุกฝ่ายจะได้ย้อนกลับไปพิจารณาคำสั่งของศาลปกครองเมื่อวันที่ 16 มิ.ย.65 ที่ได้มีคำสั่งยกคำร้องของ นายณภัทร วินิจฉัยกุล กรรมการติดตามการปฏิบัติหน้าที่ของ กสทช. หรือ “ซุปเปอร์บอร์ด กสทช.”กรณียื่นฟ้องคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) โดยระบุว่าประกาศ กสทช. เรื่องมาตรการกำกับดูแลการรวมธุรกิจในกิจการโทรคมนาคมลงวันที่ 4 ธันวาคม 2560 (ประกาศการรวมธุรกิจฯ)ไม่ชอบด้วยกฎหมาย ขอให้มีคำสั่งทุเลาการบังคับ หรือหยุดใช้ประกาศเรื่องการรวมธุรกิจฯ โดยเร่งด่วน

แม้ศาลปกครองกลางจะมีคำสั่งยกคำร้องด้วยเห็นว่า ประกาศ กสทช.เรื่อง มาตรการกำกับดูแลการรวมธุรกิจในกิจการโทรคมนาคมลงวันที่ 4 ธ.ค. 2560 ประกอบประกาศ กสทช.ว่าด้วยมาตรการป้องกันการผูกขาดปี 2549 นั้น ได้ให้อำนาจ กสทช.ที่จะพิจารณา “อนุมัติ” หรือไม่อนุมัติการขอควบรวมธุรกิจได้อยู่แล้ว หากพิจารณาเห็นว่า การรวมธุรกิจดังกล่าวอาจส่งผลให้เกิดการผูกขาด หรือลด หรือ จำกัดการแข่งขันในการให้บริการโทรคมนาคม จึงให้ยกคำร้องขอคุ้มครองชั่วคราวไป

แล้วจะบอกว่า บริษัทเอกชนสามารถที่จะดำเนินการควบรวมกิจการโดยไม่จำเป็นต้องขออนุมัติ กสทช.ได้อย่างไร ?

ก็คงต้องฝากเตือนสติ กสทช.ชุดปัจจุบัน โดยขอยกเอาจดหมายเปิดผนึกของ ศ.ประสิทธิ์ ประพิณมงคลการ อดีตประธานคณะกรรมการกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ(กทช.) ที่ได้ส่งจดหมายเปิดผนึกแสดงความเห็นคัดค้านการควบรวมกิจการในครั้งนี้ พร้อมเรียกร้องให้ กสทช.จริงจังกับการบังคับใช้หลักเกณฑ์กำกับดูแลของตนเอง

แต่จะฝากความหวังได้มากน้อยแค่ไหน เมื่อเห็นสิ่งที่สำนักงาน กสทช.ดำเนินการไปในเวลานี้ ก็ไม่รู้ประชาชนคนไทยและวงการสื่อสารโทรคมนาคมไทยจะฝากความหวังไว้กับองค์การนี้ได้มากน้อยแค่ไหน?!!!

Latest articles

สคบ. กรมการค้าภายใน ลงพื้นที่ตรวจสอบร้านขายไข่เจียวปู กรณีอาจเรียกเก็บเงินไม่ตรงตามเมนู

สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) ร่วมกับกรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ ตรวจสอบกรณีร้านอาหารจำหน่ายไข่เจียวปู ผู้บริโภคร้องเรียนว่า มีการเรียกเก็บเงินไม่ตรงกับราคาที่ระบุไว้ ในเมนู โดยเมนูไข่เจียวปูระบุราคาที่ 1,500 บาท แต่เมื่อชำระเงินกลับถูกเรียกเก็บสูงถึง 4,000 บาท...

ทส.ลุยลดก๊าซเรือนกระจกระหว่างประเทศ

“...การลงนามความร่วมมือคาร์บอนเครดิตระหว่างไทยและสิงคโปร์ ถือเป็นหมุดหมายสำคัญที่สะท้อนบทบาทนำของรัฐบาลไทย บนเวทีการแก้ปัญหาสภาพภูมิอากาศโลก ก้าวนี้ไม่เพียงแต่สร้างโอกาสทางเศรษฐกิจสีเขียว แต่ยังปูทางให้ประเทศไทยก้าวขึ้นสู่การเป็น “ศูนย์กลางคาร์บอนเครดิตแห่งอาเซียน”...” จากวิกฤตการณ์การเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศและภัยจากปรากฏการณ์ธรรมชาติที่รุนแรงขึ้น หลายประเทศทั่วโลกจึงร่วมมือกันจัดทำและดำเนินการตามนโยบายเพื่อแก้ไขปัญหาสภาวะโลกร้อนและลดก๊าซเรือนกระจก โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ประเทศที่ต้องการบรรลุเป้าหมายความเป็นกลางทางคาร์บอน (Carbon Neutrality) หรือการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero)...

2 มหาอำนาจ “จีน-อินเดีย” ดึงชาติกำลังพัฒนา กำหนดอนาคตโลกใหม่

“จีนและอินเดีย สองประเทศกำลังพัฒนาขนาดใหญ่ที่สุด ด้วยประชากรรวมกันกว่า 2,800 ล้านคน กำลังแสดงความรับผิดชอบระดับโลก ทำหน้าที่มหาอำนาจ เป็นแบบอย่างแก่กลุ่มประเทศกำลังพัฒนา ในการแสวงหาความแข็งแกร่ง ผ่านความเป็นหนึ่งเดียวกัน และมีส่วนส่งเสริมการสร้างโลกหลายขั้ว ยุติการกลั่นแกล้งรังแกอยู่ฝ่ายเดียว ตอกย้ำว่ามนุษยชาติ ได้เดินทางถึงทางแยกสำคัญ...

“จอนนี่มือปราบ” อ่วม! ปทส.แจ้งข้อหาเพิ่ม บุกรุกป่าสร้างรีสอร์ตหรู

จากกรณีที่อดีตตำรวจชื่อดังมีผู้ติดตาม FB กว่า 5 ล้านและยูทูบเบอร์ ด.ต.ยุทธพล ศรีสมพงษ์ หรือจอนนี่มือปราบ และภรรยา น.ส.จิราพร สีบุระ ถูกจับกุมในคดีสนับสนุนเจ้าพนักงานปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบฯ จากการออกเอกสารเท็จเกี่ยวกับรีสอร์ตในพื้นที่นิคมสร้างตนเองลำโดมน้อย อ.สิรินธร...

คุณอาจชอบเนื้อหาเหล่านี้

สคบ. กรมการค้าภายใน ลงพื้นที่ตรวจสอบร้านขายไข่เจียวปู กรณีอาจเรียกเก็บเงินไม่ตรงตามเมนู

สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) ร่วมกับกรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ ตรวจสอบกรณีร้านอาหารจำหน่ายไข่เจียวปู ผู้บริโภคร้องเรียนว่า มีการเรียกเก็บเงินไม่ตรงกับราคาที่ระบุไว้ ในเมนู โดยเมนูไข่เจียวปูระบุราคาที่ 1,500 บาท แต่เมื่อชำระเงินกลับถูกเรียกเก็บสูงถึง 4,000 บาท...

กลุ่มพลังชาวพุทธยื่นหนังสือถึง ผบช.ก. จี้หยุดใช้กฎหมายทำลายพุทธศาสนา

https://www.youtube.com/watch?v=8vV3kgWFv7k เมื่อเวลา 15.00 น. วันที่ 15 ส.ค.68 ที่บริเวณด้านหน้าศูนย์รับแจ้งความกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (บช.ก.) กลุ่มองค์กรปกป้องพระพุทธศาสนาเพื่อสันติภาพ (อปพส.) นำโดย นายประพันธุ์ กิตติฤดีกุล เลขาธิการองค์กรฯ...

“หมอบี” ยันให้เงินบริจาคกับหลวงพ่อครบทุกบาททุกสตางค์ ปัดตอบประเด็นรถที่หลวงพ่ออ้างว่า ยังอยู่กับเจ้าตัว

https://www.youtube.com/watch?v=k7k-MhN88P8 "หมอบี" ยันให้เงินบริจาคกับหลวงพ่อครบทุกบาททุกสตางค์ ปัดตอบประเด็นรถที่หลวงพ่ออ้างว่า ยังอยู่กับเจ้าตัว กราบขอโทษ อ.ตฤณห์ ที่พูดจาไม่เหมาะสม วอนสื่อ งดปีนรั้วบ้าน ขอความเป็นส่วนตัว วันที่ 11 ส.ค.68 ที่อาคารประชาอารักษ์ กองบังคับการปราบปราม...