วิชัย ชี้ “บทบาท ป.ป.ส.” มีหน้าที่ตรวจสอบเรื่องการยึดอายัดทรัพย์สินเท่านั้น แจงปมจับ “ตุน มิน ลัต” นักค้าอาวุธชาวเมียนมา ส่อโยงนักการเมืองไทยนั้นเบื้องต้นสำนักงาน ป.ป.ส. ยังไม่มีข้อมูล ด้าน อุปกิต อดีตสามี เอ๋-ปารีณา แจงสนิทกันจริง ยืนยันเพื่อนไม่น่าเกี่ยวข้องกับยาเสพติด
จากกรณีเมื่อวันที่ 17 ก.ย. 65 เจ้าหน้าที่ ป.ป.ส. ได้สนธิกำลังตำรวจสืบสวนนครบาล 2 กว่า 100 นาย บุกจับกุมเครือข่ายยาเสพติดรายสำคัญ 5 เป้าหมาย โดยหนึ่งในนั้นคือ นายตุน มิน ลัต อายุ 53 ปี นักธุรกิจชื่อดังชาวเมียนมา เป็นบุคคลเดียวกับบุคคลตามหมายจับของศาลอาญาที่ 527/2565 ลงวันที่ 9 ก.ย. 65 ในข้อหาร่วมกันช่วยเหลือสนับสนุนการกระทำความผิดร้ายแรงเกี่ยวกับยาเสพติด และร่วมกันสมคบการฟอกเงินฯ โดยสามารถจับกุมได้ที่ ห้องเลขที่ 141/315 คอนโดฯ แห่งหนึ่ง ชั้น 41-42 ถนนพระราม 9 แขวงห้วยขวาง เขตห้วยขวาง กทม. พร้อมตรวจยึดทรัพย์สินได้จำนวนหนึ่ง
อย่างไรก็ตาม มีรายงานอ้างว่า นายตุน มิน ลัต เป็นหนึ่งในบุคคลกว้างขวางและมีอิทธิพลในเมียนมา ซึ่งตามรายงานของสำนักข่าวอิรวดี ระบุว่า นายตุน มิน ลัต มีสายสัมพันธ์กับนักธุรกิจ นักการเมืองชาวไทย ซึ่งหนึ่งในนั้นรวมถึงอดีตสามีของอดีต ส.ส.หญิงรายหนึ่งนั้น
ความคืบหน้าเมื่อวันที่ 22 ก.ย. ที่ สำนักงาน ป.ป.ส. (ดินแดง) แถลงข่าว “ที่สุดแห่งปี” ผลการดำเนินงานป้องกันและปราบปรามยาเสพติด ประจำปี 2565 โดยมี นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.ยุติธรรม เป็นประธาน พร้อมด้วย นายวิชัย ไชยมงคล เลขาธิการ ป.ป.ส. และ เจเรมี ดักลาส ผู้แทน UNODC ประจำภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และแปซิฟิก ร่วมงาน โดยภายในงานมีการนำเสนอผลงาน และสรุปผลงานในรอบปี รวมถึงผลการยึดทรัพย์สินเกี่ยวกับยาเสพติดทะลุเป้าเกิน 10,000 ล้านบาท พร้อมผลงานการจับกุมผู้ต้องหารายใหญ่ คดีเด่นในรอบปีสรุปผลงานมาตรการป้องกันปราบปราม บำบัดรักษา บูรณาการและความร่วมมือระหว่างประเทศด้านยาเสพติด
โดยเลขาธิการ ป.ป.ส. กล่าวถึงความคืบหน้ากรณีร่วมกับ บช.น. จับกุม นายตุน มิน ลัต นักธุรกิจชื่อดังชาวเมียนมา ในข้อหาสมคบกันกระทำความผิดร้ายแรงเกี่ยวกับยาเสพติด เมื่อวันที่ 17 ก.ย. ที่ผ่านมา และพบความสัมพันธ์เชื่อมโยงกับนักการเมืองและนักธุรกิจชาวไทยอย่างน้อย 5 ราย ว่า การจับกุมขยายผลกรณีดังกล่าวเป็นความร่วมมือกับ บช.น. สืบเนื่องจากคดีปี 2562 ที่มีการขยายผลและนำไปสู่การจับกุมและยึดทรัพย์ ส่วนจะไปเกี่ยวข้องกับใครนั้น จะต้องสอบถามจากทาง บช.น. ซึ่งอยู่ระหว่างการสืบสวน
ส่วนพฤติการณ์ที่เกี่ยวข้องกับยาเสพติดนั้น นายวิชัย กล่าวว่า เป็นไปตามข้อหา คือ ร่วมกันสมคบกันกระทำความผิดร้ายแรงเกี่ยวกับยาเสพติด ส่วนการตรวจสอบเส้นทางการเงิน ต้องขอใช้ระยะเวลาในการตรวจสอบ และเบื้องต้นสำนักงาน ป.ป.ส. ยังไม่มีข้อมูลว่านายตุน มิน ลัต เกี่ยวข้องกับนักการเมืองชาวไทย เพราะ ป.ป.ส. มีหน้าที่ตรวจสอบเรื่องการยึดอายัดทรัพย์สินเท่านั้น
ด้าน นายอุปกิต ปาจรียางกูร สมาชิกวุฒิสภา ยอมรับว่า คนในข่าวที่ถูกโจมตีว่าเป็นนักการเมืองสนิทสนมกับ “ตุน มิน ลัต” นักธุรกิจชื่อดังชาวเมียนมา ในข้อหาค้ายาเสพติดและฟอกเงิน คือ ตัวเขาเอง แต่ยืนยันว่า ตัวเองและ “ตุน มิน ลัต” ไม่ได้เกี่ยวข้องกับยาเสพติดตามที่ถูกโจมตี เชื่อว่าน่าจะเป็นเรื่องที่เข้าใจผิดกันมากกว่า พร้อมยืนยันว่า “ตุน มิน ลัต” เป็นนักธุรกิจใหญ่ของเมียนมา และสนิทสนมกับผู้นำเมียนมาจริง
นายอุปกิต อธิบายให้ผู้สื่อข่าวฟังว่า “ตุน มิน ลัต” ทำธุรกิจซื้อขายไฟฟ้าสุจริตระหว่างจังหวัดท่าขี้เหล็ก ประเทศเมียนมา กับ อำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย พร้อมบอกว่า เขารู้จักกันมา 20 ปี หลังทราบข่าวนี้ รู้สึกตกใจมาก จึงออกมาแสดงตัวแล้วให้ข้อมูลเอง ย้ำว่า พร้อมตอบทุกคำถาม
ส่วนเรื่องที่เขาทำธุรกิจในเมียนมา นายอุปกิต บอกว่า เคยทำธุรกิจโรงแรมที่ท่าขี้เหล็ก ซึ่งตนไม่เคยปิดบัง แต่ปัจจุบันเลิกทำไปแล้ว พร้อมชี้ว่า ปัจจุบัน ไม่ได้ข้ามไปเมียนมา 8-9 ปีแล้ว นับตั้งแต่ได้รับการแต่งตั้งเป็นสมาชิกวุฒิสภา
ส่วนที่มีการระบุว่า “ตุน มิน ลัต” พ่อค้าอาวุธ มองว่า เพื่อนถูกพูดถึงในทางที่ไม่ดี ทั้งๆ ที่จริงแล้ว “ตุน มิน ลัต” เป็นตัวแทนของประเทศอิสราเอลในการขายยุทโธปกรณ์ เช่น รถจีฟ เรือ โดรน ฯลฯ ซึ่งเป็นตัวแทนอย่างถูกต้องในการขายให้รัฐบาลเมียนมา
นายอุปกิต กล่าวเพิ่มเติมอีกว่า “ตุน มิน ลัต” วางแผนจะย้ายมาปักหลักทำธุรกิจไฟฟ้าในเมืองไทย มีทรัพย์สินที่โอนมาจากต่างประเทศ สามารถพิสูจน์ที่มาที่ไปได้ แต่ตอนนี้ถูกยึดทั้งหมด เมื่อถามว่าได้พูดคุยกับ นายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธานวุฒิสภา แล้วหรือยัง นายอุปกิต บอกว่า ยังไม่ได้คุย เพราะเป็นเรื่องกะทันหัน และตอนนี้ อยู่ในช่วงปิดสมัยประชุม
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า มีบางช่วงของการให้สัมภาษณ์ นายอุปกิต มีน้ำเสียงสั่นเครือ และ น้ำตาคลอ บอกกับผู้สื่อข่าวว่า ไม่อยากให้ไปพาดพิงถึง นางสาวปารีณา ไกรคุปต์ อดีตภรรยา เพราะหย่ากันมานานแล้ว นอกจากนี้ยังบอกอีกว่า ที่ผ่านมาเวลาถูกพูดถึง ไม่เคยตอบโต้เลย เพราะมองว่าเป็นเรื่องส่วนตัว ชีวิตใครก็ชีวิตมัน
