“….กรณีการตรวจสอบธุรกรรมการเงินของนายประหยัด พวงจำปา , คู่สมรส , บุคคลเอกชนสัญชาติอังกฤษ และบริษัทต่างชาติ ซึ่งไม่พบธุรกรรมการเงินที่ผิดปกติ แต่กลับไม่นำเอกสารดังกล่าวซึ่งเป็นประโยชน์ในทางไต่สวนกับนายประหยัด พวงจำปา ในคดีปกปิดทรัพย์สินเข้าสำนวนฯ และกรณีมติของคณะกรรมการ ป.ป.ช. ที่ลงมติชี้มูลนั้นมีคะแนนเสียงเท่ากัน (4 ต่อ 4 เสียง) แต่ปรากฏว่ากลับมีการชี้มูลไปในทางที่เป็นผลร้ายแก่ นายประหยัด พวงจำปา โดยฝ่าฝืนต่อกฎหมาย ร้องไปปีกว่าแต่ ปปช. กลับเงียบไม่ดำเนินการอะไร…”
เมื่อเวลา 10.00 น. ที่ 25 พ.ย. ที่ สำนักงาน ป.ป.ช. สนามบินน้ำ นนทบุรี นายประหยัด พวงจำปา มอบหมายให้ นายอาทร ดำคง ทนายความรับมอบอำนาจมายื่นหนังสือถึงประธานคณะกรรมการ ป.ป.ช. , กรรมการ ป.ป.ช. และเลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. เพื่อติดตาม เร่งรัดการดำเนินการตรวจสอบเรื่องร้องเรียน น.ส.สุภา ปิยะจิตติ และ น.ส.อพาลินทุ์ ลิ้มธเนธกุล กรณีการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ตามหนังสือที่ นายประหยัด พวงจำปา ผู้กล่าวหาร้องเรียนขอให้ตรวจสอบการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบของ น.ส.สุภา ปิยะจิตติ และ น.ส.อพาลินทุ์ ลิ้มธเนธกุล ลงวันที่ 16 พฤศจิกายน 2564 ซึ่งนับรวมระยะเวลาจนถึงปัจจุบันเป็นระยะเวลากว่า 1 ปีเศษแล้ว แต่เรื่องดังกล่าวยังไม่มีการแจ้งข้อกล่าวหากับบุคคลทั้งสอง ทั้งที่มีเอกสารหลักฐานการกระทำความผิดที่ชัดแจ้ง
โดยเอกสารดังกล่าวเป็นกรณีการตรวจสอบธุรกรรมการเงินของ นายประหยัด พวงจำปา , คู่สมรส , บุคคลเอกชนสัญชาติอังกฤษ และบริษัทต่างชาติ ซึ่งไม่พบธุรกรรมการเงินที่ผิดปกติ แต่กลับไม่นำเอกสารดังกล่าวซึ่งเป็นประโยชน์ในทางไต่สวนกับ นายประหยัด พวงจำปา ในคดีปกปิดทรัพย์สินเข้าสำนวนฯ
ซึ่งคำสั่งของประธานกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ เมื่อวันที่ 26 ส.ค.2565 กรณีลงโทษไล่ นายประหยัด พวงจำปา รองเลขาธิการ ป.ป.ช.ออกจากราชการนั้น เป็นกรณีมติการชี้มูลของคณะกรรมการ ป.ป.ช ที่มีมติว่า นายประหยัด พวงจำปา ร่ำรวยผิดปกติ โดยกรรมการ ป.ป.ช. บางรายมีอคติ มีความไม่เป็นกลาง และมติของคณะกรรมการ ป.ป.ช. ที่ลงมติชี้มูลนั้นมีคะแนนเสียงเท่ากัน (4 ต่อ 4 เสียง) แต่ปรากฏว่ากลับมีการชี้มูลไปในทางที่เป็นผลร้ายแก่นายประหยัด พวงจำปา โดยฝ่าฝืนต่อกฎหมาย
ซึ่ง นายประหยัด พวงจำปา ได้ยื่นฟ้องคดีต่อศาลปกครองกลางเพื่อขอให้ศาลมีคำสั่งเพิกถอนคำสั่งของประธานกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติข้างต้นไปเมื่อวันที่ 15 พ.ย.2565