“ลุงสงวน-ไทดำ” ร้อง ปปป.เอาผิดตำรวจ 8 นาย สภ.เก้าเลี้ยว กับ 2 อัยการ ปฏิบัติหน้าที่มิชอบ ไม่เอาเรื่องที่ดินมรดกฟ้องศาล
เมื่อเวลา 13.30 น. วันที่ 23 พ.ย.65 ที่ ศูนย์รับแจ้งความกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ถนนพหลโยธิน นายสงวน แสงใจหนัก อายุ 72 ปี กลุ่มชาติพันธุ์ ชาวไทดำ เดินทางเข้าพบ พนักงานสอบสวนกองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (บก.ปปป.) แจ้งความดำเนินคดีกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เก้าเลี้ยว 8 นาย และอัยการจังหวัดนครสวรรค์ 1 นาย อัยการกำแพงเพชร 1 นาย ตาม ป.อาญา ม.157 มาตรา 157 ผู้ใดเป็นเจ้าพนักงาน ปฏิบัติหรือละเว้น การปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบเพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใดฯ
นายสงวน เปิดเผยว่าเมื่อปี 2526 คุณพ่อเสียชีวิตแต่ไม่ได้ทำพินัยกรรม ทิ้งมรดกเป็นที่ดิน 1 แปลงและ ที่ สปก.4-01 อีก 1 แปลงๆ แรกเนื้อที่ 33 ไร่อยู่ที่ อ.เก้าเลี้ยว นครสวรรค์ แปลงที่สอง อยู่ที่ อ.ขาณุวรลักษบุรี กำแพงเพชร ตนเป็นลูกคนเล็กจากพี่น้องจำนวน 4 คน ยังไม่มีใครร้องขอเป็นผู้จัดการมรดก
ต่อมาปี พ.ศ.2557 ทราบว่า หลานสาวซึ่งเป็นลูกบุญธรรมของพี่สาวคนที่สอง ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่สรรพากร ได้นำเอาที่ดินแปลงแรกเนื้อที่ 33 ไร่ไปขาย เมื่อปี 2535 ในราคาล้านกว่าบาท และลูกของพี่ชายตนโตเอาที่ดินอีกแปลงไปขายในเวลาต่อมา โดยไม่มีการสอบถามพี่น้องคนอื่นเลย ปี 2557 ตนจึงไปแจ้งความร้องทุกข์ พงส.สภ.เก้าเลี้ยว เพื่อต้องการเอาที่ดินกลับคืนมา ตำรวจ สภ.เก้าเลี้ยวจำนวน 8 นาย ได้เก็บดองสำนวน 28 สำนวนที่ตนแจ้งความร้องทุกข์ไม่ส่งอัยการ แต่กลับถูกหลานสาวแจ้งความกลับเอาผิดทั้งแพ่งและอาญา ตำรวจกลับดำเนินคดีจนภรรยาตนช๊อคเสียชีวิตเมื่อปี 2561
27 ก.ย.65 ตนแจ้งความ สภ.เก้าเลี้ยว ให้ดำเนินคดีพนักงานสอบสวน สภ.เก้าเลี้ยว จำนวน 8 นาย กับอัยการ จ.นครสวรรค์ และ จ.กำแพงเพชร อีก 2 นาย ที่ไม่สั่งฟ้อง
ตนเชื่อว่าไม่ได้รับความเป็นธรรม เกี่ยวกับมรดกที่ดิน 2 แปลง ได้เคยมาแจ้งความร้องทุกข์ บก.ปปป.มาแล้ว 4 ครั้ง ตั้งแต่สมัยยังเป็นกองกำกับ แต่เรื่องเงียบทุกครั้ง
เคยร้องกระทรวงยุติธรรม ก็ไม่มีความคืบหน้าใดๆ
2 ก.พ.2560 เคยทำเรื่องขอตำรวจนครสวรรค์อำนวยความสะดวกการจราจร ในการวิ่งจากที่นาตนเอง จ.นครสวรรค์มาร้องทุกข์เรื่องที่ดินที่ทำเนียบรัฐบาล
เคยร้องทุกข์ต่อ ผบช.ภ.6 รับเรื่องไว้ตรวจสอบ ร้องสำนักงานตำรวจแห่งชาติเรื่องก็เงียบ วันนี้ตั้งใจมาแจ้งความเอาผิดตำรวจ 8 นาย กับ 2 อัยการ กับตำรวจ บก.ป.แต่ก็ส่งตนมาพบแจ้งความพนักงานสอบสวน บก.ปปป.แทน จึงขอร้องทุกข์กับสื่อมวลชนในวันนี้ด้วย ตนยืนยังว่ามีสติสัมปชัญญะรู้เรื่องดี ไม่ได้บ้าหรือคิดไปเอง ไม่ได้รับความเป็นธรรมจริงๆ เคยได้รับคำแนะนำและให้กำลังใจจาก สว. สส.นักกฏหมายชื่อดังหลายคน แนะนำให้ตนเดินหน้าสู้ต่อไปในเรื่องนี้ให้ถึงที่สุดเชื่อว่าสักวันจะได้รับความยุติธรรมแน่นอน
เบื้องต้นพนักงานสอบสวน บก.ปปป.ได้ตรวจสอบรับเรื่องไว้เสนอผู้บังคับบัญชาพิจารณาต่อไป
ผู้สื่อรายงานเพิ่มเติมว่าจากการร้องเรียนมาแล้วหลายๆ หน่วยงาน ทำให้เป็นข่าวต่อเนื่องมาตลอดหลายปี เช่น
วันที่ 16 ต.ค.60 ที่บริเวณข้างศาลจังหวัดพิษณุโลก นายสงวน ไปยืนชูป้ายประท้วงบนสะพานลอย ไม่สามารถพึ่งใครได้ เรื่องที่ดินมรดกเนื้อที่ 33 ไร่ ที่อ.เก้าเลี้ยว วันนี้ จึงไปร้องแม่ทัพภาคที่ 3
16 มิ.ย.60 นายสงวน ไปยืนถือป้ายร้องเรื่องที่ดินมรดก ดักรอ ขบวนรถ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ ขณะเข้าทำเนียบฯ
นายสงวน ได้มาร้องเรียนที่ทำเนียบรัฐบาลหลายครั้งในหลายรูปแบบ ซึ่งนายกรัฐมนตรี เคยรับเรื่องร้องเรียนด้วยมือของตนเอง ที่ จ.นครศรีอยุธยามาแล้ว แต่จากการตรวจสอบคดีความของนายสงวน ศาลมีคำตัดสินถึงที่สุดแล้วในทางกฎหมายไม่สามารถช่วยเหลืออะไรได้อีก วันนี้จึงมาร้องเอาผิดเจ้าหน้าที่ตำรวจและอัยการที่ทำคดีที่ดินมรดกของแกแทน
