วันจันทร์, พฤษภาคม 6, 2024
หน้าแรกสืบเศรษฐกิจการเงินหรือว่า ก.ล.ต. คือช่องโหว่ใหญ่ ..? รู้ทุกเรื่อง รั่วหลายเรื่อง แค่ ZIPMEX ท่านเลขาฯ มึน

Related Posts

หรือว่า ก.ล.ต. คือช่องโหว่ใหญ่ ..? รู้ทุกเรื่อง รั่วหลายเรื่อง แค่ ZIPMEX ท่านเลขาฯ มึน

 “นับนิ้วรอจากต้นเดือน กันยายน 65 จวบจนถึงต้นเดือนธันวาคม 65 นี่ก็ผ่านมาแล้ว 3 เดือน เป็นเวลาที่นักลงทุนผู้เสียหายกว่า 2,000 ล้านบาท รอความคืบหน้าอย่างใจคอไม่ดีนัก หวั่นใจว่าจะไม่ได้เงินคืน จากวีรกรรมสุดเอือมนำเงินนักลงทุนรายย่อยไทยไปลงทุนต่ออีกทอดในกองทุนที่ล้มไปแล้วอย่าง Babel รวม 48 ล้านดอลลาร์ และ Celsius อีก 5 ล้านดอลลาร์ ส่อสะท้อนว่า ช่องโหว่ของ ก.ล.ต. ใหญ่กว่าช่องโหว่อุตสาหกรรมคริปโตเคอร์เรนซี่ ล่าสุด ก.ล.ต สู้อุตสาห์เผยแพร่บทความ ย้ำคิดย้ำทำ นำเสนอเพื่อหาแนวร่วมตามหลังสิงคโปร์หรือไม่ เงินภาษีประชาชนจ้างคนเงินเดือนสูงลิ่วมาเพื่อ คิดพัฒนาโลกการลงทุนไปสู่อนาคต หรือจ้างมาเพื่อเดินตามหลัง ลอกงานชาวบ้านหรืออย่างไร..? ท่านเลขาฯ และจากกรณีนักลงทุนไทยได้รับความเสียหายจากพวกขี้ฉ้อทั้งตลาดทุนและตลาดคริปโตฯ นักลงทุนรายย่อยอยากถามเลขาฯ ก.ล.ต บ้างหรือไม่ว่า “ก.ล.ต. มีไว้ทำไม”

บริษัท ซิปเม็กซ์ (ประเทศไทย) จำกัดผู้ให้บริการศูนย์ซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัล หรือนายหน้าซื้อขายคริปโตเคอร์เรนซี่ ได้พานักลงทุนเข้าหาความเสี่ยง โดยโยกย้ายเงินนักลงทุนไทยผ่านโครงการลงทุนผลิตภัณฑ์ ZIPUP โดยนำเงินไปซื้อเหรียญคริปโตเคอร์เรนซี่ไปฝากใน ZIPUP และจะได้รับผลตอบแทนเป็นเหรียญจากการลงทุนในผลิตภัณฑ์ ยั่วยวนใจด้วยการให้ผลตอบแทนจากการลงทุน ZIPUP สูง ซึ่งเม็ดเงินจริงๆ ถูกโยกย้าย นำไปลงต่อเป็นทอดๆ จุดจบคือมหกรรมเจ๊งกราวรูด

หลังจากเกิดความเสียหายแล้ว นักลงทุนไม่สามารถถอนเงินกลับคืนได้เลย และ zipmax เองก็ได้รับความคุ้มครองตามคำสั่งศาลสิงคโปร์ โดยที่ ก.ล.ต ไทยไม่สามารถหาทางออกช่วยเหลือนักลงทุนไทยได้ และส่อปัดความรับผิดชอบ ทั้งที่มีอำนาจตาม พรก.สินทรัพย์ดิจิทัล 2561 อยู่ในมือ แต่อ้างว่าไม่เคยปรึกษาหารือกับ zipmax มาก่อน

ในระยะหลังมาข่าวลือการระดมเงินทุนเสริมสภาพคล่องช่วยอุ้ม zipmax ยังออกมาเป็นระยะ หลายครั้งหลายคราแต่นักลงทุนไทยผู้เสียหาย ไม่เคยเห็นเงินจริงๆ สักครั้ง

ด้าน ก.ล.ต. เองก็เมินเฉยต่อข่าวลือไม่สามารถเรียกสอบถามความคืบหน้าชี้แจงข้อเท็จจริงได้ เพราะอาจจะรอความชัดเจนหลังวันที่ 2 ธันวาคม 2565 ให้ผ่านพ้นเวลาที่ศาลสิงคโปร์สั่งคุ้มครองไปก่อน  การหาผู้เสริมสภาพคล่องปูทางหาผู้ร่วมชะตากรรมอุ้มหนี้ นานร่วม 2 เดือน กระพือข่าวว่าจะมีตระกูลใหญ่ลงทุนเสริมสภาพคล่อง จนล่าสุดได้ล่วงเลยเวลาที่ศาลสิงคโปร์สั่งคุ้มครองมาแล้วจริงๆ แต่ก็ยังไม่มีวี่แววใดๆ

นักลงทุนไทยผู้เสียหายช่างน่าสงสาร แค่หาเงินทุนก็ลำบากอยู่แล้ว ดันต้องฝากความหวังด้านการกำกับตลาด ไว้กับหน่วยงานอย่าง ก.ล.ต. ไทย ซึ่งดูเหมือนรู้ทุกเรื่อง เก่งทุกด้าน แต่ เก้ๆกังๆ กับเรื่องรู้เท่าทัน กลลวงในตลาดทุน-ตลาดคริปโตฯ ไม่ว่าจะเป็นกรณี ยกราคาหุ้น more หรือ อาชญากรรมปล้นเงินรายย่อยในตลาดหุ้นที่ผ่านๆมา

คำสั่งลงโทษ ตลกร้ายขำขำในสายตาผู้เสียหาย ยิ่งตอกย้ำความเจ็บปวด จากการที่ ก.ล.ต. ได้มีคำสั่งเปรียบเทียบปรับบริษัท ซิปเม็กซ์ จำกัด (Zipmex) ไปเมื่อวันที่ 31 สิงหาคม 2565 ที่ผ่านมา เป็นจำนวนสองกรณีรวมเป็นเงิน 1,920,00 บาท กรณีแรกระงับการซื้อขาย 540,000 บาท และกรณีที่สองระงับการฝากถอน 1,380,000 บาท ผิดกฎ trading rules และไม่เป็นไปตามมาตรฐานในฐานะผู้มีวิชาชีพพึงกระทำและเป็นการไม่ให้บริการอย่างมีคุณภาพ

เงินเพียงเท่านี้ เมื่อเทียบกับความเสียหาย 2,000 ล้านบาท ฟังแล้ว เหมือนจะเป็นบทเรียน เป็นแนวทางส่งเสริมวิชาชีพจอมโจรบัณฑิตในตลาดทุน  จำพวกชอบปล้นรายย่อยที่รอคิวจะเดินตามรอยอีกหรือไม่

แม้มีข่าวลือว่า Zipmex หาผู้เสริมสภาพคล่องได้ ตามกระแสข่าว ก็เป็นเพียงเม็ดเงินที่ต่ำเตี้ยเรี่ยดินลงเรื่อยๆ คล้ายกับเป็นธุรกิจที่อยู่ในช่วงพระอาทิตย์ตกดินแล้ว

วันที่ 3 ธันวาคม 2565 จากการรายงานของสำนักข่าวบลูมเบิร์ก ระบุว่า Zipmex Asia Pte. กระดานเทรดสินทรัพย์ดิจิทัลที่ได้รับใบอนุญาตประกอบธุรกิจซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลในประเทศไทย เตรียมที่จะถ่ายโอนการซื้อขายกิจการโดยกองทุนร่วมทุนมูลค่าประมาณ 100 ล้านเหรียญสหรัฐ โดยการซื้อกิจการในครั้งนี้จะมาในรูปแบบการผสมผสานระหว่างเหรียญดิจิทัลและเงินสด ซึ่งเป็นหนึ่งในการช่วยฟื้นฟูกิจการ

ในรายงานของสำนักข่าวบลูกเบิร์ก อ้างอิงแหล่งข่าวที่ขอสงวนสิทธิ์ข้อมูล เปิดเผยว่า V Ventures ซึ่งเป็นบริษัทในเครือของ บริษัท โทรีเซนไทย เอเยนต์ซีส์ จำกัด (มหาชน) ภายใต้การบริหารงานของ นายเฉลิมชัย มหากิจศิริ ได้ยื่นข้อเสนอเป็นเงินสดจำนวน 30 ล้านเหรียญสหรัฐ ขณะที่ในส่วนที่เหลือจะจ่ายเป็นโทเคนดิจิทัล ขณะเดียวกัน ยังมีการเสนอข้อตกลงการขายหุ้นที่มีรายละเอียดเงื่อนไขข้อตกลงตามการพิจารณาของศาลเมื่อวันศุกร์ ที่สิงคโปร์ ซึ่งข้อตกลงดังกล่าวไม่ได้ระบุตัวผู้ซื้อ

นอกจากนี้ ทางบลูมเบิร์ก ระบุอีกด้วยว่า กองทุนที่เสนอเงินช่วยเหลือจะได้รับสัดส่วนหุ้นประมาณ 90% ใน Zipmex อย่างไรก็ดีบลูมเบิร์กอ้างอิงถึงความปลอดภัยของแหล่งข่าวที่ให้ข้อมูลซึ่งสงวนความเป็นสิทธิส่วนตัวที่ไม่เปิดเผยชื่อได้ เนื่องจากข้อมูลบางอย่างยังไม่สามารถสรุปรายละเอียดได้ 100%

นอกจากนี้ รายงานดังกล่าว ยังระบุถึงสินทรัพย์ดิจิทัลที่ Zipmex อาจจะได้รับจากข้อตกลง จะถูกนำไปใช้เพื่อทยอยปลดล็อกกระเป๋าเงินของลูกค้า Zipmex ภายในต้นเดือนเมษายนปีหน้า (2566) ตามการพิจารณาคดีของศาล หลังจากการถอนเงินถูกระงับ

“โฆษกของ Zipmex ปฏิเสธที่จะแสดงความคิดเห็นเนื่องจากสถานการณ์ที่อ่อนไหวในปัจจุบัน ขณะที่ V Ventures เองก็ไม่ตอบกลับอีเมลต่อประเด็นคำถามเพิ่มเติม” สำนักข่าวบลูมเบิร์ก กล่าวทิ้งท้าย

ด้าน นายเฉลิมชัย มหากิจศิริ ผู้บริหาร V Ventures ปฏิเสธที่จะแสดงความคิดเห็นทางโทรศัพท์ต่อคำถามที่ว่า บริษัทได้บรรลุข้อตกลงในการซื้อ Zipmex หรือไม่

ใจความสำคัญ ถ้าเสริมสภาพคล่องได้จริง เม็ดเงินความช่วยเหลือจากวงเงินแค่ 30 ล้านเหรียญสหรัฐ คิดเป็นเงินไทยเพียง 1,000 ล้านบาทเศษ ส่อแววว่า จะไม่สามารถเยียวยานักลงทุนไทยได้ครบถ้วน และกว่าจะเปิดให้นักลงทุนถอนเงินคืนได้จริงก็ปาเข้าไปเดือนเมษายน 2566 เสียโอกาส เสียเวลา เสียเงินทุนมหาศาล

ถามจริงๆ ก.ล.ต. ไม่เดือดร้อนใช่หรือไม่ เพราะ “รื่นวดี สุวรรณมงคล” เลขาฯ ก.ล.ต.คนที่ 9 ซึ่งครองตำแหน่งนับจาก 1 พฤษภาคม 2562 จวบจนปัจจุบันปี 65 ไม่รู้สึกรู้สาถึงใจผู้เสียหายเลยหรือ…?

เวลาทำงานด้านระเบียบ-กฎหมายในมือ ก.ล.ต รู้ทุกเรื่อง มองเห็นความพร้อมจะปรับปรุงทุกด้าน ขยันงานตลอดปี 2565

แต่กรณีการปรับกฎหมายเพื่อเอาผิดกรณีการนำเงินนักลงทุนไทยไปลงทุนต่างชาติโดยไม่ยินยอม มองเห็น ก.ล.ต. นิ่งเงียบ…!!!

งานอื่นขยันทำ งกๆๆๆ เดี๋ยวก็เดินสายไปโน้นนี่ ทั้งวาระขาจรต่างประเทศ และเวทีรับฟังความคิดเห็นกับร่างประกาศ ICO portal และงานถนัด ที่ล่าสุดคงเป็นการไล่เปรียบเทียบปรับเงินเอกชนบางราย  ซึ่งไม่รู้ไปขวางหูขวางตามาแต่ชาติปางไหน

แทนที่จะหางานเก็บกวาดตลาด เช็ดล้างโจรขาใหญ่ในตลาด กลับเอาเวลามาไล่ดูป้ายโฆษณา ชี้ว่าโฆษณาผิดหลักเกณฑ์ ผิดเงื่อนไขที่คณะกรรมการ ก.ล.ต. ประกาศกำหนด

และงานล่าสุดที่ ก.ล.ต เอาเวลาไปทำ โดยที่เรื่อง zipmax ยังคาใจสังคม ล่าสุด 8 ธันวาคม 2565 แพร่บทความเรื่อง “ก.ล.ต. กับทิศทางการกำกับดูแลสินทรัพย์ดิจิทัล” ระบุกำลังศึกษาแนวทางการปรับปรุงกฎหมายให้เท่าทันการเปลี่ยนแปลง ยอมรับสารพัดวิกฤต LUNA, Terra, 3AC, Celsius, FTX สะท้อนช่องโหว่อุตสาหกรรม

นักลงทุนคันปากอยากถามว่า ช่องโหว่อุตสาหกรรม อาจจะไม่ใหญ่โตเท่า ช่องโหว่ ก.ล.ต.

ก่อนวิจารณ์เรื่องอุตสาหกรรม ช่วยทำ kpi ตรวจเช็คผลงานที่สำเร็จจากมือตัวเอง ไม่ใช่เที่ยวเคลมผลงานเอกชน และเช็คลิสผลงานชิ้นโบว์ดำรอบปี 62-65 ด้วยเลย ตามรอบท่าน “เลขาฯ รื่นวดี” เพื่อเผยแพร่ออกสู่สาธารณะด้วยจะดีหรือไม่ สังคมทั่วไปจะได้ช่วยตรวจสอบพร้อมพัฒนา ว่า ก.ล.ต. ไทยควรปรับตัวอย่างไร ไล่ตั้งแต่ท่าน เลขาฯ ก.ล.ต.ขาดเกินตรงไหน ชี้วัดผลงานให้เข้มข้นเหมือนเงินเดือนที่ได้รับ ด้วย kpi เสียที

ทราบกันหรือไม่ ผลงานชิ้นโบว์ดำ ก.ล.ต. อีกชิ้นทำให้น่าสงสัยว่า หน่วยงานคุ้มค่างบประมาณภายใต้กระทรวงการคลังหรือไม่ คนเก่งอาจจะถูกคนเส้นใหญ่ เด็กนายฝากมาทำงานเอาหน้าในสังคมเพราะอยากเด่น อยากดัง

ครั้งหนึ่งก็เคยพลาดท่าไปทวงถามเรื่อง adminTransfer ในเหรียญเอกชนชนิดหนึ่ง แต่ถูกสังคมตีหัวกลับชนิดหมอไม่รับเย็บ เอกชนตอกกลับหน้าหงาย ชี้เทคโนโลยี adminTransfer เป็นคำสั่งหนึ่งที่อยู่บนมาตรฐานการพัฒนา Smart Contract KAP-20

ส่วนเหรียญที่ ก.ล.ต. ทวงถามนั้น เป็นมาตราฐาน ERC-20 ไม่ได้ถูกพัฒนาบนมาตรฐาน KAP-20 จึงไม่สามารถใช้งานคำสั่ง adminTransfer เพื่อทำการโอนย้ายทรัพย์สินของลูกค้าได้

ซึ่งก่อนจะลิสเหรียญใดๆ ขึ้นสู่กระดานเทรด ก.ล.ต. น่าจะรับทราบรายละเอียด หากใช้คนเก่งในหน่วยงานขึ้นมาทำงาน ประเด็นแค่นี้ไม่ผิดพลาดแน่นอน แต่กังวลว่าคนที่ออกหน้าจะเป็นเด็กเส้น-เด็กนายหรือไม่…?

ทั้งที่น่าจะรู้อยู่แล้ว ขอถามว่าพฤติกรรมเหล่านี้ เป็นเพราะ ตั้งธง มุ่งโจมตี จนหน้ามืดหรือไม่ ส่อให้เกิดความมัวเมา หลงทาง ตาบอดหรือไม่

จากบทความที่ได้ ก.ล.ต ได้ร่ายยาว ยังมีใจความอีกว่าในปี 2565  การล้มละลายของ hedge fund ที่ลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัลอย่าง 3 Arrow Capital และผู้ให้บริการแพลตฟอร์มรับฝากและกู้ยืมสินทรัพย์ดิจิทัลอย่าง Celsius ซึ่งส่งผลกระทบถึงลูกค้าของผู้ประกอบธุรกิจในประเทศไทย จนถึงกรณีการล่มสลายของแพลตฟอร์มซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัล FTX ซึ่งเป็นผู้ให้บริการรายใหญ่อันดับต้นๆ ของโลก และทำให้เห็นถึงปัญหาของการขาดการบริหารจัดการและการควบคุมกิจการที่มีประสิทธิภาพ

ตามเนื้อหาดังกล่าว นี่เหมือนจะรู้ทุกเรื่อง ทันทุกสถานการณ์ แล้วไหนการแก้ไขอย่างเป็นระบบ ขยันงานออกระเบียบ หาเหตุแก้กฎหมายในกระดาษ แต่พองานบนโลกดิจิทัล จริงๆ เท่าทันเอกชนขี้ฉ้อบางรายบ้างหรือไม่…?

บทความรายงานต่อไปว่า จากเหตุการณ์ “มาไวไปไว” ที่กล่าวมาข้างต้นสะท้อนให้เห็นถึงช่องโหว่ของอุตสาหกรรมสินทรัพย์ดิจิทัลที่ปัจจุบันยังไม่มีการกำกับดูแลอย่างเหมาะสม จึงมีความจำเป็นที่หน่วยงานกำกับดูแลจะต้องเข้ามามีบทบาทในการเพิ่มกลไกความคุ้มครองแก่ผู้ลงทุน ซึ่งในปีที่ผ่านมา หน่วยงานกำกับดูแลในหลาย ๆ ประเทศ เช่น สิงคโปร์ สหราชอาณาจักร และญี่ปุ่น ได้ประกาศแนวทางการกำกับดูแลสินทรัพย์ดิจิทัล โดยพิจารณาถึงศักยภาพของเทคโนโลยี Distributed Ledger Technology (DLT) ซึ่งเป็นเทคโนโลยีเบื้องหลังของเหรียญดิจิทัล ประกอบกับแนวทางการป้องกันความเสี่ยง สำหรับสหรัฐอเมริกา ช่วงที่ผ่านมา หน่วยงานกำกับบังคับใช้หลักเกณฑ์การเปิดเผยข้อมูลในการปราบปรามการกระทำผิดกฎหมายที่เกี่ยวกับการโฆษณาสินทรัพย์ดิจิทัลที่มีการหลอกลวงหรือทำให้เกิดการเข้าใจผิด

สำหรับประเทศไทย การกำกับดูแลสินทรัพย์ดิจิทัลอยู่ภายใต้พระราชกำหนดการประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัล พ.ศ. 2561 (พ.ร.ก. สินทรัพย์ดิจิทัลฯ) โดยปัจจุบันพัฒนาการของสินทรัพย์ดิจิทัลมีความก้าวหน้าอย่างก้าวกระโดดจากปี พ.ศ. 2561 ที่กฎหมายมีผลใช้บังคับ และมีรูปแบบการใช้งานเกี่ยวข้องกับหลายอุตสาหกรรม สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) จึงอยู่ระหว่างดำเนินการปรับปรุงการกำกับดูแลสินทรัพย์ดิจิทัลให้เท่าทัน โดยได้ตั้งคณะทำงานซึ่งประกอบด้วยหน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชนที่เกี่ยวข้อง เพื่อศึกษาและเสนอแนะแนวทางการปรับปรุงกฎหมายให้เหมาะสมกับลักษณะและความเสี่ยงของสินทรัพย์ดิจิทัลที่เปลี่ยนแปลงไป รวมถึงรองรับการนำเทคโนโลยี DLT มาใช้ในภาคธุรกิจ

หรือ ท้ายสุดสิ่งเหล่านี้เป็นบทความที่ต้องการล้างความเชื่อนักลงทุน ว่า ไทย…ควรเดินตามหลังสิงคโปร์ ทั้งที่ประเทศไทยตลาดทุน ตลาดคริปโตฯ บ้านเราหอมหวนยิ่งกว่าสิงคโปร์

อุตสาห์เผยแพร่บทความ ย้ำคิดย้ำทำ นำเสนอเพื่อหาแนวร่วมตามหลังสิงคโปร์หรือไม่…?

เงินภาษีประชาชนจ้างคนเงินเดือนสูงลิ่วมาเพื่อ คิดพัฒนาโลกการลงทุนไปสู่อนาคต หรือจ้างมาเพื่อเดินตามหลัง ลอกงานชาวบ้านหรืออย่างไร..? ท่านเลขาฯ

และจากกรณีนักลงทุนไทยได้รับความเสียหายจากพวกขี้ฉ้อทั้งตลาดทุนและตลาดคริปโตฯ นักลงทุนรายย่อยอยากถามเลขาฯ ก.ล.ต บ้างหรือไม่ว่า

“ก.ล.ต. มีไว้ทำไม”

#สืบจากข่าว : รายงาน

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่

spot_img

Latest Posts