วันศุกร์, พฤศจิกายน 22, 2024
หน้าแรกภูมิภาคทนายตั้ม-ช่อฉัตร ไฮโซ เจ้าของธุรกิจน้ำยางพารา ร้อง ผบ.ตร. หลังถูก พงส.กลั่นแกล้งออกหมายเรียกโดยไม่ชอบ

Related Posts

ทนายตั้ม-ช่อฉัตร ไฮโซ เจ้าของธุรกิจน้ำยางพารา ร้อง ผบ.ตร. หลังถูก พงส.กลั่นแกล้งออกหมายเรียกโดยไม่ชอบ

เมื่อวันที่ 3 มี.ค.ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) น.ส.ช่อฉัตร โตชูวงศ์ เจ้าของบริษัทรับผลิตจำหน่ายน้ำยางพารารายใหญ่ พร้อมด้วย ทนายตั้ม ษิทรา เบี้ยบังเกิด และนายธีรฉัตร สิรันทวิเนติ ทนายความ เข้ายื่นหนังสือร้องเรียนถึงพล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) ขอให้ตั้งกรรมการสอบวินัยร้ายแรงตำรวจ สภ.เมืองนครพนม ออกหมายเรียกผู้ต้องหาโดยไม่ชอบ มีลักษณะกลั่นแกล้ง ในคดีที่นายศุภชัย กับ ลูกสาว และนายธนบวร แจ้งความดำเนินคดีหมิ่นประมาท
โดยมี พ.ต.อ.กฤษณะพงศ์ กัญจน์ชัยกิจ รองผู้บังคับการกองร้องทุกข์ สำนักงานคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ นายตำรวจเวรอำนวยการเป็นตัวแทนรับมอบหนังสือ

ทนายตั้ม กล่าวว่า วันนี้มายื่นหนังสือถึงผบ.ตร. ให้ดำเนินการสอบวินัยตำรวจนครพนม คดีนี้สืบเนื่องจากผมและน.ส.ช่อฉัตร ได้แถลงข่าวให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชน แต่ปรากฎว่านายศุภชัย กับ ลูกสาว และนายธนบวร ได้ไปแจ้งความดำเนินคดีที่ สภ.เมืองนครพนม ในความผิดเรื่องเดียวกันที่ผมได้มีการแถลง

โดยมีการแยกแจ้งความทั้งหมด 3 ครั้ง โดยนายธนบวรได้แจ้งความก่อนกับร้อยเวรคนหนึ่ง จากนั้นนายศุภชัย และลูกสาวก็ได้มาแจ้งความอีกคนละคดี ซึ่งจริงๆ แล้วเป็นคดีเนื้อหาเดียวกัน เรื่องนี้อย่างไรก็ต้องนำเรียนให้ผู้บังคับบัญชาทราบอยู่แล้ว ผู้บังคับบัญชาจะต้องรู้ว่าเป็นเรื่องเดียวกันก็ควรจะต้องรวมคดีแต่ปรากฏว่าเขารู้อยู่แล้วว่าผมกับ น.ส.ช่อฉัตร อยู่กทม.แต่มีการออกหมายเรียกซ้ำซ้อนกันหลายครั้งทำให้เราต้องเดินทางไปหลายรอบ ทั้งที่จริงเป็นคดีเดียวกันได้

ทนายตั้มกล่าวต่อ คดีแรกตนได้มีหนังสือแจ้งขอเลื่อนไปแล้ว แต่พนักงานสอบสวนเจ้าของคดียศ ร.ต.อ. ได้ออกหมายเรียกครั้งที่ 2 ทั้งๆ ที่ตนและ น.ส.ช่อฉัตรได้ติดต่อแจ้งไปแล้วว่าจะเดินทางไปพบในวันที่ 29 มี.ค.66 แต่กลับออกหมายเรียกครั้งที่ 2 อีก เพื่อเป็นเหตุให้ออกหมายจับได้

กรณีต่อมาตำรวจยศ พ.ต.ท. ได้นำเรื่องที่ไม่มีมูลมาแจ้งข้อหาตนและ น.ส.ช่อฉัตร เพราะ การที่ทางนายศุภชัย และลูกสาวมาแจ้งความคนละคดีกัน ในวันนั้นตนไม่ได้พูดเลยว่าผู้แจ้งความ เป็นคนไม่ดี ตนไม่ได้ไปพูดแบบนั้นเลย แต่ตนได้พูดถึงคนที่ทำงานกับเขา แต่ไม่รู้ว่านำมูลตรงไหนไปเกี่ยวข้องไปเดือดร้อนก็ไม่รู้ แล้วจึงมีการไปแจ้งความตนและ น.ส.ช่อฉัตร
ตนคิดว่าการที่ พ.ต.ท.ได้ออกหมายเรียกทำให้ตนได้รับความเสียหายเพราะคดีไม่มีมูล เขาไม่ใช่ผู้เสียหายในคดี แต่ได้ออกหมายเรียกให้ตนมีความลำบากเดินทางไกลไปรับทราบข้อกล่าวหาในคดีหมิ่นประมาท

นายษิทรา กล่าวว่า นอกจากจะร้องเรียนตำรวจ 2 นายนี้แล้ว จะร้องเรียน ผกก.สภ.เมืองนครพนม ด้วย ซึ่งจริงๆ แล้วเขามีหน้าที่ที่จะต้องตรวจคดีสำคัญแต่ปรากฏว่าได้มีการปล่อยปละละเลย วันนี้จึงต้องมาร้องขอความเป็นธรรมต่อ ผบ.ตร. ให้มีการสอบวินัยร้ายแรงและให้มีการดำเนินคดีอาญากับตำรวจทั้งหมดในเรื่องที่ได้ออกหมายเรียก มีลักษณะกลั่นแกล้งให้ได้รับความลำบาก

นอกจากตน และน.ส.ช่อฉัตรถูกออกหมายเรียกแล้ว ทนายความอีกคนของ น.ส.ช่อฉัตร ก็ถูกออกหมายเรียกในลักษณะเดียวกัน ทั้งนี้ได้ขอให้มีการโอนคดี เพราะไม่ไว้ใจการทำงานของตำรวจที่นครพนม เพราะเป็นคดีความที่เกี่ยวข้องกับนักการเมืองระดับรองประธานสภาและนายก อบจ. เกรงว่าจะไม่ได้รับความเป็นธรรม จึงต้องมาร้องขอให้ผบ.ตร.โอนคดีมาให้กองปราบทำคดีนี้แทน

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่

spot_img

Latest Posts