เมื่อวันที่ 10 เม.ย. ที่สน.พญาไท น.ส.ลีนา จังจรรจา หรือลีน่าจัง อายุ 63 ปี เดินทางเข้าพบ ร.ต.อ.วัลลภ อิสริยสกุลวงศ์ รอง สว. (สอบสวน) สน.พญาไท เพื่อแจ้งความร้องทุกข์ข้อหาหมิ่นประมาทโดยการโฆษณา แก่นายไพรวัลย์ วรรณบุตร หรือแพรรี่ อายุ 31 ปี พร้อมนำเอกสารหลักฐานทั้งโพสต์ใน Facebook ต่อว่าตัวเองด้วยถ้อยคำหยาบคาย รวมถึงคอมเม้นต์ของกลุ่มแฟนคลับแพรรี่ มามอบให้ พนักงานสอบสวนด้วย หลังจากกลายเป็นประเด็นที่มีผู้วิพากษ์วิจารณ์อย่างมาก กรณีลีน่าจังเข้ากระชากวิกผมแพรรี่ ระหว่างถ่ายทำรายการของมดดำ คชาภา จนมีการไลฟ์สดทาง Facebook เปิดศึกโต้ตอบกันไปมา
ลีน่าจัง กล่าวว่า ตัวเองเครียดจนเส้นเลือดในสมองจะแตก เครียดจนลืมกินยา ทั้งที่สาระสำคัญของเรื่องนี้ไม่มีอะไรมาก ซึ่งวันนั้นเป็นวันที่เดินทางไปถ่ายทำรายการให้มดดำคชาภา ที่เพิ่งเปิดรายการใหม่โดยตอนนั้นตัวเองไม่รู้ว่าจะมีแขกรับเชิญ คือแพรรี่ มาร่วมด้วย แต่เมื่อได้เจอกันก็มีการพูดคุยหยอกล้อเล่นกันไปมาตามประสาคนที่เคยรู้จักและเคยร่วมงานกันมาแล้วประมาณสองครั้ง เนื้อหาการพูดจา ทั้งหมดเป็นการหยอกล้อเล่นกันไปมาก็มีทั้งคำพูดจิกกัด คำพูดหยอกล้อกันปกติ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นตัวเองที่ถูกจิกกัดมากกว่า แต่ก็ไม่ได้คิดอะไรเพราะคิดว่าเป็นเรื่องตลกขำๆเพื่อความบันเทิงและเอนเตอร์เทนกันทั่วๆ ไป และอีกอย่างไม่อยากให้เกิดบรรยากาศตึงเครียดเพราะตัวเองนั้นก็ให้เกียรติมดดำ
ลีน่าจัง กล่าวว่า จนมาถึงช่วงถ่ายภาพนิ่งตอนช่วงท้าย ตัวเองก็ไม่ได้คิดอะไร มองว่าเป็นการหยอกล้อเล่นกันจึงได้มีการกระชากวิกผมของแพรรี่ด้วยความเอ็นดูตัวเองเอ็นดูเหมือนลูกสาว ซึ่งหลังจากกระชากวิกผมออกตอนนั้นก็ไม่มีใครพูดอะไรทุกคนอย่างยิ้มแย้มและหัวเราะ รวมถึงแพรรี่ ที่ไม่ได้มีท่าทีว่าจะโกรธเคืองตัวเอง จากนั้นผ่านไปไม่ถึง 5 นาทีหลังจากที่แพรรี่กลับออกไปได้มีทีมงาน นำไลฟ์สดมาให้ดูว่าแพรรี่ร้องไห้ และรู้สึกแย่กับสิ่งที่เกิดขึ้น ตอนนั้นตัวเองค่อนข้าง งง และยังได้ขอโทษผ่านรายการของมดดำไป แล้วแต่อีกฝ่ายก็ไม่จบมีการไลฟ์สดด่าตัวเองด้วยถ้อยคำหยาบคาย รวมถึงมีคอมเม้นต์ของกลุ่มแฟนคลับที่มาต่อว่าตัวเองด้วยเช่นกัน ซึ่งมีทั้งข้อความข่มขู่ว่าจะบุกมาถึงที่บ้านมาทำร้ายร่างกาย ทำให้ตัวเองกังวลและมีความเครียดมาก
ลีน่าจัง ยังบอกอีกว่าเรื่องที่เกิดขึ้นเหมือนแพรี่รีบเปลี่ยนวิกฤติเป็นโอกาสก็เรียกคะแนนความสงสารและต้องการที่จะโปรโมตหนัง เพราะมีฉากกระชากวิกของแพรรี่ ในหนังเรื่องเสือเผ่น 1 ของพชร์ อานนท์ อยู่ด้วย รวมถึงโปรโมทเพลง โปรโมทเอ็มวี รวมถึงน้ำพริกที่ขายอยู่เพราะหลังจากมีประเด็นดังกล่าวออกไปยอดขายน้ำพริกเห็นว่าขายดีอย่างถล่มทลาย แต่ตัวเองกลับต้องมาเป็นจำเลยสังคม และยืนยันว่าทั้งหมดเป็นการแสดงไม่ได้มีเจตนาทำให้อับอาย แต่หลังจากนี้ก็ยังพร้อมที่จะร่วมงานกับแพร์รี่ไพวัลย์ เนื่องจากตัวเองมีสปิริตมากพอ
