วันศุกร์, มีนาคม 29, 2024
หน้าแรกสืบเศรษฐกิจการเงินนักลงทุนเดือด! ได้เงินคืนแค่ 10% แถม ก.ล.ต.ปรับ Zipmex จิ๊บ..จิ๊บ

Related Posts

นักลงทุนเดือด! ได้เงินคืนแค่ 10% แถม ก.ล.ต.ปรับ Zipmex จิ๊บ..จิ๊บ

“…กลุ่มผู้เสียหายมองว่าการสั่งปรับ Zipmex ด้วยจำนวนเงิน 10,977,000 บาท ในขณะที่ความผิดการย้ายเงินลูกค้าไปยังแพลตฟอร์มอื่นจนเกิดความเสียหายมากกว่า 2,000 ล้านบาท มีผู้เสียหาย 3,800 ราย เบาบางจนเทียบไม่ได้กับความเสียหายที่เกิดขึ้น ยิ่งเมื่อเปรียบเทียบกับการพิจารณาความผิดของผู้ประกอบการศูนย์ซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลรายอื่นๆ ที่ถูกสั่งปรับมากกว่า 24-70 ล้านบาท เป็นเหตุให้ นายสกลกรย์ สระกวี ผู้ก่อตั้ง Bitkub ต้องออกมาโพสต์ความเห็นถึงกรณีดังกล่าวว่า ความยุติธรรมอยู่ที่ไหนกันหนอ บ้านนี้ เมืองนี้..”

มีรายงานข่าวว่า กลุ่มผู้เสียหาย Zipmex Thailand ซึ่งรวมตัวในกลุ่ม Line มีการพูดคุยกันอย่างดุเดือดอีกครั้ง หลังสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ได้รายงานคำสั่งเปรียบเทียบปรับ นายเอกลาภ ยิ้มวิไล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ซิปเม็กซ์ จำกัด (Zipmex) และบริษัท ซิปเม็กซ์ จำกัด รวม 13 กรณี เป็นเงินค่าปรับรวม 10,977,000 บาท

นายเอกลาภ ยิ้มวิไล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ซิปเม็กซ์ จำกัด (Zipmex)

โดยกลุ่มผู้เสียหายมองว่าการสั่งปรับ Zipmex ด้วยจำนวนเงินดังกล่าวนั้น เบาบางจนเทียบไม่ได้กับความเสียหายที่เกิดขึ้น ยิ่งเมื่อเปรียบเทียบกับการพิจารณาความผิดของผู้ประกอบการศูนย์ซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลรายอื่น ๆ ที่ถูกสั่งปรับมากกว่า 24-70 ล้านบาท จากความผิดการสร้างปริมาณซื้อขายเทียม ก็ยิ่งฉายภาพความแตกต่างอย่างชัดเจน ในขณะที่ความผิดการย้ายเงินลูกค้าไปยังแพลตฟอร์มอื่นจนเกิดความเสียหายมากกว่า 2,000 ล้านบาท มีผู้เสียหาย 3,800 ราย แต่ถูกสั่งปรับเพียง 10.9 ล้านบาท

สกลกรย์ สระกวี ผู้ก่อตั้ง Bitkub

เป็นเหตุให้ นายสกลกรย์ สระกวี ผู้ก่อตั้ง Bitkub ต้องออกมาโพสต์ความเห็นถึงกรณีดังกล่าว ผ่านเฟซบุ๊กว่า

บางทีก็น้อยใจ สิ่งที่เราทำไป ไม่ได้ทำให้ใครเสียหาย ส่งหลักฐานต่างๆ นานา ชี้แจง พอ ก.ล.ต.เข้ามาตอนนั้นกันยายน ปี 2019 ก็ได้รับการตักเตือน และไม่มีการกระทำอีกจนถึงปัจจุบัน กลับมาโดนลงโทษย้อนหลังตั้งแต่ปี 2019 โดนแบน โดนปรับส่วนตัว 25 ล้านบาท โดนไม่ให้เป็นผู้บริหาร ไม่ให้เป็นกรรมการบริษัท อีกคนนึง เอาเงินลูกค้าไปปล่อยกู้ต่อ ทำให้คนอื่นเสียหายหลายพันล้าน โดนโทษปรับส่วนตัว 5.8 ล้านบาท และปัจจุบันก็ยังสามารถเป็นผู้บริหาร และเป็นกรรมการบริษัทได้ต่อ ความยุติธรรมอยู่ที่ไหนกันหนอ บ้านนี้ เมืองนี้”

กลุ่มผู้เสียหาย Zipmex Thailand ที่รวมตัวในกลุ่ม Line ยังได้หยิบยกประเด็นเงินเยียวยาที่อาจได้รับคืนเพียง 10- 20% มาแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกัน ถึงชะตากรรมอันน่าอนาถใจ  ซึ่งในเบื้องต้นกลุ่มผู้เสียหายยังมีความหวังว่าจะได้รับเงินคืนเต็มจำนวน เนื่องจากนักลงทุนรายใหญ่ของ Zipmex คือ V Ventures จะเติมเงินเข้ามา แต่จากรายงานข่าวเมื่อวันที่ 13 เม.ย. 2566 ที่ผ่านมา ระบุว่านักลงทุนที่จะให้เงินช่วยเหลือ Zipmex จำนวน 100 ล้านเหรียญสหรัฐ ในการฟื้นฟูกิจการ หรือ กองทุน V Venture นั้น ต้องการเสนอให้ Zipmex จ่ายเงินเจ้าหนี้เพียง 10-20% ของจํานวนเงินที่พวกเขาเป็นหนี้  ตามมาตรการคุ้มครองเจ้าหนี้ของ Zipmex ซึ่งถ้าไม่ได้รับคำตอบตกลงตามข้อเสนอดังกล่าว เงินที่ค้างท่อของ V Ventures อาจจะตัดการอัดฉีดสภาพคล่องในทันที ทั้งที่ก่อนหน้านั้น Zipmex ให้คํามั่นว่าจะชําระคืนเต็มจํานวนตามจดหมายจาก Zipmex ถึงศาลสิงคโปร์ที่ดูแลการปรับโครงสร้างหนี้

นอกจากนี้ยังมีกรณีการกล่าวอ้างว่า สัญญาจองซื้อหุ้น (Share Subscription Agreement หรือ SSA) นั้นได้สิ้นสุดสัญญาลงแล้ว อีกทั้งข้อตกลงภายใน SSA นั้น “ยังไม่มีผลพันธะผูกพัน” ระหว่างกันอีกต่อไป ซึ่งสะท้อนนัยว่า กลุ่มทุน V Ventures เตรียมที่จะ “ขอเงินทุน” ในการดำเนินการ หรือ Working Capital ที่ได้มอบให้กับ Zipmex ก่อนหน้านี้กลับคืนไป ซึ่งจะทำให้สภาพคล่องในการจ่ายเงินคืนให้แก่ผู้เสียหายโดยรวมแทบจะเป็นไปไม่ได้เลย ซึ่งสะท้อนเป็นนัยว่า ผู้เสียหายอาจต้องยอมรับชะตากรรมได้รับการชดใช้หนี้เพียง 10-20% เท่านั้น

กลุ่มผู้เสียหายยังตั้งข้อสงสัยถึงดีลดังกล่าวว่า เป็นการออกแบบแผนบริหารหนี้ภายใต้กฎหมายที่เปิดช่อง ล้วนเข้าทาง Zipmex และ V Ventures ทั้งสิ้น โดย Zipmex สามารถรอดพ้นจากวิกฤตกลับมาดำเนินธุรกิจต่อได้ ส่วน V Ventures ก็ได้ความเป็นหุ้นส่วนที่ไม่ต้องแบกหนี้มากนัก แต่คนที่โชคร้ายคือผู้เสียหายหรือเจ้าหนี้คนไทยซึ่งต้องยอมขาดทุน 80-90%

นอกจากจะได้เงินคืนเพียง 10-20% แล้ว ผู้เสียหายยังอาจไม่ได้รับคืนเงินทันกำหนดภายในสิ้นเดือนเมษายนนี้ เนื่องจากล่าสุดศาลสิงคโปร์เปิดโอกาสให้ขยายเวลาชำระหนี้ไปอีก 2 เดือน ทำให้ผู้เสียหายรวมตัวเขียนคำร้องเรียน โดยเรียบเรียงไทม์ไลน์ความเสียหายของตน ส่งอีเมล์ถึง ก.ล.ต. เพื่อเป็นหลักฐานบันทึกไว้ว่าได้รับความเดือดร้อน ขณะที่ผู้เสียหายบางส่วน นัดหมายรวมตัวเข้าแจ้งความ-ร้องเรียน กองบังคับการปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ (ปอศ.) ในวันพุธ (3 พ.ค. 2566)

ขณะที่ ก.ล.ต. ถูกตั้งคำถามว่า ปล่อยเกียร์ว่างให้เรื่องบานปลายมาถึงจุดนี้ได้อย่างไร จะบอกว่าเลยอำนาจหน้าที่ ก.ล.ต. ก็คงอ้างได้ไม่เต็มปาก เพราะแท้จริงสามารถใช้มาตรการทางอ้อมอื่นๆ เพื่ออำนวยความปลอดภัยของนักลงทุนและทวงความเป็นธรรมให้ผู้เสียหายได้มากกว่านี้ จะบอกว่าเลขาฯ ก.ล.ต. ไม่เอาจริงเอาจังกับการควบคุมบริษัทคริปโตเคอร์เรนซีก็คงไม่ใช่ เพราะที่ผ่านมาเลขาฯ ก.ล.ต.ก็เฝ้าระวัง จัดการเอกชนรายอื่น เช่น กรณีเหรียญ KUB ซึ่งไม่สร้างความเสียหายใดๆ ให้นักลงทุน แต่กับถูกเชือดแล้วเชือดอีก ยกตัวอย่างเมื่อวันที่ 5 พ.ค. 2565 ก.ล.ต. ได้สั่งปรับคณะกรรมการคัดเลือกสินทรัพย์ดิจิทัลของ บิทคับ จำนวน 6 ราย ที่ได้พิจารณาคัดเลือกและอนุมัติเหรียญ KUB เข้าเทรดในกระดานที่ไม่เป็นไปตามเงื่อนไข (Listing Rule ) ของ ก.ล.ต. และไม่ได้คำนึงถึงมาตรการป้องกันความขัดแย้งทางผลประโยชน์ โดยครั้งนั้น ก.ล.ต. ได้สั่งปรับเป็นเงินรวม 15.2 ล้านบาท ทว่า บิทคับได้ออกหนังสือชี้แจงในวันถัดมา โดยยืนยันว่า “เหรียญ KUB ยังคงมีคุณสมบัติเพียงพอและเป็นไปตามหลักเกณฑ์การคัดเลือกสินทรัพย์ดิจิทัล (Listing Rule) ที่ได้รับความเห็นชอบจากสำนักงาน ก.ล.ต. ตามที่ได้เคยพิจารณาคัดเลือกไว้”

เมื่อ ก.ล.ต.  ยืนยันว่าจะสร้างสมดุลระหว่างการสนับสนุนให้เกิดนวัตกรรมกับการมีกลไกคุ้มครองผู้ลงทุนที่เหมาะสม ขณะที่ยังสามารถรักษาเสถียรภาพ ความน่าเชื่อถือ และความเชื่อมั่นให้กับระบบการเงินโดยรวม ก็หวังว่าจะเห็นอนาคตคริปโตฯ ไทยภายใต้การบริหารงานยุคใหม่ ไม่สับสนเหมือนที่ผ่านมา ส่งเสริมการทำธุรกิจของภาคเอกชน แต่ขณะเดียวกันจะต้องไม่เอาเปรียบประชาชนผู้ลงทุน ไม่เลือกที่รัก มักที่ชัง อย่าให้ใครมองว่ากฎระเบียบของ ก.ล.ต. เอื้อประโยชน์กับผู้ประกอบบางราย แต่กลับลิดรอนสิทธิ์ของผู้ประกอบการบางราย

จึงได้แต่ฝากความหวังไว้ว่า เลขา ก.ล.ต.คนใหม่ ที่เข้ามาดำรงตำแหน่งตั้งแต่วันที่ 1 พ.ค. 2566 จะได้คนดีมีฝีมือมาปัดกวาดบ้านที่เต็มไปด้วยข้อครหาความไม่น่าไว้วางใจในหมู่คนวงการคริปโตเคอร์เรนซี เข้าใจระบบ มีความยุติธรรม ทั้งต่อผู้ประกอบการและนักลงทุน เป็นองค์กรแห่งความโปร่งใส และเป็นอิสระจากการถูกแทรกแซงจากองค์กรหรือบุคคลภายนอกอย่างแท้จริง

#สืบจากข่าว : รายงาน

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่

Latest Posts