กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. สั่งการให้ กองบังคับการตำรวจทางหลวง โดย พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รรท.ผบก.ทล., พล.ต.ต.มนตรี เทศขัน ผบก.ป., พ.ต.อ.พัฒนศักดิ์ บุบผาสุวรรณ, พ.ต.อ.พรศักดิ์ เลารุจิราลัย, พ.ต.อ.บุญลือ ผดุงถิ่น รอง ผบก.ป, พ.ต.อ.ณัฐพงษ์ ปิตะบุตร รอง ผบก.ทล.,ร่วมกับ เจ้าหน้าที่ตำรวจกองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) เจ้าหน้าที่ชุดจับกุม นำโดย ร.ต.ท.ชัยรัตน์ พันธุ์จะวงศ์ รอง สว.(ป.) ส.ทล.1 กก.6 บก.ทล., ด.ต.ศุภชัย กาญจนโชติดำรง, จ.ส.ต.นพรัตน์ จรกระโทก, จ.ส.ต.เดชมงคล นิคม ผบ.หมู่ ส.ทล.1 กก.6 บก.ทล.
ได้ร่วมกันจับกุม
1.นางสาวพิชามญชุ์ หรือเปิ้ลฯ อายุ 44 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับ ศาลจังหวัดเชียงใหม่ที่
จ.449/2556 ลงวันที่ 22 พ.ค. 2566 ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน “ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน”
2.นายคณิศรฯ อายุ 44 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับ ศาลจังหวัดเชียงใหม่ที่ จ.449/2556 ลงวันที่
22 พ.ค. 2566 ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน “ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน”
สถานที่จับกุม ทล.201 กม.29 ต.ตะเคียน อ.ด่านขุนทด จ.นครราชสีมา ต่อเนื่อง บริเวนริมถนน ต.สีคิ้ว
อ.สีคิ้ว จ.นครราชสีมา
จากกรณี ที่เมื่อวันที่ 12 มิถุนายน 2566 มีผู้เสียหายกว่า 200 คน รวมตัวแจ้งความที่จ.เชียงใหม่ หลังถูก นางพิชามญชุ์ หรือเจ๊เปิ้ล และ สามีหลอก ให้ซื้อที่ดินทิพย์ ในจังหวัดเชียงใหม่ โดยอ้างว่าจะขายเป็นเงินผ่อนรายเดือนระยะยาวไม่มีดอกเบี้ย ในพื้นที่ อ.สารภี , อ.แม่ริม , อ.สันกำแพง และพื้นที่ อ.เมือง จ.ลำพูน พร้อมทั้งมีการขึ้นป้ายโฆษณาทางสื่อออนไลน์ ระบุว่า ขายที่ดินราคาถูก จนมีผู้เสียหายหลายรายหลงเชื่อจ่ายเงินจำนวนมากเพื่อแลกกับที่ดินทิพย์เหล่านั้น มูลค่าความเสียหายเบื้องต้นมากกว่า 100 ล้านบาท
พฤติการณ์ของสามี ภรรยา คู่นี้ จะใช้วิธีการขึ้นป้ายโฆษณา ตามจุดย่านชุมชน ลงโฆษณาใน โซเชียลมีเดีย ขายที่ดินจัดสรรในราคาถูก ซึ่งมีการระบุตัวเลขราคาชัดเจน รวมถึงสามารถผ่อนชำระ กับทางบริษัทโดยตรง ไม่ผ่านสถาบันการเงินหลัก ใช้เพียงบัตรประจำตัวประชาชนเท่านั้น ซึ่งสามารถทำการจองและซื้อได้ทั้งคนไทย และคนต่างด้าว ทำให้ประชาชนที่ต้องการมีที่ดิน หลงเชื่อเข้าไปติดต่อซื้อ ที่ดิน โดยในสัญญา จะมีการอ้างผ่อนชำระ แบบไม่เสียดอกเบี้ย และผ่อนชำระเกิน 6 เดือน สามารถเข้าไปสร้างที่อยู่อาศัยได้ บางคนผ่อนครบสัญญา แต่ไม่สามารถ โอน กรรมสิทธิ์ ได้ จึงนำไปสู่การตรวจสอบ กลับพบว่า ที่ดินที่ตนเองซื้อ ไม่ใช่ที่ดินของบริษัท
ซึ่งผู้เสียหายหลายคนในจำนวนนั้น นอกจากคนไทยแล้ว ยังมีคนต่างด้าว ที่เข้ามาทำงานในจังหวัดเชียงใหม่ หลายคนมีครอบครัว และมีความหวังจะมีที่ดิน ปลูกบ้านเป็นไว้เป็นทรัพย์สมบัติให้ลูก บางรายใช้เงินเก็บที่รับจ้างมาทั้งชีวิตมาวางมัดจำและผ่อนจ่ายเงินงวดตามสัญญา ซึ่งบางรายสูญเงินรวมไปกว่า 500,000 บาท แต่กลับพบว่า เป็นที่ดินทิพย์ เมื่อพยายามติดต่อเพื่อยกเลิกสัญญา และ ขอเงินคืน กลับถูกเพิกเฉย นอกจากนี้ ยังมีผู้เสียหายที่ถูกหลอกซื้อที่ดินทิพย์ สูญเงินไปกว่า แสนบาท ก่อนที่เวลาต่อมาจะเกิดอุบัติเหตุรถชนเสียชีวิตพร้อมภรรยา ส่วนลูกสาว วัย 8 ปี บาดเจ็บสาหัส ซึ่งน้องชายของผู้เสียหายได้พยายามติดต่อขอคืนเงินจากผู้ต้องหาเพื่อจะนำมาเลี้ยงดูหลานสาว กลับถูกปฏิเสธ และติดต่อไม่ได้ จึงร้องขอให้ตำรวจเร่งตามจับกุมตัวมาโดยเร็ว
ต่อมา ทางตำรวจสภ.สารภี จ.เชียงใหม่ จึงได้รวบรวมพยานหลักฐาน ขอศาลออกหมายจับ ผู้ต้องหาทั้ง 2 ราย กระทั่งวันที่ 14 มิ.ย. 2566 ตำรวจภูธรภาค 5 ได้ประสานมายังตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) ให้ช่วยติดตามจับกุมนางสาวพิชามญชุ์ฯ และนายคณิศรฯ ผู้ต้องหาสองสามีภรรยา หลังจากได้รับการประสานข้อมูล พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. ได้สั่งการให้ ตำรวจทางหลวง ร่วมกับตำรวจกองปราบปราม ทำการวิเคราะห์ข้อมูล จนเชื่อว่าผู้ต้องหาทั้งสอง จะใช้เส้นทางถนนหลวง เชียงใหม่-นครราชสีมา เป็นเส้นทางหลบหนี ตำรวจทางหลวง จึงวางแผนตั้งจุดตรวจจุดสกัดเพื่อปิดกั้นช่องทางหลบหนี บนเส้นทางที่คาดว่าคนร้ายจะใช้หลบหนีทันทีหลังจากได้รับการประสานข้อมูล
จากการสืบสวนพบว่า
ผู้ต้องหาได้ขับขี่รถยนต์ ยี่ห้อโตโยต้า รุ่นยาริส สีแดง ออกจากปั้มน้ำมัน ในพื้นที่ ต.คลองขลุง อ.คลองขลุง จ.กำแพงเพชร มุ่งหน้าไปยัง จ.นครราชสีมา ต่อมาวันที่ 15 มิ.ย. 2566 เจ้าหน้าที่ จึงได้ทำการสืบสวนข้อมูล จากรถยนต์ ยี่ห้อโตโยต้า รุ่นยาริส สีแดง ที่ผู้ต้องหาใช้หลบหนีการจับกุม พบว่ากำลังใช้ ทางหลวง หมายเลข 201 ชัยภูมิ-สีคิ้ว มุ่งหน้าเข้า
จ.นครราชสีมา จึงได้ประสานข้อมูลตำรวจทางหลวงในพื้นที่รับผิดชอบเข้าทำการสกัดจับ พบรถยนต์ยี่ห้อโตโยต้า รุ่นยาริส สีแดง ตรงตามข้อมูลที่แจ้ง จึงได้เรียกให้หยุด เพื่อทำการตรวจสอบ ก่อนจะพบว่า ผู้ขับขี่ คือนางสาวพิชามญชุ์ฯ ผู้ต้องหาที่เจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังติดตามตัวอยู่ จากนั้นจึงได้เกลี้ยกล่อมนางสาวพิชามญชุ์ฯ เพื่อให้ติดต่อไปยังนายคณิศรฯ ผู้ต้องหาอีกรายซึ่งเป็นสามีจนยอมมอบตัว ในพื้นที่ อ.สีคิ้ว จ.นครราชสีมา
ก่อนนำตัวผู้ต้องหาทั้ง 2 ราย ส่งพนักงานสอบสวน สภ.สารภี จ.เชียงใหม่ เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
สอบถามผู้ต้องหาทั้งสองเบื้องต้น ให้การปฎิเสธตลอดข้อกล่าวหา อ้างว่า พวกตนไม่รู้เห็นและไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการหลอกลวงดังกล่าวแต่อย่างใด