ดังกระฉ่อนไปทั่วประเทศ เรื่องฉาว ๆ ในแวดวงยุทธจักรสีกากี ภาคตะวันออก ซึ่งยังคงเกิดเหตุในพื้นที่จังหวัดชลบุรี
หลังจาก 6 ผู้เสียหายประกอบด้วย “เสี่ยเป้” นายธนินวัฒน์ อุดมเชาวเศรษฐ์ นายเสฏฐวุฒิ ทองจันทร์ นายอภิรักษ์ ว่องวรดา นายจักรกริช บุญประมุข นายพัฒนะ ศุภภูดิสโสภณ นายเกียรติศักดิ์ ประทีปเชวงกิจ ได้เข้าร้องทุกข์กับพนักงานสอบสวน สภ.คูคต จ.ปทุมธานี เมื่อวันที่ 16 มิถุนายน 2566 ให้ดำเนินคดีกับ “ผู้การอ๊อด” พล.ต.ต.กัมพล ลีลาประภาภรณ์ ผบก.ชลบุรี พร้อมพวกที่เป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจในสังกัด และนอกสังกัด รวมจำนวน 7 นาย และพลเรือนจำนวน 2 นาย
1. นายพิสิษฐ์ หรือต้น คณิศรพาณี
2. นายวีระ หรือบอย นาทรัพย์
โดยกล่าวหา “เป็นเจ้าพนักงาน ร่วมกันปฏิบัติหรือละเว้น การปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต” “ร่วมกันข่มขืนใจผู้อื่นให้ยอมให้หรือยอมจะให้ตนหรือผู้อื่นได้ประโยชน์ในลักษณะที่เป็นทรัพย์สิน โดยใช้กำลังประทุษรายหรือโดยขู่เข็ญว่าทำอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย เสรีภาพ ชื่อเสียงหรือทรัพย์สินของผู้ถูกขู่เข็ญหรือของบุคคลที่สาม จนผู้ถูกข่มขืนใจยอมเช่นว่านั้น” “ร่วมกันหน่วงเหนี่ยวหรือกักขังผู้อื่น หรือกระทำด้วยประการใดให้ผู้อื่นปราศจากเสรีภาพในร่างกาย” เหตุเกิด 1.บริเวณบ้านเลขที่ 19/25 หมู่บ้านเซนโท ซอยหนองระแหง 4 แขวงสามวาตะวันตก เขตคลองสามวา กรุงเทพฯ 2.ห้องทำงาน ผบก.ชลบุรี ต.บางปลาสร้อย อ.เมือง จ.ชลบุรี 3.สภ.บางละมุง อ.บางละมุง จ.ชลบุรี 4.สภ.แสนสุข ต.แสนสุข อ.เมือง จ.ชลบุรี 5.ลานจอดรถสุดซอยหมู่บ้านฉัตรนรงค์สาม ม.3 ต.คูคต อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี 6.บริเวณด้านหลังวัดแสงแก้วโพธิญาณ อ.แม่สรวย จ.เชียงราย ระหว่างวันที่ 23-27 พ.ค.66 ภายหลังจากได้รับรายงานเหตุจาก พ.ต.อ.วงกต สุวรรณวัฒน์ ผกก.สภ.คูคต อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี ได้รายงานให้ “บิ๊กเด่น” พล.ต.อ.ดำรงค์ศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. ทราบ ก่อน “บิ๊กเด่น” จะมอบหมายให้ “รองโจ๊ก”พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง.ผบ.ตร. เป็นหัวหน้าทีมคลี่คลายคดีพร้อม ผบช.ภ.1 ผบช.ภ.2 ให้ติดตามจับกุม นายพลตำรวจพร้อมพลเรือน ที่ร่วมขบวนการตบทรัพย์ แก๊งค์บ่อนพนันออนไลน์ มาดำเนินคดี
หลังจาก “รองโจ๊ก” พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ที่เป็นแคนดิเดต ผบ.ตร. คนใหม่ ได้ลงมาบัญชาการติดตามคดีตบทรัพย์ 140 ล้านเอง ทำให้คดี “เป้รักผู้การเท่าไร” คืบหน้าไปมาก นายตำรวจที่ตกเป็นผู้ต้องหาตั้งแต่ระดับ พล.ต.ต.-ร.ต.อ. เดินทางเข้ามอบตัวรับทราบข้อกล่าวหาทั้งหมด จนถึงขณะนี้อยู่ระหว่างทำการสืบหาขุมทรัพย์คือเงินสด 140 ล้าน
นอกจากนี้ “รองโจ๊ก” ยังได้ประสาน ปปง.เพื่อทำการยึดทรัพย์ผู้ร่วมขบวนการ โดยเฉพาะนายวีระหรือ “บอย บ้านบึง” พบว่ามีทรัพย์สินมหาศาล แยกเป็นบ้าน ที่ดิน เรือยอร์ช รถยนต์ มูลค่าทรัพย์สินหลักพันล้าน
แต่ที่น่าสงสัย คือจำนวนเงินสด 140 ล้าน ที่ “เสี่ยเป้” นายธนินวัฒน์ ฯ ได้ให้การกับพนักงานสอบสวนระบุว่า เมื่อวันที่ 24 พ.ค.66 ได้ยืมเงินจากพรรคพวก เพื่อมาจ่ายให้กับนายพิสิษฐ์ หรือต้น นายวีระ หรือบอย จำนวน 65 ล้านบาท แบ่งเป็นยืมมาจากนายเคฯ จำนวน 29.2 ล้าน นายพุ จำนวน 8 ล้าน น.ส.ใหม่ จำนวน 28 ล้าน นอกจากนี้
นายพิสิษฐ์ หรือ ต้น ได้เรียกเงินเพิ่ม อีก 20 ล้าน โดยนายเสฎฐวุฒิ ผู้เสียหาย ก็ได้หาเงินมาจาก เสี่ยบอย (ร้านGate 6) จำนวน 20 ล้านมาให้ และนายเกียรติศักดิ์ หรือ เอ็ม ประทีมเชวงกิจ ได้นำเงินไปจ่ายให้ นายเสฎฐวุฒิ จำนวน 5 ล้านบาท เพื่อนำไปให้นายพิสิษฐ์ หรือต้น ที่ร้าน G-Day รวมทั้งเงินจำนวน 30 ล้านบาท ที่นายวีระหรือบอย รับไปจาก “เสี่ยเป้”นายธนินวัฒน์และนายจักรกริช หรือแก๊ป ที่ร้านอาหารปูเป็น เวลา 13.00 น.วันที่ 27 พ.ค.66 และเงินสดอีก 20 ล้าน ที่นายพิสิษฐ์หรือต้น ได้ไปรับเงินจำนวนดังกล่าวกับ นายเสฎฐวุฒิ หรือกัน ที่เดินทางไปกับนายเกียรติศักดิ์ หรือเอ็ม นายพัฒนะ หรือนะ และนายอภิรักษ์หรือต๊อบ ที่ร้านสตาร์บัค ล็อบบี้ โรงแรมเซ็นทารา พัทยา และในวันที่ 27 พ.ค.66 นายจักรกริช หรือแก๊บ ได้เดินทางไปที่ร้าน Slowride Coffee&Caf ต.หนองปลาไหล อ.บางละมุง จ.ชลบุรี ตามคำสั่งของนายวีระหรือบอย ได้ส่งมอบเงิน 30 ล้านบาทให้กับชายไทยไม่ทราบชื่อ ผิวคล้ำ เดินกระเผลก พูดไม่ชัด ซึ่งบอกว่านายวีระหรือบอย ให้มารับเงิน คนที่ให้ “เสี่ยเป้” หยิบยืมเงิน ทั้ง เสี่ยเค เสี่ยพุ น.ส.ใหม่ เสี่ยบอยร้านGate 6
รวมทั้งเงินจากผู้เสียหายนายเสฎฐวุฒิ หรือกัน นายจักรกริช หรือแก๊ป นายอภิรักษ์หรือต๊อบ รวมแล้วเป็นหลัก 100 ล้าน “รองโจ๊ก”ต้องสอบด้วยว่า เป็นเงินที่ได้มาจากการทำธุรกิจอะไร และทำไมถึงหยิบยืมกันง่าย มีการทำสัญญาเงินกู้กันหรือไม่ “เสี่ยเค” “เสี่ยพุ” “น.ส.ใหม่” “เสี่ยบอยร้านGate 6 ” ที่ให้ “เสี่ยเป้” หยิบยืมเงิน เขาคือใคร ทำธุรกิจอะไรถึงได้มีเงินให้ยืมแบบง่ายดายทั้งที่จำนวนเงินมากมายมหาศาล
“รองโจ๊ก”แคนดิเดต ผบ.ตร.คงต้องสอบถาม สอบปากคำ “เสี่ยเป้”นายธนินวัฒน์ เพิ่มเติมด้วย เพราะประชาชนที่ติดตามข่าวนี้อยู่เขากลัวจะลืม
