วันศุกร์, พฤศจิกายน 22, 2024
หน้าแรกต่างประเทศจีนนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจ “ผิดพลาด” ต้นเหตุนักลงทุน “ทิ้ง” ตลาดหุ้นจีน

Related Posts

นโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจ “ผิดพลาด” ต้นเหตุนักลงทุน “ทิ้ง” ตลาดหุ้นจีน

นักวิเคราะห์ที่ติดตามตลาดหุ้นจีนระบุว่า หากนับจนถึงวันจันทร์ที่ 26 มิถุนายน ดัชนี MSCI จีนตกรวดติดต่อกันถึง 6 วัน ทำให้มูลค่าตลาดหายไปมากกว่า 1.5 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ ย่ำแย่ที่สุดนับจากเดือนเมษายนของปีนี้ โดยที่เงินทุนต่างชาติไหลออกไปลงทุนประเทศอื่นแทน สาเหตุมาจากนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจที่ผิดพลาดของรัฐบาลจีน

หยั่น หวัง หัวหน้านักกลยุทธ์การลงทุนในจีนของ อัลไพน์ แมโคร ชี้ว่าตลาดหุ้นจีนที่ดิ่งลงหลายวันติดต่อกัน จนทำให้ราคาถูกมากเมื่อเทียบกับสหรัฐและอินเดียในขณะนี้ เป็นผลมาจากการที่รัฐบาลจีนยังคงดื้อรั้นที่จะใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจแบบทีละเล็กทีละน้อย เพราะมีความเชื่อฝังหัวว่าการกระตุ้นเศรษฐกิจแบบทุ่มเข้าไปทีเดียวชุดใหญ่จะได้ผลระยะสั้นเพียงชั่วคราวและสร้างความไม่สมดุลเพิ่มขึ้น

@suebjarkkhao

นโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจ “ผิดพลาด” ต้นเหตุนักลงทุน “ทิ้ง” ตลาดหุ้นจีน

♬ เสียงต้นฉบับ – สืบจากข่าว – สืบจากข่าว

“เราเห็นมานานแล้วว่า ความผิดพลาดด้านนโยบายอย่างมากแบบนี้ คือเหตุผลสำคัญที่ทำให้โครงสร้างการเติบโตของเศรษฐกิจจีนเสื่อมทรามลงในช่วงไม่กี่ปีมานี้ เป็นเรื่องน่ากังวล” นายหวังระบุ และว่าความไม่สมดุลพื้นฐานและสำคัญที่สุดของเศรษฐกิจจีนก็คือการออมมากเกินไปอย่างต่อเนื่อง เป็นผลให้ความต้องการสะสมเพื่อการบริโภคและการจับจ่ายใช้สอยต่าง ๆ ไม่เพียงพอที่จะกระตุ้นเศรษฐกิจในประเทศ ซึ่งความไม่สมดุลนี้จำเป็นต้องชดเชยโดยรัฐบาล

มาตรการของรัฐบาล เช่น ลดดอกเบี้ยนโยบายไม่สามารถพลิกมุมมองด้านลบของนักลงทุนที่มีต่อเศรษฐกิจจีนได้ บรรดาผู้จัดการด้านการลงทุนจึงโยกเงินไปลงทุนในตลาดที่ให้ผลตอบแทนดีกว่าในอินเดีย ญี่ปุ่น โดยตามข้อมูลของโกลด์แมน แซกส์ระบุว่า ไตรมาส 2 ปีนี้ตลาดหุ้นญี่ปุ่นและอินเดียเป็นประเทศในเอเชียที่นักลงทุนต่างชาติเข้าไปซื้อสุทธิมากที่สุด 4.5 หมื่นล้านดอลลาร์ และ 1 หมื่นล้านดอลลาร์ตามลำดับ

นอกจากนั้น บรรดาเฮดจ์ฟันด์ต่าง ๆ ได้ถอนเงินลงทุนประมาณ 70% ของที่เคยทุ่มลงทุนในจีนอย่างตื่นเต้นช่วงที่กลับมาเปิดประเทศหลังโควิดอีกด้วย

ด้าน บีซีเอ รีเสิร์ช แสดงความเห็นว่า บรรดาผู้วางนโยบายของจีนยัง “ตามหลัง” เส้นเติบโตของเศรษฐกิจ ตลาดหุ้นจะอ่อนแรงต่อไปถ้าเศรษฐกิจสร้างความผิดหวัง ยกเว้นที่เสียแต่ว่าจะยอมใช้มาตรการกระตุ้นแบบชุดใหญ่ หากจีนล้มเหลวในการแทรกแซงและพลิกฟื้นความไม่สมดุลของเศรษฐกิจ ก็อาจจะผลักดันจีนเข้าสู่ “ทศวรรษที่สูญหาย” แบบเดียวกับที่เคยเกิดขึ้นกับเศรษฐกิจญี่ปุ่นช่วงทศวรรษ 1990 หลังจากตลาดอสังหาริมทรัพย์พังทลาย ซึ่งทำให้เศรษฐกิจชะงักงันและติดอยู่ในหล่มของเงินฝืดอย่างยาวนาน

อย่างไรก็ตาม นายหลี่ เฉียง นายกรัฐมนตรีจีนยังมั่นใจว่าเศรษฐกิจจีนเดินมาถูกทางแล้ว โดยเขากล่าวสุนทรพจน์ต่อที่ประชุมดาวอส ฤดูร้อนครั้งที่ 14 ที่เมืองเทียนจินสัปดาห์ที่แล้วว่า การฟื้นตัวของเศรษฐกิจขณะนี้อยู่ในทิศทางที่ถูกต้องแล้ว ประเมินว่าจีดีพีจีนไตรมาส 2 จะเติบโตแข็งแกร่งกว่าไตรมาสแรก ทำให้เชื่อว่าตลอดปีนี้จะขยายตัวตามเป้าหมายคือ 5%

พร้อมกันนี้ยังให้คำมั่นว่าจะเปิดตลาดมากขึ้น ขณะเดียวกัน ก็จะส่งเสริมความต้องการภายในประเทศเพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจ แต่ว่าก็ไม่ได้เสนอมาตรการใหม่ขนาดใหญ่แต่อย่างใด

การถูกสหรัฐอเมริกาเล่นงานด้านเทคโนโลยีอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้หุ้นของจีนที่เกี่ยวข้องกับปัญญาประดิษฐ์หรือเอไอได้รับผลกระทบหนักเช่นกัน

ล่าสุดมีรายงานข่าวจากวอลล์สตรีตเจอร์นัลว่า รัฐบาลสหรัฐอาจเริ่มสั่งห้ามเอ็นวิเดีย (Nvidia) และบริษัทผู้ผลิตชิปรายอื่น ๆ ของสหรัฐ ไม่ให้จำหน่ายชิปแก่ลูกค้าจีนและประเทศอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องภายในเดือนกรกฎาคมนี้ เป็นผลให้ดัชนี CSI Artificial Intelligence ของจีนวันที่ 28 มิถุนายนร่วงลง 3.76%

ทั้งนี้ เอ็นวิเดียเป็นผู้ผลิตชิปกราฟิกซึ่งทำหน้าที่ขับเคลื่อนการทำงานของเอไอ อย่างเช่น ChatGPT ของ OpenAI และ Bard ซึ่งเป็นแชตบอตของอัลฟาเบต

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่

spot_img

Latest Posts