การพบกันระหว่างนายหลี่ เฉียง นายกรัฐมนตรีจีน กับประธานาธิบดีเอ็มมานูเอล มาครง ผู้นำฝรั่งเศส ที่กรุงปารีส เมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา ในฐานะสมาชิกถาวรของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ (ยูเอ็นเอสซี) ทั้งสองมีมุมมองยุทธศาสตร์เชิงบวกร่วมกัน แลกเปลี่ยนเชิงลึก และบรรลุฉันทามติเชิงยุทธศาสตร์ เป็นพิมพ์เขียวสำหรับการพัฒนาความสัมพันธ์จีน-ฝรั่งเศส
“จีน ฝรั่งเศส และยุโรป ต่างมีจุดแข็งของตัวเอง และจำเป็นต้องกระชับความร่วมมือให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น” หลี่กล่าวและว่า จีนสนับสนุนให้บริษัทต่างๆ ลงทุนในฝรั่งเศส และบริษัทฝรั่งเศสยินดีแบ่งปันโอกาสในการพัฒนาของจีน จีนพร้อมที่จะเสริมสร้างการสื่อสารและการประสานงานกับฝรั่งเศส ในด้านกิจการระหว่างประเทศ สนับสนุนความคิดริเริ่มที่ดีของกันและกัน ร่วมกันรับมือกับความท้าทายระดับโลก และส่งเสริมสันติภาพและเสถียรภาพของโลก โดยจีนเป็นประเทศพันธมิตรทางการค้ารายใหญ่เป็นอันดับ 3 ของฝรั่งเศส รองจากอียูและสหรัฐ
ด้านนายเหอ ลี่เฟิง รองนายกรัฐมนตรีจีน ตั้งความหวังว่า ฝรั่งเศสจะช่วยทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างจีนและสหภาพยุโรป (EU) มีเสถียรภาพ ภายหลังการประชุมร่วมกันกับนายบรูโน เลอ แมร์ รัฐมนตรีกระทรวงเศรษฐกิจของฝรั่งเศส เมื่อเดือนที่ผ่านมา หลังรัฐบาลอียูอนุมัติมาตรการคว่ำบาตรรัสเซีย ซึ่งการดำเนินการดังกล่าวอาจจะส่งผลกระทบต่อบริษัทสัญชาติจีนไปด้วย ขณะที่บริษัทของฝรั่งเศสมีความกังวลมากยิ่งขึ้นเกี่ยวกับความขัดแย้งระหว่างมหาอำนาจอย่างจีนและสหรัฐ