วันจันทร์, พฤษภาคม 6, 2024
หน้าแรกคอลัมนิสต์ดร.สามารถ ราชพลสิทธิ์สูตรเด็ดยึด "พรรคปชป."ส.ส. ยิ่งน้อย "ยิ่งยึดง่าย""เป็นหลักเกณฑ์ที่ดีหรือ?"ดร.สามารถ "เผย"

Related Posts

สูตรเด็ดยึด “พรรคปชป.”ส.ส. ยิ่งน้อย “ยิ่งยึดง่าย””เป็นหลักเกณฑ์ที่ดีหรือ?”ดร.สามารถ “เผย”

เลือกหัวหน้าพรรค ปชป. คะแนนเสียง ส.ส. 70% องค์ประชุมอื่น 30% ได้เปรียบ-เสียเปรียบ อย่างไร ?

มีผู้ติดตามการเลือกตั้งหัวหน้าพรรค ปชป. หลายคนถามผมมาว่า การกำหนดให้คะแนนเสียงเลือกตั้งของ ส.ส. ในปัจจุบันมีสัดส่วน 70% และคะแนนเสียงขององค์ประชุมอื่น (เช่น กรรมการบริหารพรรคในปัจจุบัน อดีตหัวหน้าพรรค อดีตเลขาธิการพรรค อดีต ส.ส. รัฐมนตรีของพรรคในปัจจุบัน และอดีตรัฐมนตรีของพรรค เป็นต้น) มีสัดส่วนรวมกัน 30% ทำให้เกิดความได้เปรียบ-เสียเปรียบ อย่างไร ?

ดร.สามารถ ราชพลสิทธิ์ รักษาการรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ โพสต์ในเพจ “ดร.สามารถ ราชพลสิทธิ์ – Dr.Samart Ratchapolsitte” ว่า

ผมขอตอบคำถามของผู้ที่สนใจติดตามการเลือกตั้งหัวหน้าพรรค ปชป. ดังนี้

  1. ส.ส. 1 คน มีคะแนนเท่าไหร่ ?

ตามข้อบังคับของพรรค ปชป. คะแนนเสียงเลือกตั้งของ ส.ส. ในปัจจุบันมีสัดส่วน 70% ของคะแนนเสียงขององค์ประชุมของที่ประชุมใหญ่

ในปัจจุบัน ส.ส. ของพรรค ปชป. มีจำนวน 25 คน มีคะแนนคิดเป็นสัดส่วน 70% นั่นหมายความว่า ส.ส. 1 คน จะมีคะแนน 2.8% (70%/25)

  1. องค์ประชุมอื่น 1 คน มีคะแนนเท่าไหร่ ?

ตามข้อบังคับของพรรค ปชป. คะแนนเสียงเลือกตั้งขององค์ประชุมอื่นมีสัดส่วน 30% ของคะแนนเสียงขององค์ประชุมของที่ประชุมใหญ่

2.1 กรณีมีผู้เข้าร่วมประชุม 250 คน (ผู้เข้าร่วมประชุมต้องมีไม่น้อยกว่า 250 คน)

องค์ประชุมที่เป็น ส.ส. 25 คน องค์ประชุมอื่น 225 คน (250-25) นั่นหมายความว่า องค์ประชุมอื่น 1 คน จะมีคะแนน 0.13% (30%/225)

2.2 กรณีมีผู้เข้าร่วมประชุม 300 คน

องค์ประชุมที่เป็น ส.ส. 25 คน องค์ประชุมอื่น 275 คน (300-25) นั่นหมายความว่า องค์ประชุมอื่น 1 คน จะมีคะแนน 0.11% (30%/275)

2.3 กรณีมีผู้เข้าร่วมประชุม 351 คน (จำนวนองค์ประชุมทั้งหมด 351 คน)

องค์ประชุมที่เป็น ส.ส. 25 คน องค์ประชุมอื่น 326 คน (351-25) นั่นหมายความว่า องค์ประชุมอื่น 1 คน จะมีคะแนน 0.09% (30%/326)

  1. ต้องใช้องค์ประชุมอื่นกี่คนจึงจะได้คะแนนเท่ากับ ส.ส. 1 คน ?

3.1 กรณีมีผู้เข้าร่วมประชุม 250 คน (ผู้เข้าร่วมประชุมต้องมีไม่น้อยกว่า 250 คน)

ส.ส. 1 คน มีคะแนน 2.8% ในขณะที่องค์ประชุมอื่น 1 คน มีคะแนน 0.13% ดังนั้น จะต้องใช้องค์ประชุมอื่นจำนวน 22 คน (2.8%/0.13%) จึงจะได้คะแนนเท่ากับ ส.ส. 1 คน

3.2 กรณีมีผู้เข้าร่วมประชุม 300 คน

ส.ส. 1 คน มีคะแนน 2.8% ในขณะที่องค์ประชุมอื่น 1 คน มีคะแนน 0.11% ดังนั้น จะต้องใช้องค์ประชุมอื่นจำนวน 26 คน (2.8%/0.11%) จึงจะได้คะแนนเท่ากับ ส.ส. 1 คน

3.3 กรณีมีผู้เข้าร่วมประชุม 351 คน (จำนวนองค์ประชุมทั้งหมด 351 คน)

ส.ส. 1 คน มีคะแนน 2.8% ในขณะที่องค์ประชุมอื่น 1 คน มีคะแนน 0.09% ดังนั้น จะต้องใช้องค์ประชุมอื่นจำนวน 32 คน (2.8%/0.09%) จึงจะได้คะแนนเท่ากับ ส.ส. 1 คน

  1. สรุป

4.1 จะต้องใช้องค์ประชุมอื่น 22-32 คน (เปลี่ยนแปลงตามจำนวนผู้เข้าร่วมประชุมตั้งแต่ 250-351 คน) จึงจะได้คะแนนเท่ากับ ส.ส. 1 คน

4.2 ถ้า ส.ส. จำนวนตั้งแต่ 18 คนขึ้นไป ลงคะแนนให้ผู้สมัครเป็นหัวหน้าพรรค ปชป. คนใด ผู้สมัครคนนั้นจะได้รับเลือกตั้งเป็นหัวหน้าพรรคทันที (18 คูณด้วย 2.8% = 50.4%) แม้ว่า ส.ส. จำนวนที่เหลือ รวมทั้งองค์ประชุมอื่นทั้งหมดจะไม่เลือกผู้สมัครคนนั้นก็ตาม

4.3 การกำหนดคะแนนเสียงเลือกตั้งของ ส.ส. ให้มีสัดส่วน 70% และขององค์ประชุมอื่น 30% ของคะแนนเสียงขององค์ประชุมของที่ประชุมใหญ่ หากใช้ในกรณีที่พรรค ปชป. มี ส.ส. จำนวนมากเหมือนในอดีต ความแตกต่างของคะแนนระหว่าง ส.ส. กับองค์ประชุมอื่นก็จะมีไม่มาก แต่กรณีที่พรรค ปชป. มี ส.ส. น้อยลงดังเช่นในปัจจุบัน ความแตกต่างของคะแนนจะเพิ่มมากขึ้น

4.4 สมมติว่าในอนาคตพรรค ปชป. มี ส.ส. น้อยลงกว่านี้ เช่นมีเพียง 10 คน เท่านั้น (ซึ่งผมไม่ต้องการให้เป็นเช่นนี้) ส.ส. 1 คน จะมีคะแนน 7% (70%/10) ดังนั้น หาก ส.ส. จำนวน 8 คน หนุนใครให้เป็นหัวหน้าพรรค ปชป. คนนั้นก็จะได้เป็นทันที (8 คูณด้วย 7% = 56%) ไม่ต้องอาศัยเสียงจาก ส.ส. ที่เหลือ และองค์ประชุมอื่นเลย

4.5 หลักเกณฑ์ที่ดีจะต้องเป็นหลักเกณฑ์ที่สามารถใช้ได้อย่างเป็นธรรมในทุกสถานการณ์ ไม่ว่าจะมีจำนวน ส.ส. มากหรือน้อยก็ตาม

ที่มาเพจ : ดร.สามารถ ราชพลสิทธิ์ – Dr.Samart Ratchapolsitte

สืบจากข่าว รายงาน

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่

spot_img

Latest Posts