สถานเอกอัครราชทูตจีนประจำกรุงมอสโกวิพากษ์วิจารณ์ทางการรัสเซียที่ปฏิบัติอย่างรุนแรง ในกรณีการปฏิเสธไม่ให้พลเมืองชาวจีนหลายคนเข้าประเทศ
“การบังคับใช้กฎหมายที่รุนแรงและมากเกินความจำเป็นของรัสเซียในเหตุการณ์นี้ นับเป็นการละเมิดสิทธิและผลประโยชน์ที่ถูกต้องตามกฎหมายของชาวจีนอย่างร้ายแรง” สถานเอกอัครราชทูตจีนโพสต์ข้อความบนบัญชีวีแชท (WeChat)
สถานเอกอัครราชทูตจีนกล่าวว่า ชาวจีน 5 คนที่พยายามเข้ารัสเซียผ่านทางพรมแดนรัสเซียและคาซัคสถานเมื่อวันที่ 29 ก.ค. ถูกสอบสวนซ้ำแล้วซ้ำอีกเป็นเวลา 4 ชั่วโมง ที่ด่านตรวจคนเข้าเมือง โดยพวกเขาถูกปฏิเสธไม่ให้เข้าประเทศ และถูกเพิกถอนวีซ่าท่องเที่ยว
สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า การที่สถานทูตจีนออกมาวิจารณ์ดังกล่าว ซึ่งไม่ใช่เรื่องที่เกิดขึ้นบ่อยนัก นับว่าเป็นเรื่องที่ตรงกันข้ามอย่างสิ้นเชิงต่อนโยบาย “มิตรภาพไร้ขีดจำกัด” ที่นายสี จิ้นผิง ประธานาธิบดีจีน และนายวลาดิเมียร์ ปูติน ประธานาธิบดีรัสเซีย ประกาศร่วมกันเมื่อปีที่แล้ว โดยจีนแสดงจุดยืนอย่างหนักแน่นในการปฏิเสธที่จะประณามรัสเซียในการรุกรานยูเครน และส่งเสริมความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจระดับทวิภาคีที่แน่นแฟ้นยิ่งขึ้นกับรัสเซีย
สถานเอกอัครราชทูตจีนยังเผยอีกว่า จีนได้ส่งตัวแทนไปยังกระทรวงต่างประเทศรัสเซีย สำนักงานความมั่นคงของรัฐบาลกลางรัสเซีย และหน่วยพิทักษ์ชายแดนของรัฐบาลกลางรัสเซีย หลังจากที่เจ้าหน้าที่ได้พิจารณาดูคลิปวิดีโอที่ได้รับจากเหล่าบุคคลที่เกี่ยวกับเหตุการณ์ดังกล่าว
นอกจากนี้แล้ว สถานเอกอัครราชทูตจีน ยังกล่าวว่า สิ่งที่เกิดขึ้นนั้นขัดแย้งกับเป้าหมายมิตรภาพในภาพรวมระหว่างจีนกับรัสเซีย และแนวโน้มการมีปฏิสัมพันธ์ฉันมิตรระหว่างประชาชนของทั้งสองประเทศที่เพิ่มขึ้นมากขึ้น
ทั้งนี้ในแถลงการณ์ร่วมที่กรุงปักกิ่งเมื่อปีที่แล้ว ก่อนหน้าที่รัสเซียจะรุกรานยูเครนนั้น นายปูตินและนายสีเห็นพ้องกันว่า “ไม่มีเขตต้องห้าม” ในความร่วมมือระหว่างประเทศระหว่างรัสเซียและจีน
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์