“ภูมิธรรม” โรดโชว์ครั้งแรก นำคณะผู้บริหารระดับสูงพาณิชย์ เยือนเขตปกครองตนเอง กว่างซีจ้วง เข้าร่วมพิธีเปิดงานแสดงสินค้า CAEXPO 2023 ครั้งที่ 20 ณ นครหนานหนิง มีผู้ประกอบการไทยเข้าร่วม 76 ราย ใน 4 กลุ่มสินค้า พร้อมหารือประธานเขตปกครองตนเองกว่างซีจ้วง ร่วมมือขับเคลื่อนการค้าสองฝ่าย
นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า กระทรวงพาณิชย์นำคณะผู้บริหารระดับสูง เดินทางเยือนเขตปกครองตนเองกว่างซีจ้วง ระหว่างวันที่ 15-18 ก.ย. 2566 เพื่อเข้าร่วมพิธีเปิดงานแสดงสินค้าจีน-อาเซียน หรือ China–ASEAN Expo (CAEXPO 2023) ครั้งที่ 20 ที่จัดขึ้นที่ศูนย์นิทรรศการและการประชุมระหว่างประเทศ นครหนานหนิง (Nanning International Convention & Exhibition Center) เขตปกครองตนเองกว่างซีจ้วง สาธารณรัฐประชาชนจีน ซึ่งไทยได้เข้าร่วมงานมาติดต่อกันทุกปี
สำหรับการเข้าร่วมงานในปีนี้ กระทรวงพาณิชย์ ได้คัดเลือกผู้ประกอบการจำนวน 76 รายใน 4 กลุ่มสินค้าเข้าร่วมจัดงานแสดงสินค้าใน Thailand Pavilion ได้แก่ กลุ่มอาหารและเครื่องดื่ม กลุ่มแฟชั่นและเครื่องประดับ กลุ่มสุขภาพและความงาม และกลุ่มของใช้ในครัวเรือนและของตกแต่งบ้าน
ส่วนของการร่วมจัดแสดงภาพลักษณ์ประเทศใน Pavilion of Cities of Charm ของปีนี้กระทรวงพาณิชย์ได้เลือกจังหวัดจันทบุรี ซึ่งเป็นจังหวัดมนต์เสน่ห์ของไทย และเป็นจังหวัดที่มีศักยภาพในการผลิตและส่งออกผลไม้อันดับหนึ่งของไทย โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ลำไย มีสถานที่ท่องเที่ยวที่สวยงาม และยังเป็นประตูสู่การค้าชายแดนกับประเทศกัมพูชาและเวียดนาม มานำเสนอการประชาสัมพันธ์สินค้าเกษตรและอาหารท้องถิ่นที่โดดเด่นของจังหวัดให้กับผู้เข้าร่วมงานได้เห็นถึงศักยภาพของจังหวัดจันทบุรี
ทั้งนี้ ในช่วงการเข้าร่วมงาน CAEXPO 2023 กระทรวงพาณิชย์มีกำหนดการพบปะหารือกับผู้นำจีน และผู้นำประเทศต่างๆ รวมถึงพบปะหารือกับนักธุรกิจไทย-จีน เพื่อร่วมมือกันในการผลักดันและขยายตลาดสินค้าและบริการไทยเข้าสู่ตลาดจีนด้วย โดยได้พบปะหารือกับนายหลาน เทียนลี่ ประธานเขตปกครองตนเองกว่างซีจ้วง ถึงความร่วมมือในการส่งเสริมการจัดงานแสดงสินค้าจีน-อาเซียน หรือ China–ASEAN Expo (CAEXPO) ครั้งต่อ ๆ ไป โดยกระทรวงพาณิชย์ยินดีให้การสนับสนุนการจัดงานแสดงสินค้า CAEXPO และกิจกรรมคู่ขนาน รวมถึงการประชาสัมพันธ์เชิญชวนผู้ประกอบการไทยและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมกิจกรรมในปีต่อ ๆ ไป
ทั้งสองฝ่ายยังได้หารือถึงการใช้ประโยชน์จากระเบียงการค้าระหว่างประเทศทางบกและทางทะเลแห่งใหม่ (New International Land-Sea Trade Corridor – ILSTC) ที่เขตปกครองกว่างซีจ้วง มีทำเลที่ตั้งเป็นข้อได้เปรียบ มีชายแดนทางบกและทะเลติดกับเวียดนาม และมีระบบคมนาคมทั้งทางบก น้ำ และอากาศครบวงจร โดยไทยพร้อมที่จะใช้ประโยชน์จากระบบคมนาคม เพื่อขยายการส่งออกสินค้าไทยและผลไม้ไทยเข้าสู่ตลาดจีน และขอบคุณรัฐบาลจีนและเขตปกครองตนเองกว่างซีจ้วง อำนวยความสะดวกการขนส่งสินค้าของไทย โดยเฉพาะผลไม้ และสินค้าอื่น ๆ ที่ผ่านทางด่านโหย่วอี้กวนต่อไป เพราะผลความร่วมมือที่ผ่านมา ทำให้ไทยสามารถส่งออกผลไม้เข้าสู่ตลาดจีนได้เพิ่มขึ้น สะดวกขึ้น และผู้บริโภคชาวจีน ได้ประโยชน์ในการบริโภคผลไม้ที่สดใหม่ จากการขนส่งที่สะดวก รวดเร็ว
นอกจากนี้ ทั้งสองฝ่ายยังได้หารือในการส่งเสริมความร่วมมือในด้านการเปิดกว้างของระบบเศรษฐกิจในภูมิภาค ทั้งในเชิงลึกและเชิงกว้าง เพื่อนำไปสู่การพัฒนาอย่างยั่งยืนร่วมกัน รวมถึงการกระชับความ ร่วมมือในด้านการค้าและการลงทุน การพัฒนาด้านโลจิสติกส์ การเชื่อมโยงกว่างซีจ้วงกับ การนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย บีโอไอ เพื่อความร่วมมือด้านการลงทุน และได้แจ้งว่าล่าสุดรัฐบาลไทยได้อนุมัติฟรีวีซ่าให้กับนักท่องเที่ยวจีน ซึ่งจะช่วยอำนวย ความสะดวกให้กับนักท่องเที่ยวจีนในการเดินทางมาไทย และจะเป็นการช่วยฟื้นฟูธุรกิจท่องเที่ยวของทั้งสองประเทศ ซึ่งจะส่งผลดีต่อการค้าการลงทุนของทั้งสองประเทศด้วย
สำหรับมูลค่าการค้าไทย-จีน นั้น จีนเป็นคู่ค้าสำคัญลำดับ 1 ของไทย 11 ปีต่อเนื่อง ตั้งแต่ ปี 2556 ปัจจุบัน โดยปี 2565 ไทยส่งออกไปจีน 1.19 ล้านล้านบาท ปี 2566 (ม.ค.-ก.ค.) ไทยส่งออกไปจีน 695,516 ล้านบาท สินค้าส่งออกสำคัญ อาทิ ผลไม้ ผลิตภัณฑ์ยาง ผลิตภัณฑ์มันสำปะหลัง เม็ดพลาสติก คอมพิวเตอร์ สินค้านําเข้าสําคัญ เครื่องจักรไฟฟ้า เครื่องจักรกล เคมีภัณฑ์ เครื่องใช้ไฟฟ้า คอมพิวเตอร์
ในส่วนมูลค่าการค้าไทย-เขตปกครองตนเองกว่างสีจ้วง ปี 2565 มูลค่าการค้ารวม 30,680 ล้านหยวน (153,400 ล้านบาท) ไทยส่งออกมูลค่า 15,000 ล้านหยวน (75,000 ล้านบาท) คิดเป็นสัดส่วน 6.3% ของ การส่งออกไทยไปจีน ทั้งนี้เขตปกครองตนเองกว่างสีจ้วงนั้นฐานะเทียบเท่ามณฑล มี 14 เมือง นครหนานหนึ่งเป็นเมืองเอก ซึ่งจีนกำหนดให้เป็น “ประตูสู่อาเซียน”