ในช่วงเช้าวันที่ 16 พฤศจิกายนตามเวลาท้องถิ่น ปธน.สี จิ้นผิง ของจีนกล่าวปาฐกถาสำคัญภายใต้หัวข้อ “ร่วมแรงร่วมใจเผชิญกับความท้าทาย เขียนบทใหม่แห่งความร่วมมือในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก” ในที่ประชุมสุดยอดผู้นำภาคธุรกิจเอเปค นครซานฟรานซิสโก
โดย ปธน.สี จิ้นผิง ระบุว่าเมื่อ 30 ปีก่อน ผู้นำในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกได้ติดตามกระแสยุคสมัยแห่งสันติภาพและการพัฒนา จัดการประชุมอย่างไม่เป็นทางการของผู้นำกลุ่มเอเปคเป็นครั้งแรก ส่งเสริมการพัฒนาในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกและเศรษฐกิจโลกาภิวัตน์ได้เข้าสู่ช่องทางการพัฒนาที่รวดเร็ว ทำให้ภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกกลายเป็นศูนย์กลางแห่งการเติบโตทางเศรษฐกิจโลกและเป็นจุดยึดของการพัฒนาและเสถียรภาพของโลก
ด้วยระยะเวลา 30 ปีที่ผ่านมา พวกเรายึดถือความเปิดกว้างในภูมิภาค ไม่แบ่งแยก เรียนรู้ประสานและแลกเปลี่ยนกัน มุ่งเน้นการพัฒนา ได้จัดสร้าง “วิถีเอเปค” แห่งความเป็นอิสระ ความสมัครใจ ฉันทามติ และมีความค่อยเป็นค่อยไป เราได้เชิดชูจิตวิญญาณของการเป็นหุ้นส่วนแห่งความปรองดองโดยแสวงหาจุดร่วมสงวนจุดต่างและลงเรือลำเดียวกัน การเดินทางที่ไม่ธรรมดาแห่งความร่วมมือเอเชียแปซิฟิกได้นำมาซึ่งข้อคิดที่สำคัญต่าง ๆ ให้กับเรา
ปธน.สี จิ้นผิง ยังกล่าวเน้นว่าโลกเข้าสู่ยุคแห่งความปั่นป่วนและการเปลี่ยนแปลงครั้งใหม่ ความร่วมมือเอเชีย-แปซิฟิกในอีก 30 ปีข้างหน้าจะไปสู่ทิศทางใด กลายเป็นคำถามที่เรากำลังเผชิญหน้าอยู่ในตอนนี้ ซึ่งพวกเราต้องไม่ลืมเจตนารมย์แรกเริ่ม ขับเคลื่อนการเดินทางใหม่ของกลุ่มเอเปค ต้องร่วมกันรักษาหลักการของกฎบัตรสหประชาชาติ ยืนหยัดการพูดคุย ไม่เป็นปฏิปักษ์ต่อกัน ยืนหยัดการเป็นหุ้นส่วนแต่ไม่ใช่รวมตัวเป็นพันธมิตร รักษาความเจริญรุ่งเรืองและมีเสถียรภาพในเอเชียแปซิฟิก ภูมิภาคแห่งนี้ไม่ควรเป็นสนามรบแห่งการต่อสู้ทางภูมิรัฐศาสตร์ และไม่ควรก่อสงครามเย็นในรูปแบบใหม่ หรือจัดทีมเพื่อต่อสู้เป็นปฏิปักษ์ต่อกัน ต้องยืนหยัดความเป็นภูมิภาคที่เปิดกว้าง ผลักดันกระบวนการการค้าเสรีในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ส่งเสริมการเชื่อมโยงกันทางเศรษฐกิจระหว่างประเทศ พัฒนาเศรษฐกิจในภูมิภาคให้เปิดกว้างและเป็นประโยชน์ต่อกัน ผลักดันการพัฒนาระบบดิจิตอล ระบบอัจฉริยะ และความเป็นสีเขียว ส่งเสริมนวัตกรรมทางเนคโนโลยี และการปรับความสร้างสรรค์ทางวิทยาศาสตร์เทคโนโลยีให้เป็นผลงานที่สามารถประยุกต์ใช้ได้ ผลักดันการหลอมรวมของเศรษฐกิจดิจิตอลกับเศรษฐกิจจริงให้ลงลึก ปรับปรุงการจัดการปัญหาวิทยาศาสตร์เทคโนโลยีของโลก สร้างบรรยากาศการพัฒนาวิทยาศาสตร์เทคโนโลยีที่เปิดกว้าง ยุติธรรม เสมอภาค และไม่มีอคติ
นอกจากนั้น ปธน.สี จิ้นผิง ยังเน้นว่าตั้งแต่ปีนี้เป็นต้นมา เศรษฐกิจจีนฟื้นตัวขึ้นเรื่อยๆ การพัฒนาที่มีคุณภาพสูงได้รับการผลักดันอย่างจริงจัง จีนยังคงเป็นแรงกระตุ้นในการเติบโตของเศรษฐกิจโลกที่ใหญ่ที่สุด จีนมีความได้เปรียบทางระบบเศรษฐกิจที่เป็นเศรษฐกิจการตลาดแบบสังคมนิยม ความได้เปรียบด้านความต้องการทางการตลาด ความได้เปรียบด้านอุปทานที่สมบูรณ์ในระบบอุตสาหกรรม ความได้เปรียบด้านบุคลากรที่เป็นแรงงาน และภาคเอกชนที่มีคุณสมบัติ การพัฒนาของเศรษฐกิจ มีแรงกระตุ้นภายในประเทศ มีความทนทาน และมีศักยภาพสูง
ภาพรวมที่ว่าเศรษฐกิจจีนมีแนวโน้มที่ดีนั้นไม่เปลี่ยนแปลงและไม่อาจเปลี่ยนแปลงได้ เรามีความมั่นใจและมีความสามารถที่จะบรรลุการพัฒนาที่มั่นคงในระยะยาว และจากการพัฒนาใหม่ของจีนจะนำมาซึ่งแรงกระตุ้นใหม่และโอกาสใหม่ให้กับโลก จีนยืนหยัดการเปิดกว้างเพื่อสร้างสรรค์ประเทศ ยืนหยัดการเปิดประเทศที่มีระดับสูงอย่างชัดเจน มีความตั้งใจเด็ดเดี่ยวในการสร้างบรรยากาศการประกอบธุรกิจตามหลักการตลาด นิติบัญญัติ และสากล ไม่เปลี่ยนนโยบายการให้บริการที่มีคุณภาพสูงกับการลงทุนของนักธุรกิจต่างชาติ จุดเริ่มต้นและเป้าหมายปลายทางในการสร้างความทันสมัยแบบจีน คือให้ประชากร 1,400 ล้านคน มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น ทั้งนี้หมายความว่าโลกจะได้ตลาดที่กว้างใหญ่ขึ้น และได้โอกาสความร่วมมืออย่างที่ไม่เคยมีมาก่อนและจะมีแรงอัดฉีดกระตุ้นความทันสมัยของโลกอีกด้วย จีนยินดีต้อนรับบุคคลในแวดวงพาณิชย์และอุตสาหกรรมทั่วโลกร่วมกระบวนการพัฒนาความทันสมัยแบบจีน และแบ่งปันโอกาสที่ยิ่งใหญ่จากการพัฒนาที่มีคุณภาพสูงของจีน