เมืองเหวินโจว มณฑลเจ้อเจียง ทางตะวันออกของจีน จะเป็นเจ้าภาพการประชุมแลกเปลี่ยนระดับนายกเทศมนตรี ประจำปี 2566 ว่าด้วยเรื่องอิทธิพลของเมืองตามเส้นทางสายไหมทางทะเล ในวันที่ 24-25 พฤศจิกายน เพื่อเฉลิมฉลองครบรอบ 10 ปีของโครงการเส้นทางสายไหม (BRI) ในปีนี้
เหวินโจว เป็นศูนย์กลางสำคัญตามเส้นทางสายไหมทางทะเล และเป็นหนึ่งใน 14 เมืองชายฝั่งทะเลแห่งแรก ๆ ของจีนที่เปิดให้นักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามา ท่าเรือโบราณซั่วเหมินในเมืองเหวินโจวได้รับเลือกให้เป็นสถานที่ 1 ใน 10 แห่งของการค้นพบทางโบราณคดีระดับชาติในปี 2565 แสดงให้เห็นถึงความเจริญรุ่งเรืองและความต่อเนื่องของเส้นทางการค้าทางทะเลในสมัยโบราณ ขณะเดียวกัน การค้าของเหวินโจวกับกลุ่มประเทศตามเส้นทางสายไหมได้เพิ่มขึ้นจาก 5.333 หมื่นล้านหยวนในปี 2556 เป็น 1.4705 แสนล้านหยวนในปี 2565
คณะกรรมการบริหารเมืองเหวินโจว ระบุว่า การประชุมนี้มุ่งอำนวยความสะดวกในการเรียนรู้ร่วมกันและความร่วมมือที่ได้ประโยชน์ทั้งสองฝ่ายในภูมิภาค โดยอาศัยการแลกเปลี่ยนและการมีปฏิสัมพันธ์ระหว่างเจ้าหน้าที่เทศบาลเมือง ผู้เชี่ยวชาญ และนักวิชาการจาก 13 ประเทศเส้นทางสายไหม ประกอบด้วย 1 การประชุมหลัก การประชุมคู่ขนาน 5 รายการ และกิจกรรมพิเศษมากมาย โดยมีการเผยแพร่ “ดัชนีเมืองโดดเด่นแห่งเส้นทางสายไหมทางทะเล” และรายชื่อ “เมืองเส้นทางสายไหมทางทะเลที่ทรงอิทธิพล 10 อันดับแรก ประจำปี 2566” รวมถึงอัตลักษณ์เมือง และกรณีศึกษาโดยเจ้าหน้าที่เทศบาลเมืองเส้นทางสายไหมทางทะเล
ดัชนีเมืองโดดเด่นแห่งเส้นทางสายไหมทางทะเล ซึ่งเป็นกิจกรรมหลักของการประชุมนี้ จะทำหน้าที่นำเสนอผลการประเมินตามหลักวิทยาศาสตร์ และแสดงความหลากหลายของเมืองต่าง ๆ ตามเส้นทางการค้าอย่างครอบคลุม ระบบดัชนีที่ว่านี้ประกอบด้วยตัวชี้วัด 20 รายการที่ประเมินการเชื่อมต่อระดับโลกของเมือง รวมถึงเครือข่ายการค้า มรดกทางวัฒนธรรม และการแลกเปลี่ยนระหว่างประเทศ
เจ้าหน้าที่เทศบาลจากเมืองตามเส้นทางสายไหมทางทะเลที่มีชื่อเสียง เช่น เหวินโจวของจีน มาเลของมัลดีฟส์ คาสเตลลามอนเตของอิตาลี และบาร์เซโลนาของสเปน เข้าร่วมการประชุมเพื่อนำเสนอเสน่ห์ในเมืองของตน และแบ่งปันแนวปฏิบัติอันเป็นเอกลักษณ์ของเมือง โดยจะมีการเผยแพร่ความคิดริเริ่มเพื่อส่งเสริมการพัฒนานวัตกรรมด้านความร่วมมือของเมืองตามเส้นทางสายไหมทางทะเลในระหว่างการประชุมนี้
“ในทศวรรษที่ผ่านมา จิตวิญญาณแห่งสันติภาพและความร่วมมือ ความเปิดกว้างและการไม่แบ่งแยก การเรียนรู้ร่วมกัน และผลประโยชน์ร่วมกันบนเส้นทางสายไหมถูกแปลเปลี่ยนให้เกิดขึ้นจริง โดยมีเรื่องราวเกี่ยวกับความสำเร็จที่มีร่วมกันมากขึ้นเรื่อย ๆ เนื่องมาจากแนวปฏิบัติของประเทศเส้นทางสายไหมทางทะเล” นายเฉิน หยิงซู (Chen Yingxu) รองนายกเทศมนตรีเมืองเหวินโจว กล่าว