เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 29 พ.ย.66 ที่ ศูนย์รับแจ้งความกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ถนนพหลโยธิน แขวงจอมพล เขตจตุจักร กทม.
จ่าคิงส์ แตงทิม สะพานใหม่ อดีต สห.ทอ. พา น.ส.สมสกุล (นามสมมุติ) ผู้เสียหาย เข้าพบ ร.ต.อ.ร.ต.อ.ภาณุพงศ์ สมสัก รอง สว.(สอบสวน) กก.4 บก.ป. ขอความช่วยเหลือตำรวจกองปราบ กรณีถูกนายสมชาย (นามสมมุติ)ลูกเขยคนเล็กข่มขู่จะฆ่ายกครอบครัว ผ่ารมาประมาณ 2 อาทิตย์แล้ว หลังลูกสาวตนได้หนีไปจากนายสมชาย ที่อยู่กินกันมานาน 3 ปีแต่ไม่ได้จดทะเบียนสมรส สาเหตุทนความรุนแรงนายสมชายสามีไม่ไหว เมื่อตามหาลูกสาวคนเล็กซึ่งเป็นเมีนนายสมชายไม่ได้ จึงหันมาคุกคามคนในครอบครัวที่อยู่อ.ตาคลี จ.นครสวรรค์แทน ไปแจ้งความตำรวจท้องที่บอกเหตุยังไม่เกิด แค่ลงประจำวันไว้เป็นหลักฐาน ก่อนที่ตนซึ่งเป็นแม่ยายต้องพาลูกสาวคนโตกับสามีและหลานชายหลบหนีการตามล่าของเจ้าลูกเขยโหดรายนี้มาอยู่ที่ กทม.ได้ 2 สัปดาห์แล้ว เดือดร้อนกันไปหมดทุกคนในครอบครัว เหลือแค่สามีซึ่งเป็นพ่อตา ใจกล้าอยู่เฝ้าบ้านแค่คนเดียว
นส.สมสกุล กล่าวต่อ ลูกสาวตนคบกับนายสมชาย มาประมาณ 3 ปี จนเมื่อวันที่ 15 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา ลูกสาวตนหนีออกมาจากนายสมชาย เพราะทนนิสัยนายสมชายไม่ไหวเนื่องจากระหว่างคบกันมีการทำร้ายร่างกายมาตลอด แต่ตัวนายสมชายไม่ยอมเลิก และตามรังควานทั้งครอบครัวตน ตนได้ข่าวว่านายสมชายจะมาอุ้มตน แต่ตนไหวตัวทันเลยย้ายหนีออกมาก่อน
จากที่นายสมชาย ตามคุกคามตนไม่แน่ใจว่ามีการพกอาวุธมาหรือไม่ แต่นายสมชายข่มขู่ว่าถ้าเจอจะยิงหัวลูกสาวตนให้เละ ตนเคยเตือนลูกสาวแล้วเกี่ยวกับการคบกับนายสมชาย แต่ตัวนายสมชายไม่ยอมเลิกรา และทางครอบครัวนายสมชายก็ไม่รับฟังแถมยังโชว์ปืนขู่ ในโซเชียล
ปัจจุบันตนและครอบครัวย้ายมาอยู่ที่กรุงเทพฯได้ประมาณ 2 อาทิตย์ แต่นายสมชาย ยังตามรังควาน ขณะนี้ตนไม่ทราบว่าลูกสาวตนไปซ่อนตัวอยู่ที่ไหน และไม่สามารถติดต่อได้ ตนเครียดมาก หวาดระแวง และกลัวครอบครัวโดนทำร้าย จนต้องหนี เพราะคิดว่าครอบครัวจะได้ปลอดภัย
เบื่องต้นพนักงานสอบสวน กก.4 บก.ป.ได้สอบปากคำผู้เสียหายก่อนเสนอผู้บังคับบัญชาพิจารณาสั่งการต่อไป
