การประชุมคณะผู้นำกรอบความร่วมมือแม่โขง-ล้านช้าง (MLC) เมื่อวันจันทร์ (25 ธ.ค.) ผู้นำ 6 ประเทศ แสดงคำมั่นร่วมสร้างประชาคมที่มีอนาคตร่วมกัน และการสร้างความทันสมัยภายในภูมิภาค พร้อมหนุน BRI ขับเคลื่อน 3 แผนริเริ่มระดับโลก ยึดแนวทางความเท่าเทียม การเปิดกว้างอย่างครอบคลุม ตลอดจนสำรวจความเป็นไปได้ในการจัดตั้งกลไกระเบียงนวัตกรรม
แถลงการณ์จากการประชุมผู้นำกรอบความร่วมมือแม่โขง-ล้านช้าง ครั้งที่ 4 ทางออนไลน์ระบุว่าคณะผู้นำจากกัมพูชา ลาว เมียนมา ไทย เวียดนาม และ จีน ยืนยันการเดินหน้าเพิ่มความไว้วางใจและความเคารพซึ่งกันและกัน การประสานยุทธศาสตร์การพัฒนาระดับชาติ การดำเนินความร่วมมือเชิงปฏิบัติอย่างลึกซึ้งยิ่งขึ้น และการรับมือกับความท้าทายร่วมกัน โดยคณะผู้นำเห็นพ้องจะทำงานร่วมกันเพื่อส่งเสริมสันติภาพ เสถียรภาพ และการพัฒนาที่ยั่งยืนในอนุภูมิภาคแม่โขง-ล้านช้าง รวมถึงเพิ่มความพยายามสร้างประชาคมที่มีอนาคตร่วมกันแห่งสันติภาพและความเจริญรุ่งเรือง ในกลุ่มประทศแม่โขง-ล้านช้างให้ดียิ่งขึ้น พร้อมสนับสนุนความร่วมมือที่มีคุณภาพสูงภายใต้แผนริเริ่มหนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง (BRI) ประกอบด้วย 1.แผนริเริ่มการพัฒนาระดับโลก (GDI) 2.แผนริเริ่มด้านความมั่นคงระดับโลก (GSI) และ 3.แผนริเริ่มอารยธรรมระดับโลก (GCI) ที่นำเสนอโดยจีน
กลุ่มประเทศสมาชิกกรอบความร่วมมือฯ ทั้ง 6 ประเทศ ยังเผยแพร่แผนปฏิบัติว่าด้วยกรอบความร่วมมือฯ ระยะ 5 ปี (2023-2027) ซึ่งมุ่งส่งเสริมการเป็นเพื่อนบ้านอันดี มิตรภาพ และความร่วมมือเชิงปฏิบัติในกลุ่มประเทศตามกรอบความร่วมมือฯ ขับเคลื่อนการพัฒนาทางเศรษฐกิจและสังคม ยกระดับชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนให้แข็งแกร่งและยืดหยุ่นยิ่งขึ้น ร่วมสร้างภูมิภาคล้านช้าง-แม่โขงที่สงบ ปลอดภัย มั่นคง เจริญรุ่งเรือง สวยงาม และรักใคร่กลมเกลียว รวมถึงสร้างความก้าวหน้าใหม่สู่ประชาคมที่มีอนาคตร่วมกันอันมุ่งสู่สันติภาพและความเจริญรุ่งเรืองที่ใกล้ชิดยิ่งขึ้น ในกลุ่มประเทศแม่โขง-ล้านช้าง
สำนักข่าวซินหัว รายงานว่า ทั้ง 6 ประเทศยังออกแผนริเริ่มร่วมว่าด้วยการพัฒนาระเบียงนวัตกรรมกรอบความร่วมมือฯ ซึ่งระบุการพัฒนากรอบการทำงานของความร่วมมือทางวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และนวัตกรรม หรือ เอสทีไอ (STI) เพิ่มเติมจะส่งเสริมการพัฒนาเศรษฐกิจและความก้าวหน้าของสังคม ตลอดจนสร้างประชาคมที่มีอนาคตร่วมกันแห่งสันติภาพและความเจริญรุ่งเรือง ในกลุ่มประเทศล้านช้าง-แม่โขง โดยได้เสนอการยกระดับบทบาทของความร่วมมือ STI ในด้านต่างๆ ของภูมิภาคล้านช้าง-แม่โขง เพื่อบรรเทาความยากจน สนับสนุนการพัฒนาอุตสาหกรรม สาธารณสุข และการเชื่อมต่อด้านดิจิทัล ยกระดับความร่วมมือทางเทคโนโลยีอันเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ส่งเสริมความร่วมมือในด้านนวัตกรรม การเป็นผู้ประกอบการ และระบบนิเวศสตาร์ทอัป ตลอดจนสำรวจความเป็นไปได้ในการจัดตั้งกลไกการประชุมสำหรับระเบียงนวัตกรรมกรอบความร่วมมือฯ
คณะผู้นำยังแสดงความพร้อมดำเนินความร่วมมือด้านต่างๆ เพิ่มเติมอย่างลึกซึ้งยิ่งขึ้น โดยจะร่วมมือกันส่งเสริมการเติบโตทางเศรษฐกิจที่ยั่งยืน และเร่งรัดการดำเนินการตามวาระการพัฒนาที่ยั่งยืน ปี 2030 ขององค์การสหประชาชาติ (UN) ขณะเดียวกันยังยืนยันความตั้งใจจะส่งเสริมกรอบความร่วมมือฯ ภายใต้หลักการปรึกษาหารือรอบด้าน มีส่วนร่วมส่งเสริมและผลประโยชน์ร่วมกัน เคารพและปฏิบัติตามกฎบัตรสหประชาชาติและกฎหมายระหว่างประเทศ รวมถึงกฎบัตรอาเซียน โดยยึดถือแนวทางความเท่าเทียม การพัฒนา การปฏิบัติจริงและการมีประสิทธิผลที่เปิดกว้างและครอบคลุม โดยมีประชาชนเป็นศูนย์กลาง กระตุ้นการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ ความเจริญรุ่งเรืองของภูมิภาค และพลังความมีชีวิตชีวา
ขอบคุณภาพประกอบ : ซินหัว
