พันตำรวจเอกชวินโรจน์ ภีมรัชตธำรงค์ ผู้กำกับการ 2 กองบังคับการป้องกันและปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค กล่าวว่า ปฎิบัติการในครั้งนี้ สืบเนื่องจากตำรวจได้รับร้องเรียนจากประชาชนว่า ได้รับความเสียหายจากการใช้น้ำมันเครื่องปลอม จึงได้ทำการสืบสวนและพบว่ามีการเสนอขายน้ำมันหล่อลื่นดังกล่าวบนช่องทางออนไลน์ เจ้าหน้าที่จึงทำการสั่งซื้อเพื่อนำมาพิสูจน์ความผิด โดยหลังตรวจสอบคุณภาพ พบว่าเป็นน้ำมันหล่อลื่นปลอมที่ไม่มีคุณภาพ จึงรวบรวมพยานหลักฐานและเข้าตรวจค้นเป้าหมาย ซึ่งเป็นทั้งโรงงานผลิตและร้านค้าปลีก รวม 6 จุด ในพื้นที่ภาคกลาง ได้แก่ จังหวัดสระบุรี / จังหวัดนครปฐม / จังหวัดนครสวรรค์ / และจังหวัดนนทบุรร สามารถตรวจยึดน้ำมันหล่อลื่นปลอมของกลางได้กว่า 75,000 ลิตร มูลค่ากว่า 5 ล้านบาท และได้ประสานงานกับบริษัท ปตท. ให้ร่วมตรวจสอบ โดยความผิดการปลอมน้ำมันหล่อลื่นมีโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี ปรับไม่เกิน 3 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
นายสมเกียรติ ศิริไพบูลย์ทรัพย์ ตัวแทนจากบริษัท ปตท. กล่าวว่า จุดสังเกตน้ำมันหล่อลื่นปลอมเบื้องต้น อย่างแรกเลยคือราคาที่เสนอขาย ต้องดูว่าเหมาะสมหรือไม่ หากราคาต่ำกว่าราคาตลาดมากผิดปกติ ก็อาจจะเป็นน้ำมันหล่อลื่นปลอมได้ นอกจากนี้ ยังสามารถสังเกตจากฉลากหรือตัวบรรจุภัณฑ์ว่ามีความเรียบร้อยหรือไม่ และยังสามารถตรวจสอบได้จากหมายเลขการผลิตที่ระบุบนบรรจุภัณฑ์
สำหรับผลกระทบหากนำน้ำมันหล่อลื่นปลอมไปใช้ ก็จะทำให้เกิดความผิดปกติต่อเครื่องยนต์ เช่น เครื่องยนต์มีเสียงดัง กำลังเครื่องยนต์ลดลง โดยน้ำมันหล่อลื่นปลอมส่วนใหญ่ผลิตมาจากน้ำมันเก่าใช้แล้วที่ไม่ได้มาตรฐาน ดังนั้น แนะนำว่าให้ซื้อน้ำมันหล่อลื่นจากแหล่งที่เชื่อถือได้ เช่น สถานีบริการน้ำมัน หรือตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการ
และนอกจากน้ำมันหล่อลื่นแล้ว ยังพบว่ามีการปลอมถังก๊าซหุงต้มด้วย โดยถังก๊าซหุงต้มของ ปตท. นั้น ได้รับ มอก. ผลิตโดยโรงงานได้มาตรฐาน และต้องนำไปตรวจสอบทุก 5 ปี มีการตีสัญลักษณ์วันหมดอายุไว้ด้านหลังถัง แต่หากเป็นถังก๊าซหุงต้มปลอม ลายสกรีนบนถังจะไม่ชัด ไม่มีการตีน้ำหนักถังไว้ และตัววาล์วก็จะค่อนข้างเก่าเพราะไม่ได้มีการตรวจสอบตามเวลาที่กำหนด และไม่มีการปิดจุกทำให้ง่ายต่อการรั่วไหล