พลตำรวจตรีวิทยา ศรีประเสริฐภาพ ผู้บังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค (ปคบ.) เภสัชกรวีระชัย นลวชัย รองเลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา ร่วมกันแถลงผลการปฏิบัติงานกรณีทลายเครือข่ายผู้ผลิตและผู้จัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์เสริมอาหารลดความอ้วนต้องสงสัยว่าประสพชัยบลูทามีนตรวจค้นทั้งหมด 4 จุด จับกุมผู้ต้องหาได้ 3 รายตรวจยึดของกลาง 36 รายมูลค่ากว่า 7 ล้านบาท
สำหรับการจับกุมครั้งนี้สืบเนื่องจากประชาชนร้องเรียนไปยังสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา จึงทำให้ตำรวจกองกำกับการ 4 กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค ร่วมกันตรวจสอบผลิตภัณฑ์เสริมอาหารสำหรับลดน้ำหนัก บนแพลตฟอร์มออนไลน์ ก่อนเปิดปฏิบัติการกวาดล้างเครือข่ายผู้ผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์เสริมอาหารลดน้ำหนักผสมไซบูทรามีน จำนวน 2 ยี่ห้อ คือยี่ห้อเอสเอส (SS) และยี่ห้อเรฟฟิตมี ในพื้นที่จังหวัดพิษณุโลก จังหวัดนครนายก จังหวัดนนทบุรี และจังหวัดสงขลา รวมทั้งหมด 4 จุด
การกวาดล้างผลิตภัณฑ์เสริมอาหารลดความอ้วนครั้งนี้สามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ทั้งหมด 3 ราย คือ 1 นางเกวลินอายุ 35 ปี , นายกัลปพฤกษ์อายุ 37 ปี และนายเสาร์อายุ 71 ปี ทั้งหมดถูกดำเนินคดีฐานจำหน่ายซึ่งวัตถุออกฤทธิ์ประเภท 1 ไซบูทรามีน โดยไม่ได้รับอนุญาตอันเป็นการกระทำเพื่อการค้าตัวยึดของกลางเป็นผลิตภัณฑ์เสริมอาหารบรรจุกล่องต้องสงสัยว่าผสมไซบูทรามีนจำนวน 751 กล่อง และผลิตภัณฑ์เสริมอาหารลดความอ้วนยี่ห้อเรฟฟิตมี ต้องสงสัยว่าผสมไซบูทรามีนและมีการแสดงฉลากไม่ถูกต้องระบุส่วนประกอบไม่ตรงกับที่ขออนุญาตผลิตจำนวน 10,305 กล่อง และแคปซูลบรรจุแผง 2,940 แผง รวม 29,400 แคปซูล และผสมสารตั้งต้นที่เป็นวัตถุดิบในการผลิตจำนวน 36 กิโลกรัม และสบู่และเครื่องสำอางที่ฉลากไม่ถูกต้องจำนวน 23,673 ชิ้น และแคปซูลเปล่า ฉลากและบรรจุภัณฑ์กว่า 3,900 ชิ้น รวมของกลาง 36 รายการ มูลค่ากว่า 7 ล้านบาท ซึ่งผลิตภัณฑ์ทั้งหมดจะนำส่งตรวจที่กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์กระทรวงสาธารณสุขเพื่อยืนยันสารต้องห้ามไซบูทรามีน เพื่อประกอบการดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
เภสัชกรวีระชัย นลวชัย รองเลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา เปิดเผยว่า เป็นเวลากว่า 13 ปีที่ อย.ไม่ให้ใช้สารดังกล่าว แต่ปัจจุบันยังมีการลักลอบนำเข้าและนำมาผลิตเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวกับการลดความอ้วนหากใช้โดยไม่ถูกต้องโดยเฉพาะขนาดของการรับประทานจะเกิดผลต่อสุขภาพ
สารไซบูทรามีนเป็นผลิตภัณฑ์ซึ่งมีวัตถุอันตรายออกฤทธิ์ประเภทที่ 1 ถึงเป็นความผิดทางกฎหมาย ผู้บริโภคที่รับประทานไปแล้วจะทำให้ปวดหัวใจสั่น หัวใจเต้นเร็ว หายใจลำบาก เสี่ยงต่อโรคหัวใจขาดเลือด เป็นเรื่องเสี่ยงต่อโรคหลอดเลือดสมอง ในกรณีผู้ที่มีโรคประจำตัวความดันหรือโรคหัวใจอาจเกิดอันตรายถึงแก่ชีวิตได้
เบื้องต้นทาง อย. ยืนยันว่า ยาลดความอ้วนไม่มีอยู่จริง หากพบจะมีการตรวจสอบเริ่มตั้งแต่การอวดอ้างสรรพคุณและนำไปสู่การจับกุม พร้อมกับ ฝากให้ประชาชนตั้งข้อสังเกตว่าผลิตภัณฑ์ใดที่โฆษณาว่าลดน้ำหนักลดความอ้วน ขอประชาชนโปรดอย่าซื้อเพราะอาจต้องสงสัยว่าอาจจะมีการปลอมปนสารอันตราย
