“…ซึ่งใช้งบประมาณแผ่นดินไปกว่า 1,400 ล้านบาท เป็นเหตุทำให้ผู้บริหารโครงการฯ ร่ำรวยเพิ่มมากขึ้นอย่างผิดปกติหรือไม่ เพราะผู้บริหารบางรายสามารถปลดหนี้สินสหกรณ์ ซื้อบ้านใหม่ ซื้อรถหรู ส่งลูกไปเรียนต่างประเทศได้ เมื่อเจาะรายละเอียดเข้าไปดูไส้ในของการบริหารจัดการของมหาวิทยาลัย พบความผิดปกติอย่างมากมาย ทั้งการก้าวกระโดดของการขึ้นสู่ตำแหน่งบริหาร การใช้งบประมาณ การจัดซื้อจัดจ้างต่าง ๆ ที่อาจไม่เป็นไปตามระเบียบ..”
ศรีสุวรรณจ่อร้อง ป.ป.ช.สอบผู้บริหาร ม.ราชภัฎอุดรฯ ทำโครงการมหาลัยสู่ตำบล 1,400 ล.มีกลิ่น
นายศรีสุวรรณ จรรยา ผู้นำองค์กรรักชาติ รักแผ่นดิน เปิดเผยว่า มีความผิดปกติในการจัดทำโครงการมหาลัยสู่ตำบล (U2T) และโครงการพัฒนาเศรษฐกิจแบบองค์รวม (BCG Model) ของ ม.ราชภัฎอุดรธานี ซึ่งใช้งบประมาณแผ่นดินไปกว่า 1,400 ล้านบาท เป็นเหตุทำให้ผู้บริหารโครงการฯ ร่ำรวยเพิ่มมากขึ้นอย่างผิดปกติหรือไม่ เพราะผู้บริหารบางรายสามารถปลดหนี้สินสหกรณ์ ซื้อบ้านใหม่ ซื้อรถหรู ส่งลูกไปเรียนต่างประเทศได้
กรณีดังกล่าว เมื่อเจาะรายละเอียดเข้าไปดูใส้ในของการบริหารจัดการของมหาวิทยาลัย พบความผิดปกติอย่างมากมาย ทั้งการก้าวกระโดดของการขึ้นสู่ตำแหน่งบริหาร การใช้งบประมาณ การจัดซื้อจัดจ้างต่าง ๆ ที่อาจไม่เป็นไปตามระเบียบ โดยอาจมีการเอื้อประโยชน์กันตั้งแต่สภามหาวิทยาลัยไปจนถึงผู้บริหารของมหาวิทยาลัย เพื่อให้ได้มาซึ่งอำนาจในการใช้จ่ายเงินแผ่นดิน และจัดใช้จ่ายเงินในการจัดทำโครงการมหาลัยสู่ตำบล (U2T) และโครงการพัฒนาเศรษฐกิจแบบองค์รวม (BCG Model) โดยยังไม่พบว่ามีการหักเงินเพื่อเป็นรายได้เข้ามหาวิทยาลัยเลยแม้แต่บาทเดียว
พฤติการณ์เยี่ยงนี้ เป็นความผิดปกติอย่างมาก องค์กรรักชาติ รักแผ่นดิน จึงจะนำความไปร้องเรียนต่อ ป.ป.ช.ในวันจันทร์ที่ 15 ม.ค.67 นี้ เวลา 10.00 น. ณ สำนักงาน ป.ป.ช.นนทบุรี เพื่อให้ ป.ป.ช.ดำเนินการตรวจสอบและหากพบเป็นความผิดจะได้ลงโทษตามครรลองของกฎหมายต่อไป นายศรีสุวรรณ กล่าว
ต่อมาวันนี้ (15 ม.ค.97) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่สำนักงานใหญ่ ป.ป.ช.นนทบุรี นายศรีสุวรรณ จรรยา ผู้นำองค์กรรักชาติ รักแผ่นดิน ได้เดินทางมายื่นคำร้องต่อ ป.ป.ช. เพื่อขอให้ไต่สวนและวินิจฉัยว่าสภามหาวิทยาลัยและผู้บริหารมหาวิทยาลัยราชภัฏอุดรธานีกระทำความผิดฐานทุจริตต่อหน้าที่ หรือกระทำความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการ ตามกฎหมายของ ป.ป.ช.หรือไม่ กรณีแต่งตั้งอดีตข้าราชการซึ่งเกษียณอายุราชการไปแล้ว ให้กลับมาเป็นผู้บริหารของมหาลัย และใช้อำนาจในการไปกำหนดภารกิจที่อาจมิชอบด้วยกฎหมายหรือไม่
ทั้งนี้ เนื่องจากมหาวิทยาลัยราชภัฏอุดรธานี ได้ว่าจ้างอดีตข้าราชการเกษียณให้มาทำหน้าที่ในการบริหารแต่กลับพบว่า บุคคลดังกล่าวได้ทำหน้าที่การสอนและเป็นอาจารย์ที่ปรึกษาด้วยในเวลาเดียวกัน ซึ่งหน้าที่การสอนและการเป็นอาจารย์ที่ปรึกษานั้นจะมีค่าตอบแทนเป็นตัวเงินที่ค่อนข้างสูงด้วย นอกจากนั้นยังพบว่า ผู้บริหารคนดังกล่าวยังปรากฏชื่อเป็นผู้ดำเนินกิจกรรมเพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจสู่ชุมชนที่มีพิรุธ หรือ BCG 18 โครงการ (เฟส 1=14, เฟส 2=4 โครงการ) จากงบประมาณหลายพันล้านที่มหาลัยได้รับมา ซึ่งอาจจะต้องสืบในเชิงลึกมาเปิดเผยต่อไปด้วย
นอกจากนั้น ผู้บริหารคนดังกล่าวยังได้รับการแต่งตั้งให้เป็นผู้อำนวยการออกข้อสอบและการผลิตข้อสอบในการจัดสอบแข่งขันเพื่อบรรจุและแต่งตั้งบุคคลเข้ารับราชการเป็นข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ปี พ.ศ.2566 ของเขตพื้นที่ 5 โดยคณะผู้ออกข้อสอบและการผลิตข้อสอบจะได้รับค่าจ้างจำนวน 3,468,122 บาท แต่ปรากฎว่ามหาวิทยาลัยไม่ได้รับเงินในการออกข้อสอบครั้งนี้เลยแม้แต่บาทเดียว แต่คณะผู้ออกข้อสอบกลับได้ใช้ทรัพยากรของมหาวิทยาลัย เช่น ห้องประชุม อาคาร สถานที่ ค่าน้ำ ไฟฟ้า ยานพาหนะ อื่น ๆ ในการรับจ้างออกข้อสอบครั้งนี้
อีกทั้งการออกข้อสอบครั้งนี้ได้สร้างปัญหาอย่างใหญ่หลวงให้กลับมหาลัยและผู้เข้าสอบแข่งขันเขตพื้นที่การศึกษาที่ 5 ต้องประกาศยุติการสอบและสั่งให้มีการสอบใหม่แทน จึงทำให้ผู้เข้าสอบไม่พอใจและรวมตัวประท้วงมหาลัยในฐานะผู้รับผิดชอบในการออกข้อสอบ ต่อมาผู้บริหารมหาลัยได้ประกาศให้ทำการชดเชยผู้เข้าสอบแข่งขัน จำนวนเงิน 394,000 บาท โดยมีข้อครหาออกมาว่าเอาระเบียบไหนมาจ่าย เพราะมหาลัยไม่มีระเบียบการจ่ายเงินชดเชยในกรณีเช่นนี้ได้
อย่างไรก็ตามยังมีปัญหาเกี่ยวกับการคัดเลือกผู้ประเมินผลงานทางวิชาการ (Readers) อีกด้วย หากต้องการให้ใครผ่านและได้รับตำแหน่งทางวิชาการ เช่น ผศ. รศ. หรือ ศ. ก็คัดเลือกส่งผลงานไปยังผู้ประเมินที่ให้ผ่านง่าย แต่ถ้าไม่ต้องการให้ใครผ่านก็เลือกส่งไปยังผู้ประเมินที่ให้ผ่านยาก ซึ่งอาจมีการวิ่งเต้นกันด้วยวิธีการที่มิชอบได้ และยังมีข้อพิรุธอีกมากมายที่เกินกว่าจะสาธยายได้
ด้วยเหตุดังกล่าว องค์กรรักชาติ รักแผ่นดิน จึงต้องนำความมาร้องต่อ ป.ป.ช.ให้ไต่สวนและดำเนินการเอาผิดผู้บริหาร ม.ราชภัฏอุดรธานีทั้งหมดที่เกี่ยวข้อง เพื่อมิให้เป็นเยี่ยงอย่างของการเอาสถาบันอุดมศึกษาของชาติมาทุจริตต่อไป นายศรีสุวรรณกล่าวในที่สุด
#สืบจากข่าว รายงาน
