จีนวางแผนนำพาบริษัทการค้าระหว่างประเทศจำนวนมาก เดินทางเยือนนานาประเทศในปี 2024 เพื่อช่วยบริษัทเหล่านี้บรรลุข้อตกลงและขยายตลาด โดยจะให้ความสำคัญกับหุ้นส่วนทางการค้าและเศรษฐกิจที่สำคัญ เช่น ยุโรป อเมริกาเหนือ ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ อาเซียน และลาตินอเมริกา
สำนักข่าวซินหัว รายงาน เมื่อวันจันทร์ (15 ม.ค.) สภาส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศของจีน เปิดเผยแผนการนำพาผู้ประกอบการเดินทางเยือนนานาประเทศตลอดปีนี้มากกว่า 1,000 กลุ่ม เพื่อเข้าร่วมงานมหกรรมหรือนิทรรศการ ดำเนินการวิจัยตลาด และเจรจาหารือทางธุรกิจ
หลี่หงปิน ประธานสภาฯ ซึ่งร่วมประชุมระดับชาติด้านการส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กล่าวว่าสภาฯ จะเพิ่มความพยายามช่วยเหลือบริษัทจีนในการขยับขยายตลาดในต่างประเทศตลอดปีนี้
อนึ่ง ข้อมูลทางการระบุว่ามูลค่าการค้าระหว่างประเทศของจีนในปี 2023 รวมอยู่ที่ 41.76 ล้านล้านหยวน (ราว 206.21 ล้านล้านบาท) ซึ่งเพิ่มขึ้นร้อยละ 0.2 เมื่อเทียบปีต่อปีในแง่สกุลเงินหยวน
ตลอดหลายปีที่ผ่านมา จีนเรียกร้องความพยายามร่วมกันสร้างประชาคมที่มีการพัฒนาร่วมกัน และรับรองว่าไม่มีประเทศใดถูกทิ้งไว้ข้างหลังในกระบวนการสร้างความทันสมัยระดับโลก เรียกร้องสมาชิกทั่วโลกคุ้มครองการค้าและการลงทุนที่เสรีและเปิดกว้าง ยึดมั่นการพัฒนาสร้างสรรค์สิ่งใหม่ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม สร้างผลประโยชน์ร่วมกันในการส่งเสริมการพัฒนาระดับภูมิภาค สนับสนุนและเสริมสร้างระบบการค้าพหุภาคีอันมีองค์กรการค้าโลก (WTO) เป็นศูนย์กลาง เพื่อรักษาเสถียรภาพและการหมุนเวียนอย่างราบรื่นของห่วงโซ่อุตสาหกรรมและห่วงโซ่อุปทานทั่วโลก
ผู้นำจีนเชื่อว่า สันติภาพและการพัฒนายังคงเป็นทิศทางอันสลักสำคัญ ไม่ว่าภูมิทัศน์โลกจะแปรเปลี่ยนไปเช่นไร มีเพียงการร่วมมือกันเท่านั้นที่จะส่งมอบผลประโยชน์ซึ่งกันและกัน จีนพร้อมโอบอุ้มโลกและแสดงความรับผิดชอบในฐานะประเทศขนาดใหญ่ ขณะเดียวกันก็แสวงหาการพัฒนาของตนเอง ด้วยการยกระดับระบบอุตสาหกรรมอันมีความทันสมัยของประเทศเพิ่มเติม สร้างอุตสาหกรรมขั้นสูง อัจฉริยะ และเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมเกิดขึ้นใหม่มากมาย
โครงการ “หนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง” ที่ถูกสร้างขึ้นเพื่อเชื่อมโยงเศรษฐกิจจีนกับทั่วโลก หลอมรวมจิตวิญญาณของประชาชนทั่วโลก กลายเป็นผลิตภัณฑ์สาธารณะที่ได้รับการตอบรับด้วยความยินดีสูงสุดในระดับโลก สร้างแพลตฟอร์มความร่วมมือระดับสากลที่ใหญ่ที่สุด นำมาซึ่งการพัฒนาอย่างมีประสิทธิภาพ พร้อมด้วยประโยชน์อย่างแท้จริงในการปรับปรุงคุณภาพชีวิตของประชาชน เป็นผลสำเร็จที่ประจักษ์ชัดของประเทศต่างๆที่เชื่อมต่อกับเส้นทางสายไหม ด้วยการสร้างความร่วมมือแบบคว้าชัยชนะร่วมกัน
