วันพฤหัสบดี, พฤศจิกายน 21, 2024
หน้าแรกต่างประเทศจีนพาณิชย์จีนหนุนสินค้าเกษตรไทย “หนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง” เพิ่มโอกาสส่งออก

Related Posts

พาณิชย์จีนหนุนสินค้าเกษตรไทย “หนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง” เพิ่มโอกาสส่งออก

รมช.พาณิชย์จีน ยืนยันความสัมพันธ์แน่นแฟ้นไทย-จีน คือหุ้นส่วนทางยุทธศาตร์รอบด้าน โดยเฉพาะด้านการเกษตร พร้อมสนับสนุนต่อเนื่อง นอกจากทุเรียนแล้ว จีนยังชื่นชอบผลไม้ไทยอีกหลายชนิด ขณะที่แผนริเริ่มหนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง หนุนการส่งออกสินค้าเกษตรของไทยสู่จีนทะยานสูงลิ่ว

ศาสตราจารย์ นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ ผู้แทนการค้าไทย พบหารือกับ Mr.Li Fei รัฐมนตรีช่วยว่าการพาณิชย์จีน ณ กรุงปักกิ่ง สาธารณรัฐประชาชนจีน ภายหลังการหารือ ผู้แทนการค้าเปิดเผยว่า รัฐบาลไทยให้ความสำคัญกับจีน โดยนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ต้องการจะให้ไทย-จีน ใช้กลไกความร่วมมือที่มีอยู่ระหว่างกันในการพัฒนาความร่วมมือในทุกมิติ ทั้งนี้ ภายหลังที่ได้รับตำแหน่งผู้แทนการค้า เลือกที่จะเยือนประเทศจีนเป็นประเทศเเรก เพื่อเเสดงให้เห็นถึงความสัมพันธ์ที่เเน่นเเฟ้นระหว่างกัน

ผู้แทนการค้า กล่าวว่า รัฐมนตรีช่วยว่าการพาณิชย์จีน ยืนยันถึงความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นของไทย-จีน ที่ เป็นหุ้นส่วนทางยุทธศาตร์รอบด้าน โดยเฉพาะด้านการเกษตร โดยหวังจะได้ร่วมมือกับไทยในการพัฒนาพลังงานสะอาด พร้อมทั้งยืนยันว่าจีนจะสนับสนุนสินค้าการเกษตรของไทยอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะผลไม้ของไทย นอกจากทุเรียนแล้ว จีนยังชื่นชอบผลไม้ไทยอีกหลายชนิด ที่เป็นที่นิยมในจีน พร้อมกันนี้ รัฐมนตรีช่วยว่าการพาณิชย์จีน ได้เชิญชวนให้ภาคเอกชนไทยเข้าร่วมมหกรรมสินค้านำเข้าจีนหรือ CIIE เพื่อรับทราบข้อมูลความต้องการสินค้าของจีน

โดยทั้งสองฝ่ายได้หารือในประเด็นด้านการพัฒนาด้านเศรษฐกิจ การค้า การลงทุน เช่น รถไฟความเร็วสูง พลังงานสะอาด เเละยานยนต์ไฟฟ้า (EV) ซึ่งทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องที่จะพัฒนาเศรษฐกิจด้านการเกษตรให้มีคุณภาพเเละความต้องการที่มากขึ้น สินค้าเกษตรที่สำคัญในการส่งออกของไทยมายังจีนคือ ผลไม้สด เช่น ทุเรียน และสับปะรด เเละหวังให้ไทยเเละจีนร่วมมือกันด้านความมั่นคงทางอาหาร (food security) เพื่อมาตรฐานสินค้าเกษตร

“การนำเข้าเเละส่งออกสินค้าเกษตรของไทยเเละจีนมีอัตราที่เพิ่มสูงขึ้นตลอดระยะเวลา 4 เดือนที่ผ่านมา ซึ่งไทยต้องการจะขยายตลาดไม้ไผ่จากไทยไปยังจีน จึงขอให้จีนช่วยสนับสนุน พร้อมกับฝากให้รัฐบาลจีนสนับสนุนยางพาราของไทย โดยหวังให้ประเทศจีน ซึ่งเป็นพี่ใหญ่เพิ่มการนำเข้าสินค้าเกษตรจากไทยมากขึ้นต่อไป” ผู้แทนการค้า ระบุ

ก่อนหน้านี้ เมื่อวันจันทร์ (15 ม.ค.) สำนักข่าวซินหัวารายงานภาพรวมการซื้อขายสินค้าเกษตรไทย ระหว่างเดือนมกราคม-พฤศจิกายน 2023 ที่เผยแพร่โดยหอการค้าจีนเพื่อการนำเข้าและส่งออกอาหาร ผลิตภัณฑ์พื้นเมือง และผลิตผลพลอยได้จากสัตว์ (CFNA) ระบุโดยอ้างอิงข้อมูลจากกรมศุลกากรไทย ว่าจีนเป็นตลาดส่งออกสินค้าเกษตรรายใหญ่อันดับหนึ่งของไทยในช่วง 11 เดือนแรกของปี 2023 มียอดการส่งออกสะสมสูงถึง 1.11 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 3.96 แสนล้านบาท) เพิ่มขึ้นร้อยละ 18.3 เมื่อเทียบปีต่อปี คิดเป็นร้อยละ 26.5 ของยอดส่งออกสินค้าเกษตรทั้งหมดของไทย โดยทุเรียนสดของไทยถูกส่งออกขายในต่างประเทศเป็นมูลค่าเกือบ 4 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 1.42 แสนล้านบาท) ซึ่ง 3.9 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 1.38 แสนล้านบาท) ในจำนวนนี้ล้วนเป็นการนำเข้าจากจีนแผ่นดินใหญ่ ข้อมูลข้างต้นนี้กระตุ้นความสนใจของผู้ประกอบการและประชาชนชาวจีนและชาวไทย ทั้งยังเพิ่มความเชื่อมั่นในความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการค้าระหว่างสองประเทศ

ซินหัว ระบุว่า ไม่กี่ปีมานี้ สินค้าเกษตรของไทยกลายเป็น “ดาวเด่น” ในตลาดจีน เพราะความสดใหม่ รสชาติดี และมีคุณภาพสูง เนื่องจากได้รับประโยชน์จากแผนริเริ่มหนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง (BRI) การเปิดบริการทางรถไฟจีน-ลาว ระเบียงการค้าทางบก-ทางทะเลระหว่างประเทศใหม่ (New International Land-Sea Trade Corridor) และการดำเนินตามความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจระดับภูมิภาค (RCEP) อย่างรอบด้าน ปัจจุบัน การส่งออกสินค้าเกษตรของไทยสู่จีนจึงได้รับการ “เหยียบคันเร่ง” ระยะทางหลายพันกิโลเมตรถูกย่นย่อด้วยช่องทางการขนส่งที่ราบรื่น ชนิดที่ว่าทุเรียนจากสวนในจังหวัดจันทบุรี สามารถถูกวางจำหน่ายในซูเปอร์มาร์เก็ตจีนได้ภายในเวลาเพียงไม่กี่วัน ยอดจำหน่ายทุเรียนที่โตเร็วในปี 2023 ช่วยให้ผู้ค้าวางแผนการจัดจำหน่ายในปี 2024 ได้อย่างเต็มกำลัง ไล่ผิงเซิง ประธานกลุ่มผลิตภัณฑ์เกษตรและอาหารในเครือเจริญโภคภัณฑ์ในกว่างซี กล่าวว่าในปี 2023 ทุเรียนไทยของบริษัทฯ ถูกส่งมาจีนราว 1,000 ตู้คอนเทนเนอร์ โดยจัดจำหน่ายในเขตปกครองตนเองกว่างซีจ้วงทางตอนใต้ของจีน 40 ตัน เพิ่มขึ้นกว่า 20.9 ตันจากปีก่อน และมียอดจำหน่าย 2.21 ล้านหยวน (ราว 11.18 ล้านบาท) ไล่เสริมว่าบริษัทฯ วางแผนนำเข้าทุเรียนไทย 3,000 ตู้ในปี 2024 โดยจะจัดจำหน่ายในกว่างซี 324 ตัน ซึ่งจะวางขายในซูเปอร์มาร์เก็ต ร้านสะดวกซื้อ จำนวน 600 แห่ง

ขณะที่รายงานอีกฉบับระบุว่ากว่างตง (กวางตุ้ง) เป็นมณฑลของจีนที่นำเข้าสินค้าเกษตรไทยมากเป็นอันดับหนึ่ง ด้วยยอดนำเข้าช่วง 11 เดือนแรกของปี 2023 ที่ 3.44 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 1.22 แสนล้านบาท) เพิ่มขึ้นร้อยละ 1.6 จากช่วงเดียวกันของปีก่อน อย่างไรก็ดี ในบรรดามณฑลและภูมิภาคผู้นำเข้า 10 อันดับแรก กว่างซีนำเข้าสินค้าเกษตรไทยเพิ่มมากที่สุด โดยเพิ่มขึ้นร้อยละ 39.1 เมื่อเทียบปีต่อปี คิดเป็นมูลค่า 923 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 3.28 หมื่นล้านบาท)

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่

spot_img

Latest Posts