โดยสำนักข่าวซีเอ็นบีซีรายงานว่า คณะผู้แทนดังกล่าวนำโดยนายเจย์ แชมโบห์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงการคลังฝ่ายกิจการระหว่างประเทศ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของคณะทำงานด้านเศรษฐกิจระหว่างสหรัฐและจีน โดยมีกำหนดหารือกันในวันที่ 5-6 ก.พ. เกี่ยวกับมาตรการอุดหนุนของรัฐบาลจีน ซึ่งสหรัฐมองว่านำไปสู่การผลิตสินค้ามากจนเกินไป จนอาจล้นตลาด
อุตสาหกรรมที่ได้รับผลกระทบจากกรณีดังกล่าว รวมถึงธุรกิจยานพาหนะไฟฟ้า ซึ่งเป็นภาคส่วนที่คณะทำงานของนายไบเดนกำลังพยายามกระตุ้นการพัฒนาในสหรัฐ ด้วยมาตรการอุดหนุนทางภาษีของรัฐบาล
คณะตัวแทนดังกล่าวจะหารือครอบคลุมหัวข้อต่าง ๆ ตั้งแต่แนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐและจีน การคัดกรองการลงทุนเพื่อความมั่นคงของชาติ และโอกาสในความร่วมมือด้านการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ รวมไปถึงการช่วยเหลือในการบรรเทาภาระหนี้ของประเทศยากจน
รายงานข่าวยังระบุว่า การหารือที่มุ่งเน้นไปที่ประเด็นการอุดหนุนภาคอุตสาหกรรมของจีนมีขึ้นในขณะที่คณะทำงานของนายไบเดนกำลังดำเนินการทบทวนอย่างต่อเนื่องเกี่ยวกับอัตราภาษีศุลกากรของสหรัฐที่บังคับใช้ในสมัยอดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ซึ่งกำหนดเรียกเก็บจากสินค้าที่นำเข้าจากจีน รวมมูลค่าหลายแสนล้านดอลลาร์สหรัฐ
ทั้งนี้ การหารือดังกล่าวนับเป็นการพบปะครั้งที่ 3 นับตั้งแต่ที่นางเจเน็ต เยลเลน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังสหรัฐ และนายเหอ ลี่เฟิง รองนายกรัฐมนตรีจีน ได้ร่วมจัดตั้งคณะทำงานด้านเศรษฐกิจระหว่างสหรัฐและจีนพร้อมกับคณะทำงานด้านการเงินระหว่างสหรัฐและจีน เมื่อเดือนก.ย. 2566
ก่อนหน้านี้ในช่วงปลายเดือนม.ค. คณะทำงานด้านการเงินระหว่างสหรัฐและจีนได้มีการจัดประชุมที่กรุงปักกิ่ง ซึ่งนางเยลเลนกล่าวว่า เจ้าหน้าที่กระทรวงการคลังสหรัฐได้รับการรับรองว่าธนาคารจีนสามารถดำเนินงานได้เป็นอย่างดี แม้มีความวุ่นวายในตลาดอสังหาริมทรัพย์และตลาดการเงินของจีนก็ตาม