พลตำรวจตรี วิทยา ศรีประเสริฐภาพ ผู้บังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค หรือบก.ปคบ. พร้อมด้วยตัวแทนสำนักงานกลางแห่งชาติตํารวจสากลกรุงเทพฯ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องด้านสาธารณสุขจากหลายจังหวัด แถลงผลการเข้าตรวจค้นจับกุมขบวนการลักลอบจำหน่ายฟิลเลอร์เถื่อนข้ามชาติและหมอปลอมที่ให้บริการเสริมความงามให้แก่ประชาชน
โดยการตรวจค้นส่วนแรกเป็นการจับกุมเครือข่ายลักลอบจำหน่ายผลิตภัณฑ์สุขภาพผิดกฎหมายข้ามชาติในพื้นที่ 4 จุดในจังหวัดนนทบุรี ซึ่งมีทั้งบ้านพักและโกดังสินค้า สามารถตรวจยึดผลิตภัณฑ์ยาผลิตภัณฑ์เครื่องมือแพทย์ผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางรวม 119 รายการกว่า 168,000 ชิ้น รวมมูลค่ากว่า 30 ล้านบาท โดยตำรวจกองกำกับการ 4 บก.ปคบ. ได้รับการประสานจากองค์การตำรวจสากลหรืออินเตอร์โพลเมื่อเดือนตุลาคมปี 2561 ทางการของประเทศสิงคโปร์สามารถตรวจยึดพัสดุไปรษณีย์บรรจุสินค้าผิดกฎหมายมาจากประเทศไทย ซึ่งผู้บริโภคในประเทศสิงคโปร์สั่งซื้อผ่านทาง application LINE เป็นผลิตภัณฑ์เสริมความงามยี่ห้อ placenta พลาเซนต้า เมื่อตำรวจสากลได้ตรวจสอบการจดทะเบียนผู้ผลิตและการขึ้นทะเบียนผลิตภัณฑ์ซึ่งระบุว่ามาจากประเทศสวิตเซอร์แลนด์กลับไม่พบข้อมูลการจดทะเบียนดังกล่าวในประเทศต้นทางจึงประสานให้ตำรวจบกบขบ. สืบสวนจนทราบแหล่งที่เก็บผลิตภัณฑ์และกลุ่มผู้กระทำความผิดของเครือข่ายดังกล่าวซึ่งพบว่าไม่ได้รับการอนุญาตให้จำหน่ายยาชุดดังกล่าวช่วงวันที่ 15 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมาจึงไปขอศาลให้ออกหมายค้นในพื้นที่ 4 จุดซึ่งอยู่ในพื้นที่ตำบลบางไผ่อำเภอเมืองนนทบุรีตำบลบางสีทองตำบลบางศรีเมืองตำบลวัดชลออยู่ในพื้นที่อำเภอบางกรวยจังหวัดนนทบุรี ซึ่งจากการเข้าตรวจค้นพบว่าผลิตภัณฑ์ยาดังกล่าวตรงกับผลิตภัณฑ์ที่ทางการสิงคโปร์และตำรวจสากลสามารถตรวจยึดได้ 3 รายการจำนวน 4,200 ชิ้นและพบยาที่ไม่ได้ขึ้นทะเบียนตำรับยา 108 รายการเครื่องมือแพทย์ที่ไม่ได้รับอนุญาต 6 รายการเครื่องสำอางที่ไม่มีหมายเลขจดแจ้ง 2 รายการในจำนวนของกลางทั้งหมดนี้
ทั้งนี้จัดการสืบสวนพบว่าผลิตภัณฑ์ดังกล่าวเป็นของกลุ่มเครือข่ายนางสาวนันตพร โดยมีชื่อเป็นผู้เช่าโกดังเก็บสินค้าและอยู่ในรายชื่อกลุ่มบุคคลที่ลักลอบจำหน่ายผลิตภัณฑ์ผิดกฎหมายขององค์การตำรวจสากลซึ่งจากการสืบสวนพบว่าเป็นการลักลอบนำเข้าสินค้ามาจากประเทศจีนมาซุกซ่อนไว้ที่บ้านพักและโกดังดังกล่าวซึ่งจะมีพฤติการณ์ปกปิดมิดชิดและให้ตั้งอยู่ในพื้นที่ห่างไกลเลี่ยงการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่ทั้งนี้ผลิตภัณฑ์ที่พบบางส่วนใช้ฉีดเข้าสู่ร่างกายจึงต้องมีวิธีการเก็บรักษาเฉพาะหากเป็นสถานที่และอุณหภูมิที่ไม่เหมาะสมอาจทำให้คุณภาพลดลงหรือเป็นพิษแก่ผู้ใช้ได้ นอกจากนี้ยังพบว่าเครือข่ายดังกล่าวมีการโฆษณาจำหน่ายผลิตภัณฑ์ผ่านทาง application shopping ต่างๆหลายที่และยังจำหน่ายไปยังกลุ่มลูกค้าชาวไทยและกลุ่มลูกค้าชาวต่างชาติในโซนประเทศเอเชียทั้งประเทศจีนมาเลเซียสิงคโปร์และเวียดนามชุดสืบสวนยังได้ตรวจสอบลึกลงไปยังบัญชีธนาคารของกลุ่มเครือข่ายกว่า 10 บัญชีพบว่ามีการยับย้ายถ่ายเทเงินเพื่อปกปิดการกระทำความผิดมีเงินหมุนเวียนปีละกว่า 10 ล้านบาท ในเบื้องต้นจึงแจ้งข้อหาความผิดตามพรบยา 2 ข้อหาความผิดตามพรบเครื่องมือแพทย์ 1 ข้อหาและความผิดตามพรบเครื่องสำอาง 1 ข้อหาซึ่งมีทั้งโทษปรับไม่เกิน 300,000 บาทและจำคุกมากสุดไม่เกิน 5 ปี หลังจากนี้ตำรวจเตรียมออกหมายเรียกกลุ่มบุคคลที่เกี่ยวข้องมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
ส่วนอีกปฏิบัติการหนึ่งเป็นการเข้าตรวจค้นในพื้นที่ 5 จุดซึ่งตั้งอยู่ในพื้นที่อำเภอคลองหลวงจังหวัดปทุมธานี อำเภอเมือง,อำเภอบ้านค่าย, อำเภอนิคมพัฒนาและเขตคันนายาวกรุงเทพฯ ซึ่งมีทั้งคลินิกเสริมความงามร้านเสริมสวยบ้านพักสถานพยาบาล
หลังตำรวจกองกำกับการ 4 บกปคบได้รับแจ้งจากกรมสนับสนุนบริการสุขภาพและสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดระยองว่ามีแพทย์เสริมความงามที่ไม่ได้เป็นแพทย์จริงและที่เป็นแพทย์ตัวจริงกระทำความผิดเกี่ยวข้องกับการเสริมความงามให้กับประชาชนจนทำให้ผู้ให้บริการได้รับความเสียหายใบหน้าผิดรูปและเกิดการอักเสบติดเชื้อจนอาจเป็นอันตรายถึงแก่ชีวิตซึ่งจากการตรวจสอบในเบื้องต้นพบว่าบุคคลดังกล่าวไม่ได้เป็นแพทย์เฉพาะทางหรือเป็นแพทย์ตัวจริงและไม่มีสิทธิ์ในการฉีดโบท็อกฟิลเลอร์หรือฉีดวิตามินบำรุงให้กับผู้ให้บริการได้ จึงรวบรวมพยานหลักฐานไปขอศาลออกหมายค้นดังกล่าวผลการปฏิบัติการสามารถจับกุมแพทย์ที่ไม่มีใบอนุญาตได้ 4 คนแพทย์ผู้ให้บริการ 1 คนและเจ้าของสถานที่ 1 คนสามารถตรวจยึดของกลางเป็นยาที่มีทะเบียนตำรับยาไม่มีทะเบียนตำรับยาเครื่องมือแพทย์เครื่องสำอางและเวชภัณฑ์รวมแล้ว 96 รายการมูลค่ากว่า 5 แสนบาท
ครั้งนี้จากการสอบปากคำผู้ต้องหาแต่ละคนพบว่า ผู้ที่อ้างตัวเป็นแพทย์เสริมความงามแท้จริงแล้วจบการศึกษาเพียงแค่ระดับมัธยมศึกษาปีที่ 6 2 รายปริญญาตรี 2 รายและที่เรียนจบแพทย์จริงแต่รักษาในสถานที่ซึ่งไม่ได้รับอนุญาต 1 ราย เบื้องต้นผู้ต้องหาทั้งหมดให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา จึงแจ้งข้อหาประกอบกิจการสถานพยาบาลโดยไม่ได้รับอนุญาต, ดำเนินการสถานพยาบาลโดยไม่ได้รับอนุญาต, ขายยาแผนปัจจุบันโดยไม่ได้รับอนุญาต, ขายยาที่ยังไม่ขึ้นทะเบียนตำรับยา, และประกอบวิชาชีพเวชกรรมโดยไม่ได้รับอนุญาต
ทั้งนี้มีโทษจำคุกมากสุดไม่เกิน 5 ปี ปรับสูงสุดไม่เกิน 100,000 บาทและจะมีคำสั่งทางปกครองให้ปิดสถานพยาบาลเป็นการชั่วคราวหรือเพิกถอนใบอนุญาต
