“…โปรดพิจารณามอบหมายให้หน่วยงานของรัฐที่มีอำนาจหน้าที่ตามกฎหมายเป็นผู้แทนในการสอบทานและตรวจสอบว่ารถเบนซ์ จำนวน ๒ คัน และแคชเชียร์เช็ค จำนวนเงิน ๒๕ ล้านบาท ดังกล่าวนายเรืองไกรฯ เสียภาษีกับกรมสรรพากรหรือไม่ ที่ได้รับมาเกิดจากการรับทำงานให้ รับจ้างให้ใคร ซึ่งมีหน้าที่ต้องเสียภาษีอากรได้เสียภาษีถูกต้องหรือไม่ หรือเป็นการได้มาจากการให้โดยเสน่หา และขอให้แจ้งกรมสรรพากรดำเนินการตรวจสอบเกี่ยวกับการเสียภาษีจากการมีรายได้และทรัพย์สินที่เพิ่มขึ้น ตรวจสอบกรรมาธิการงบประมาณฯ ชื่อนายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ ว่าเสียภาษีถูกต้องหรือไม่ และขอให้สอบเส้นเงินหรือธุรกรรมทางการเงินตลอดเวลาที่ดำรงตำแหน่งกรรมาธิการงบประมาณ และเสียภาษีให้รัฐครบถ้วนหรือไม่..”
วันศุกร์ที่ 23 กุมภาพันธ์ 2567 เวลา 11.30 น.ที่ศูนย์รับเรื่องร้องทุกข์ทำเนียบรัฐบาล นายวัชระ เพชรทอง อดีต สส.พรรคประชาธิปัตย์ ยื่นหนังสือถึงนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ผ่าน นายพันศักดิ์ เจริญ ผู้เชี่ยวชาญด้านมวลชน สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง ขอให้ตรวจสอบนายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ กรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๗ ได้รับรถเบนซ์ ๒ คัน เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งกรรมาธิการฯ ซึ่งเป็นเจ้าพนักงานของรัฐและกรณีที่เกี่ยวข้อง โดยนายวัชระ เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า
ตามข้อเท็จจริงที่ปรากฏตามสื่อมวลชนและเฟสบุ๊ค “เรืองไกร นกมรจ” และ “เรืองไกร สื่อใดใด” ของนายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ ได้รับรถเบนซ์ทั้งสองคันขณะเป็นโฆษกกรรมาธิการงบประมาณ เมื่อวันที่ ๑๘ กรกฎาคม ๒๕๖๔ และ ๑๔ สิงหาคม ๒๕๖๕ ตามสำเนาภาพที่แนบมานี้ (สิ่งที่ส่งมาด้วย ๑) จึงถือว่าเป็น “เจ้าหน้าที่ของรัฐ” และปัจจุบันนายเรืองไกรฯ ได้รับการแต่งตั้งเป็นคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๗ ในสัดส่วนของพรรคพลังประชารัฐโดยมีพลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ เป็นหัวหน้าพรรค ตามมติที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร ชุดที่ ๒๖ ปีที่ ๑ ครั้งที่ ๕ วันที่ ๓-๕ มกราคม ๒๕๖๗ (สิ่งที่ส่งมาด้วย ๒) จึงอาจมีการกระทำที่เข้าข่ายผิดกฎหมาย ป.ป.ช. และพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ. ๒๕๔๒
ข้าพเจ้าในฐานะประชาชนผู้เสียภาษีจึงขอร้องเรียน ฯพณฯ นายกรัฐมนตรีว่านายเรืองไกรฯ อาจมีความผิดจากกรณีการครอบครองรถเบนซ์ จำนวน ๒ คัน ได้แก่ รถเบนซ์สีดำจดทะเบียนในนามของนายเรืองไกรฯ และสีขาวไม่ทราบว่าจดทะเบียนในนามของผู้ใด (ปรากฏข่าวตามสื่อมวลชนจากการให้สัมภาษณ์ของนายเรืองไกรฯ
ว่าผู้ใหญ่ใจดีซื้อให้) และหลังจากนายเรืองไกรได้รับการแต่งตั้งจากคณะรัฐมนตรีให้ดำรงตำแหน่ง คณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ….. (สิ่งที่ส่งมาด้วย ๓) ปรากฏข้อเท็จจริงว่าเฟสบุ๊คของนายเรืองไกร “เรืองไกร สื่อใดใด” นายเรืองไกรได้รับแคชเชียร์เช็คธนาคารกรุงเทพ สาขาถนนประดิพัทธ์ เลขที่ ๐๐๐๙๐๙๘๒ ลงวันที่ ๒๒ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๔ (วันที่ 22 เดือน 02 ค.ศ. 2021) สั่งจ่ายชื่อ นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ จำนวนเงิน ๒๕ ล้านบาท (สิ่งที่ส่งมาด้วย ๔) โดยขณะเกิดเหตุรับแคชเชียร์เช็ค นายเรืองไกรเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐหรือไม่ รับเช็คมาจากผู้ใด สาเหตุใดเพราะมีมูลค่าสูงมากซึ่งผิดวิสัยของผู้ประกอบอาชีพสามัญทั่วไป
จากข้อเท็จจริงดังกล่าวมีเหตุอันควรสงสัยว่า นายเรืองไกรจะได้รับทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิดมูลฐานเนื่องจาก การเป็นกรรมาธิการถือเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐจึงเข้าข่ายความผิดมูลฐานตามมาตรา ๓ (๕) แห่งพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ. ๒๕๔๒ และหากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องตรวจสอบแล้วพบว่าทรัพย์สินที่นายเรืองไกรรับไปเป็นทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิดฐานทุจริต การกระทำดังกล่าวอาจเข้าข่ายเป็นความผิดอาญาฐานฟอกเงินตามมาตรา ๕ (๓) แห่งพระราชบัญญัติดังกล่าว เนื่องจากเป็นการได้ทรัพย์สินมาโดยรู้ในขณะที่ได้มาว่าทรัพย์สินนั้นเป็นทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิดฐานทุจริต ซึ่งมีโทษจำคุกตั้งแต่หนึ่งปีถึง ๑๐ ปี อีกฐานหนึ่งด้วย
ดังนั้นขอให้ ฯพณฯ นายกรัฐมนตรีในฐานะผู้บังคับบัญชาสูงสุดของฝ่ายบริหาร โปรดพิจารณามอบหมายให้หน่วยงานของรัฐที่มีอำนาจหน้าที่ตามกฎหมายเป็นผู้แทนในการสอบทานและตรวจสอบว่ารถเบนซ์ จำนวน ๒ คัน และแคชเชียร์เช็ค จำนวนเงิน ๒๕ ล้านบาท ดังกล่าวนายเรืองไกรฯ เสียภาษีกับกรมสรรพากรหรือไม่ ที่ได้รับมาเกิดจากการรับทำงานให้ รับจ้างให้ใคร ซึ่งมีหน้าที่ต้องเสียภาษีอากรได้เสียภาษีถูกต้องหรือไม่ หรือเป็นการได้มาจากการให้โดยเสน่หา และขอให้แจ้งกรมสรรพากรดำเนินการตรวจสอบเกี่ยวกับการเสียภาษีจากการมีรายได้และทรัพย์สินที่เพิ่มขึ้น ตรวจสอบกรรมาธิการงบประมาณฯ ชื่อนายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ ว่าเสียภาษีถูกต้องหรือไม่ และขอให้สอบเส้นเงินหรือธุรกรรมทางการเงินตลอดเวลาที่ดำรงตำแหน่งกรรมาธิการงบประมาณ และเสียภาษีให้รัฐครบถ้วนหรือไม่
ทั้งนี้ เนื่องจากผู้ถูกกล่าวหาเป็นนักร้องเรียนและได้รับแต่งตั้งจากสภาผู้แทนราษฎรให้คณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๗ เป็นกรณีที่อยู่ในความสนใจของพี่น้องประชาชนทั้งประเทศ จึงขอให้ท่านดำเนินการตรวจสอบโดยเร็วที่สุดว่าผู้ถูกกล่าวหามีความผิดตามกฎหมายหรือไม่ เพื่อความยุติธรรมกับทุกฝ่าย
เฟสบุ๊ค “เรืองไกร นกมรจ” และ “เรืองไกร สื่อใดใด” ของนายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ ที่ผ่านมาเคยเผยแพร่ภาพถ่ายคู่กับรถเบนซ์สีดำและสีขาวพร้อมเผยแพร่อย่างเปิดเผยกับสาธารณะนั้น (สิ่งที่ส่งมาด้วย ๑) แต่บัดนี้ในปัจจุบันจากการสืบค้นทางอินเตอร์เน็ตปรากฏว่าไม่พบเฟสบุ๊คของนายเรืองไกรแล้ว มีเหตุเชื่อได้ว่านายเรืองไกรได้
ทำลายหลักฐานโดยปิดเฟสบุ๊ค “เรืองไกร นกมรจ” และ “เรืองไกร สื่อใดใด” ไปแล้วตามเอกสารที่แนบมาพร้อมนี้ (สิ่งที่ส่งมาด้วย ๕)