(ตอน) ทนายหน้าหอ…ลิเกคณะเดียวกัน
คณะลิเก…ที่เปิดแสดงอยู่ หน้าสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดเรื่องแรกไป ก็ถูกเปลี่ยนจาก “ลิงหลอกเจ้า” มาเป็น “ลิงหลอกนาย”
ในที่สุด เจ้า-นาย จับได้…ถูกรวบหัวรวบหาง จับตัวพระเอกและพระรอง ไปคุมขังไว้ในกรงทอง
ได้พระรองคนใหม่ นำแสดงยังไม่ทันได้ก้าวย่างไปใกล้แม่ยกได้ยลโฉม ก็มีผู้ร้ายกระโดดออกมาขวางหน้าเสียก่อน
คณะผู้กำกับการแสดง ก็ต้องรีบเปลี่ยนฉาก…เปลี่ยนตัวนักแสดง จากเนื้อเรื่องเดิม มาเป็น
“ทนายหน้าหอ”
มีนักแสดง 2 ตัว….ออกมาแสดงตนกับแม่ยก ก็ไม่ใช่ใครอื่นใด
นักแสดงหน้าเก่า ที่เคยออกโรงมาก่อน…แต่อยู่หลังฉาก ส่วนใหญ่ คอยบอกบทกับพระเอกพระรอง ยืนกำกับฯ กันคนละมุม
เรื่องเดิม…ลิงหลอกนาย แนวทางคล้ายพวก “หน้าไหว้ หลังหลอก” เหมือนน้ำนิ่ง กลิ้งบนใบบัว
ส่วน “ทนายหน้าหอ” นิสัย และสันดาน ของนักแสดงทั้งคู่ ดูเหมือนจะเป็นแนวพระเอก แต่เบื้องลึก….เป็นพวกผู้ร้ายสายเดียวกับ ..ลิงหลอกนาย แต่มาในบท “น้ำนิ่งไหลลึก” เข้าถึงบทบาท “หัวหน้าคนรับใช้ ที่ใช้ได้ออกหน้าออกตา”
ตามเนื้อเรื่อง…พวกทนายหน้าหอ ก็มาตามสายงานของกลุ่มเดียวกับลิง..หลอกนาย
เป็นคนสนิทรับใช้ ที่รู้ไส้นายลิงอย่างแนบแน่น
แต่แยกวงกันเดิน…คนละฝ่าย เพื่อให้คนดูที่คอยจับผิด คิดไม่ถึง แท้จริง ไม่ใช่ใครที่ไหน?
มันมาจากขุมนรกเดียวกัน!!
อุดมการณ์ของนักแสดงชุดนี้…เงินคือพระเจ้า
ที่มองหาเหยื่อ ในเป้าหมายเดียวกัน
จึงสรุปได้ว่า….ลิเก หน้าสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ที่กำลังแสดงในหัวเรื่องใหม่ “ทนายหน้าหอ” ก็ไปจบลงที่ เดียวกับ “ลิงหลอกนาย”
ถ้าฉากสุดท้าย…ทั้งฝ่ายลิงและฝ่ายทนาย จะถูกจับตัวลงโทษ ในข้อหาหมิ่นประมาท ถึงกับติดคุกติดตะราง ก่อนปิดการแสดง
ก็ไม่มีนักแสดงคนไหน…ติดคุกติดตะรางตลอดชีวิต
ปิดฉากสุดท้าย….บรรดาหัวหน้าลิง หัวหน้าทนายหน้าหอ ที่คอยกำกับการแสดง ยืนปรบมือยู่หลังเวที
ที่แท้พวกเดียวกันกับ ..ห้างหุ้นส่วนร่วมกัน “โกงบ้านกินเมือง” สายสีกากี ที่เกาะขานักการเมืองกันมาอย่างเหนียวแน่น
เขาร่วมกันเปิดการแสดง…ลิเกการเมือง สายลิงหลอกนาย และ ทนายหน้าหอ เดี๋ยวก็จบแล้วครับ…นาย
#สุคนธ์ ชัยอารีย์
#สืบจากข่าว รายงาน
