ผู้บริหารระดับสูงของธนาคารยูโอบี (ไชน่า) เปิดเผยว่าเศรษฐกิจจีนมีแนวโน้มที่ดี และสายสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจและการค้าระหว่างจีน-อาเซียนนั้นแยกกันไม่ขาด โดยการบูรณาการห่วงโซ่อุตสาหกรรมระดับทวิภาคีจะลึกซึ้งยิ่งขึ้น
เมื่อไม่นานนี้ ซินเธีย ซิน ผู้จัดการทั่วไปของธนาคารฯ สาขาปักกิ่ง ให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวซินหัวของจีนว่า จีนและอาเซียนมีปรัชญาการพัฒนาและห่วงโซ่อุตสาหกรรมร่วมกัน ความร่วมมือระหว่างทั้งสองฝ่ายได้พัฒนาจากการแลกเปลี่ยนทางเศรษฐกิจและการค้าไปสู่การบูรณาการห่วงโซ่อุตสาหกรรม
ซินมองว่าตลอดหลายทศวรรษที่ผ่านมา จีนได้สร้างห่วงโซ่อุตสาหกรรมที่ครอบคลุมหลายสาขา อาทิ การผลิตระดับไฮเอนด์ และห่วงโซ่อุตสาหกรรมดังกล่าวอยู่ระหว่างการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง ทำให้จีนมีจุดแข็งอย่างเห็นได้ชัด
จีนซึ่งเป็นคู่ค้าที่ใหญ่ที่สุดของอาเซียน สามารถขยับขยายและขับเคลื่อนการพัฒนาห่วงโซ่อุตสาหกรรมของอาเซียนผ่านความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจระดับภูมิภาค (RCEP) และข้อตกลงทางเศรษฐกิจและการค้าอื่นๆ
ปริมาณการลงทุนระหว่างจีนและอาเซียนเพิ่มขึ้น พร้อมกับสัดส่วนการลงทุนแบบกรีนฟิลด์ (greenfield) หรือการก่อตั้งบริษัทสาขาและการลงทุนใหม่ที่ขยายตัว บ่งชี้ว่าการบูรณาการห่วงโซ่อุตสาหกรรมระหว่างทั้งสองฝ่ายจะลึกซึ้งยิ่งขึ้นอีก
ซินเผยว่าพันธมิตรทางธุรกิจชาวจีนมักคำนึงถึงการประหยัดต้นทุนและประสิทธิภาพมากกว่า เธอจึงมั่นใจในผลการดำเนินงานทางเศรษฐกิจของจีน และคิดว่ากลุ่มทุนและบริษัทในต่างประเทศจะยังคงสนใจในจีนตราบเท่าที่จีนยังเปิดกว้าง