เมื่อเวลา 13.30 น. วันที่ 25 เม.ย.67 ที่บริเวณตลาดคลองถม เซ็นเตอร์ ถนนวรจักร แขวงป้อมปราบ เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย กทม. นายกฤษฎา อินทามระ ฉายาทนายปราบโกง เดินทางมาให้ความช่วยเหลือพ่อค้าแม่ค้าตลาดคลองถม ที่ถูกเจ้าพนักงานบังคับคดี กองยึดทรัพย์สิน กรมบังคับคดี เฃ้าทำการขับไล่ตามคำสั่งศาลแพ่งกรุงเทพใต้ คดึหมายเลขแดงที่ ม.73/2552 โดยมี พ.ต.ต.รุ่งโรจน์ เนียขุนทดสวป.สน.พลับพลาไชย เขต 1 ที่เดินทางมาร่วมดูแลความสงบเรียบร้อย
เมื่อเจ้าของห้องแถว นางมะลิ เอกอริยะกุล อดีตเลขาพรรคบำรุงเมือง (ศาลสั่งยุบพรรคเมื่อ ปี 57 / อดีตเจ้าของบำรุงเมืองพลาซ่า) เดินทางมาถึง จนท.ตร.ได้แสดงหมายจับศาลแพ่งกรุงเทพใต้ ที่ 98 /2554 ลงวันที่ 10 ส.ค.2554 ที่บริษัทไทรทอง พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด เป็นโจทก์ โดยมีสำนักงานทรัพย์สินสวนพระมหากษัตริย์ เป็นโจทก์ร่วม โดยนางมะลิ เป็นจำเลย ความผิดต้องหาว่ากระทำผิดฐาน ไม่ปฏิบัติตามคำพิพากษาของศาล ให้ไปส่งศาลโดยไม่มีอายุความ จึงอ่านหมายจับพร้อมแจ้งสิทธิให้นางมะลิทราบ ก่อนจะควบคุมตัวไปลงบันทึกประจำวันที่ สน.พลับพลาไชย เขต 1 ก่อนจะพาตัวไปส่งศาลแพ่งกรุงเทพใต้ทันที
นายกฤษฎา เปิดแถลงรายละเอียดในคดีนี้ว่า ตนได้รับการร้องทุกข์จากนางมะลิ ว่าถูกบริษัทฯ ดังกล่าวกระทำมาตั้งแต่ปี 2452 โดยมีการฟ้องร้องต่อศาลแพ่ง จนมีการออกหมายจับคุณมะลิ ออกมาตามที่ จนท.ตร.แจ้งหมายจับดังกล่าว ออกเมื่อเดือนมิ.ย.54 เป็นการแสดงอำนาจพิเศษภายใน 8 วัน ก่อนจะเอาไปขออนุมัติศาลออกหมายจับ
ประเด็นคือ บริษัท เอาหมายบังคับคดีเก่าปี 54 มาเล่นงานผู้เช่า ซึ่งในหมายมีสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ เป็นโจทก์ร่วมอยู่ด้วย ซึ่งผู้เสียหายหรือผู้เช่าเห็นว่า การกระทำของบริษัท ขัดต่อ
นโยบายของสำนักงานทรัพย์สินที่มอบสิทธิ์ให้บริษัทเข้าจัดระเบียบผู้ค้าเท่านั้น การที่บริษัทใช้วิธีไล่รื้อโดยตัดกุญแจบุกเข้าไปขนสินค้าออกมาบรรจุกล่อง การกระทำเช่นนี้ย่อมทำให้สินค้าเสียหายโดยไม่เป็นธรรมแก่นางมะลิอย่างยิ่งและจึงถือว่าขัดต่อนโนบายของสำนักงานทรัพย์สินฯด้วย ดังนั้น ในเมื่อนางมะลิไม่ได้รับความเป็นธรรมและได้รับทุกข์อย่างแสนสาหัสจากบริษัทโจทก์ และสำนักงานทรัพย์สินฯโจทก์ร่วมทำให้หมดที่พึ่งโดยจะถวายฎีกาขอพระราชทานความเป็นธรรต่อพระเจ้าอยู่เป็นที่พึ่งสุดท้าย
