วันอาทิตย์, พฤษภาคม 19, 2024
หน้าแรกอาชญากรรมถูกจับหลายรอบ ไม่เคยเข็ด สืบนครบาล รวบ "จินดาดวง" โจรต้มตุ๋นตัวแสบในโลกออนไลน์ อ้างยศ พตอ. ใช้สลิปปลอมหลอก

Related Posts

ถูกจับหลายรอบ ไม่เคยเข็ด สืบนครบาล รวบ “จินดาดวง” โจรต้มตุ๋นตัวแสบในโลกออนไลน์ อ้างยศ พตอ. ใช้สลิปปลอมหลอก

ตามนโยบายของ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รรท.ผบ.ตร., พล.ต.อ.ธนา ชูวงศ์ รอง ผบ.ตร. ,พล.ต.ท.ธัชชัย ปิตะนีละบุตร ผู้ช่วย ผบ.ตร. , พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น. ให้ปราบปรามกลุ่มเครือข่ายองค์กรอาชญากรรมทางออนไลน์ ที่กระทำความผิดทุกรูปแบบ ซึ่งสร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชนผู้สุจริตจำนวนมาก

เมื่อวันที่ 4 พฤษภาคม 2567 พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น., พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น. สั่งการพล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. , พ.ต.อ.เกียรติศักดิ์ สระทองออย รอง ผบก สส.ฯ , พ.ต.อ.วิชิต ถิรขจรวงศ์ ผกก.สส.1ฯ,พ.ต.ท.พีรบูรณ์ แก้วดู รอง ผกก.สส.1ฯ ,พ.ต.ท.เอกศิษฐ์ วรกิตติ์ฐากรณ์ รอง ผกก.สส.1ฯ ได้สั่งการให้ พ.ต.ต.พิสิทธิ์ เตชะรี สว.กก.สส.1ฯ พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.สส.1ฯ ชุดปฎิบัติการที่ 1 ดำเนินการ จับกุมตัว นายจินดาดวง อายุ 41 ปี ภูมิลำเนา แขวงคลองเจ้าคุณสิงห์ เขตวังทองหลาง กรุงเทพ

ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน “ฉ้อโกงโดยแสดงตนเป็นคนอื่น” โดยจับกุมตัวได้ที่หอพักใน ซ.ลาดพร้าว 101 แขวงคลองจั่น เขตบางกะปิ กรุงเทพมหานคร

พฤติการณ์ในคดีนี้ ผู้ต้องหารับสารภาพว่า เมื่อประมาณเดือนมีนาคม 2567 ตนได้ทำการสั่งซื้อกระเป๋า ยี่ห้อกุ๊ชชี่ ผ่านทางมาร์เก็ตเพลส โดยใช้เฟซบุ๊คชื่อ Jindaduang Duangjinda เมื่อตกลงซื้อขายสินค้าแล้วผู้เสียหายกำลังจะส่งสินค้าให้ตน ก็จะส่งสลิปการโอนเงิน โดยเป็นสลิปที่ตนโหลดมาจากอินเตอร์เน็ต แล้วนำมาแก้ไขชื่อ แล้วส่งให้ทางผู้เสียหาย เมื่อผู้เสียหายหลงเชื่อจึงได้ส่งสินค้าให้กับผู้ต้องหาไป ผู้เสียหายอ้างว่า เมื่อได้รับสินค้าแล้วก็จะนำไปขายตามร้านที่รับซื้อ โดยส่งผ่านแมสเซนเจอร์ แต่ทางร้านไม่รับซื้อเนื่องจากผู้เสียหายได้โพสต์เตือนภัยไว้ก่อนแล้ว แต่ตนก็ไม่ได้รับของคืนแต่อย่างได้ ซึ่งเจ้าหน้าที่ก็ไม่ได้ปักใจเชื่อแต่อย่างใด เนื่องจากเมื่อตรวจสอบประวัติเพิ่มเติมของนายจินดาดวงฯ แล้ว พบว่ามีประวัติก่อเหตุในลักษณะเดียวกันและถูกจับกุมมาแล้วหลายครั้ง

โดยครั้งล่าสุดถูกจับกุมตามหมายจับในข้อหาฉ้อโกงเมื่อประมาณปลายเดือนมกราคม คดี สน.ท่าข้าม ซึ่งปัจจุบันยังตรวจพบการเตือนภัยจากกลุ่มผู้ใช้โซเชี่ยลมีเดียหลายราย ตรวจสอบพบประวัติและพฤติการณ์เดิมๆ จำนวนมากเกี่ยวกับพฤติการณ์ของผู้ต้องหารายนี้ เช่นเมื่อเดือนธันวาคม 2566 ถูกจับกุมตามหมายจับโดยก่อเหตุหลอกลวงผู้เสียหายเป็นหญิงสาววัย 40 ปี ติดต่อขอเช่าซื้อพระเครื่อง จากผู้เสียหายผ่านทางแอปพลิเคชั่นแมสเซนเจอร์ ซึ่งได้ทำสลิปการโอนเงินปลอม หลอกผู้เสียหายว่าได้โอนเงินแล้ว จากนั้นได้ให้พนักงานไรเดอร์ขับไปรับพระมาส่งให้ตนเอง ซึ่งผู้ต้องหาได้มีการส่งสลิปมาให้ดู แต่ไม่ทันได้สังเกตและกดเข้าแอปไปดู ก่อนจะติดต่อไม่ได้แล้วหลบหนีไป ก่อนถูกจับกุมตัวได้ นอกจากนี้ยังมีผู้เสียหายอีกหลายรายเดินทางมาชี้ตัวที่ สน.โชคชัย

นอกจากนี้นายจินดา เคยถูกจับกุมเมื่อปี 2560 พร้อมของกลาง พระเครื่องหลวงปู่ทวด รุ่นเลื่อนสมณศักดิ์ พร้อมกล่อง จำนวน 1 องค์ พระเครื่องหลวงหลวงพ่อโสธร พร้อมกล่อง จำนวน 1 องค์ โทรศัพท์มือถือยี้ห้อโนเกีย จำนวน 1 เครื่อง โทรศัพท์มือถือซัมซุง จำนวน 1 เครื่อง โทรศัพท์มือถือ G-LIVE จำนวน 1 เครื่อง และรถจักรยานยนต์ยามาฮ่า รุ่น มีโอ สีม่วงดำ หมายเลขทะเบียน อบน-255-กรุงเทพมหานคร จำนวน 1 คัน อ้างชื่อบิ๊ก ตร. ตุ๋นเช่านาฬิกาหรูมูลค่าเกือบล้านโดยผู้ต้องหาได้หลอกให้มีการนัดหมายเดินทางมาส่งมอบพระเครื่องที่ประกาศขายในเว็บไซต์ชื่อดัง โดยคนร้ายทำทีโทรศัพท์เข้ามาติดต่อเช่าพระเครื่องหลวงปู่ทวด รุ่นเลื่อนสมณศักดิ์ และพระเครื่องหลวงหลวงพ่อโสธร มูลค่ากว่า 800,000 บาท ของเหยื่อ เมื่อถึงตามเวลานัดหมายทางคนร้ายได้ใช้กลอุบายแจ้งว่า ได้โอนเงินเข้าบัญชีไปแล้ว จำนวน 770,000 บาท และส่งหลักฐานให้ดู จนเหยื่อหลงเชื่อจึงได้มอบพระเครื่องดังกล่าวให้

ต่อมามีผู้เสียหายอีกรายเข้าแจ้งความกับทาง ตำรวจ สน.โชคชัย อีก โดยให้ข้อมูลกับเจ้าหน้าที่ว่า ได้โพสต์ขายนาฬิกา ยี่ห้อ โรเล็กซ์ รุ่น oysterflex BK M BLACK จำนวน 1 เรือน ราคา 645,000 บาท ผ่านทางเว็บไซต์ชื่อดัง ต่อมามีผู้ติดต่อขอซื้อ โดยอ้างว่ามีนายตำรวจชั้นผู้ใหญ่ยศ พ.ต.อ. เป็นผู้สนใจจะซื้อ แต่ให้เจ้าตัวติดต่อแทน จากนั้นคนร้ายทำเนียน โดยนัดให้ผู้เสียหายนำนาฬิกามาให้ดูที่ สน.โชคชัย ในวันดังกล่าว เมื่อมาถึงผู้เสียหายได้ยืนพูดคุยกับผู้ต้องหาที่ด้านข้าง สน.โชคชัย จากนั้นคนร้ายอ้างว่าจะนำนาฬิกาขึ้นไปให้ นายตำรวจ บน สน. ดูที่ห้องทำงานชั้น 2 และพาผู้เสียหายเข้ามาให้นั่งรอที่ด้านในห้องพนักงานสอบสวนเวร จากนั้นผู้ต้องหาก็เอานาฬิกาจากผู้เสียหาย และทำทีเดินขึ้นไปที่ห้องทำงาน ผ่านไปสักพักผู้ต้องหาก็ไม่ลงมา ผู้เสียหายจึงพยายามโทรศัพท์ติดต่อ ปรากฎว่าปิดเครื่องไปแล้วไม่สามารถติดต่อได้ และตามตัวไม่พบ ผู้เสียหายจึงสอบถามเจ้าหน้าที่ตำรวจทราบว่านายตำรวจที่ถูกอ้างชื่อคนดังกล่าว ได้ย้ายไปปฏิบัติหน้าที่ที่อื่นนานแล้ว

จากการตรวจสอบประวัติในฐานระบบ พบประวัติดังนี้
1)ปี 2556 ข้อหา เสพยาเสพติดให้โทษประเภท 1 ของ สน. โชคชัย
2)ปี 2560 ข้อหา ตัวการลักทรัพย์ในเคหสถาน สถานที่ราชการ สน. โชคชัย
3)ปี 2560 ข้อหา ตัวการลักทรัพย์ สน.โชคชัย
4)ปี 2560 ข้อ ตัวการลักทรัพย์ ตามมาตรา 334 , 335 , 335ทวิ โดยแต่งเครื่องแบบทหารหรือตำรวจ หรือแต่งกายให้เข้าใจว่าเป็นทหารหรือตำรวจ หรือโดยมีหรือใช้อาวุธปืนหรือวัตถุระเบิด หรือโดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การกระทำผิด สน.โชคชัย
5)ปี 2566 ข้อหา ตัวการฉ้อโกง สภ.สำโรงเหนือ
6)ปี 2567 ข้อหา ฉ้อโกง สน.ท่าข้าม
7)ปี 2567 ข้อหา ฉ้อโกงโดยแสดงตนเป็นบุคคลอื่น สน.ลาดพร้าว

จากนั้นได้นำตัว ส่งพนักงานสอบสวน สน.ลาดพร้าว เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

พล.ต.ต.ธีรเดช ฝากเตือน กลวิธีการหลอกลวงของมิจฉาชีพมีหลากหลายกลวิธี รวมถึงมีการซื้อขายโปรแกรมแก้ไขข้อมูลสลิปโอนเงินบนแอปฯธนาคาร เพื่อปลอมสลิปการโอนเงิน ซึ่งข้อมูลบนสลิปปลอมดังกล่าว ดูคล้ายกับสลิปที่มีการโอนเงินจริง ไม่ว่าจะเป็น ชื่อผู้รับโอน วันที่ เวลา และจำนวนเงิน แนะนำพ่อค้าแม่ค้า ระวังกลโกง ปลอมสลิปโอนเงินผ่านมือถือ แนะตรวจสอบเทียบกับยอดแจ้งเตือนจากธนาคารทุกครั้ง หรือสแกน QR Code บน E-slip เพื่อความถูกต้อง

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่

spot_img

Latest Posts