รายงานแนวโน้มเศรษฐกิจโลกฉบับใหม่ จากกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) เมื่อวันอังคาร (16 ก.ค.) ได้ปรับเพิ่มตัวเลขคาดการณ์การเติบโตทางเศรษฐกิจของจีน ปี 2024 จากร้อยละ 4.6 ในเดือนเมษายน เป็นร้อยละ 5
รายงานจาก สำนักข่าวซินหัว ระบุว่า การปรับเพิ่มนี้ ส่วนใหญ่เป็นผลจากการฟื้นตัวของการบริโภคภาคเอกชน และการส่งออกที่ดีในช่วงไตรมาสแรก (มกราคม-มีนาคม) โดยการบริโภคภายในประเทศ ที่ฟื้นตัวของจีน ได้กระตุ้นแนวโน้มเชิงบวกในไตรมาสแรก ควบคู่กับแรงหนุนจากการส่งออก ที่เพิ่มขึ้นชั่วคราว ซึ่งเชื่อมโยงกับความต้องการทั่วโลก ที่เพิ่มขึ้นเมื่อปีก่อน
ปิแอร์-โอลิเวียร์ กูรินชาส หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ของกองทุนฯ กล่าวว่า ระบบเศรษฐกิจของตลาดเกิดใหม่ในเอเชีย ยังคงเป็นแรงขับเคลื่อนหลักสำหรับเศรษฐกิจทั่วโลก โดยการเติบโตในอินเดียและจีน ถูกปรับเพิ่มขึ้น และคิดเป็นเกือบครึ่งหนึ่งของการเติบโตทั่วโลก
ขณะที่ภาพรวมของเศรษฐกิจโลก กองทุนฯ รักษาระดับการคาดการณ์ สำหรับการเติบโตทางเศรษฐกิจทั่วโลกในปี 2024 ไว้ที่ร้อยละ 3.2 พร้อมระบุว่า ระบบเศรษฐกิจของตลาดเกิดใหม่ในเอเชีย ยังคงเป็นแรงขับเคลื่อนหลักสำหรับเศรษฐกิจโลก ท่ามกลางความท้าทายต่างๆ ต่อภาวะเงินเฟ้อลดลง ในกลุ่มประเทศเศรษฐกิจพัฒนาแล้ว อาจส่งผลให้ธนาคารกลางหลายแห่ง รวมถึงธนาคารกลางสหรัฐฯ คงต้นทุนการกู้ยืมให้สูงขึ้น และนานขึ้น ซึ่งอาจเกิดความเสี่ยงต่อการเติบโตในภาพรวม สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐเจอแรงกดดันมากขึ้น และมีผลกระทบทางอ้อม ต่อกลุ่มประเทศเศรษฐกิจเกิดใหม่และกำลังพัฒนา
กูรินชาสรู้สึกว่า เป็นเรื่องน่ากังวล หากประเทศอย่างสหรัฐฯ ยังคงรักษาจุดยืนทางการเงิน ที่ผลักดันอัตราส่วนหนี้สิน ต่อผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ให้สูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยมีความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้น ต่อทั้งเศรษฐกิจภายในประเทศ และทั่วโลก ขณะการพึ่งพาเงินทุนระยะสั้นของสหรัฐฯ ที่มากขึ้น ยังน่าเป็นห่วงเช่นกัน
