“….มาบัดนี้ จีนมุ่งใช้วิทยาศาสตร์เทคโนโลยียุคใหม่เป็นกุญแจไขประตูไปสู่อนาคต โดยถือเอาความพอใจของประชาชนเป็นที่ตั้ง ทำให้จีนพัฒนาตัวเองได้อย่างก้าวกระโดดในทุกๆด้าน สร้างความพอใจให้แก่ประชาชนสูงขึ้นเรื่อยๆ นั่นคือการแก้ปัญหาของประเทศจีน ในยามที่วิทยาศาสตร์เทคโนโลยีโลกเบ่งบาน พลังการผลิตโลกเติบใหญ่ ควบคู่ไปกับความเรียกร้องต้องการของประชากรโลกที่นับวันสูงขึ้น แต่ก็ยังมีอีกจำนวนหนึ่ง โดยเฉพาะกลุ่มประเทศพัฒนาแล้ว แสดงท่าทีปฏิเสธ ไม่ยอมรับความจริง ยังดึงดันที่จะแก้ปัญหาด้วยกระบวนการสงคราม ซึ่งสวนทางกับความเรียกร้องต้องการของประชาชนชาวโลก ผลคือ กลุ่มประเทศพัฒนาแล้วเหล่านั้น นับวันจะกลายมาเป็นประเทศไร้การพัฒนา เมื่อเทียบกับประเทศจีน…”
พลังคู่เคลื่อนโลก 双力驱动
บทนี้ ผู้เขียนขอชวนท่านผู้อ่านมามองการขับเคลื่อนของสังคมโลกเชิงพลวัต เพื่อเข้าถึงกฏเกณฑ์ที่กำหนดทิศทางการพัฒนาเปลี่ยนแปลงของสังคมโลกโดยรวม และเร่งปรับตัวเองให้พร้อมเสมอ โดยไม่เสียเวลาอยู่กับการร้องโวยวายกล่าวโทษสิ่งโน้นสิ่งนี้ คนโน้นคนนี้
ดังที่ผู้เขียนเคยนำเสนอมาแล้วว่า การเปลี่ยนแปลงของโลกดำเนินไปด้วยพลังขับเคลื่อนทางวัตถุเป็นปฐมเหตุ หลักๆก็คือพลังการผลิตที่ปัจจุบันมีวิทยาศาสตร์เทคโนโลยีเป็นหัวหอก ทำให้การปรับตัวให้พร้อมกลายเป็นโอกาส ซึ่งต้องอาศัยสติปัญญาตื่นรู้ของผู้คนในสังคมและวงการที่เกี่ยวข้องทุกระดับชั้น โดยเฉพาะกลุ่มคณะผู้นำการบริหารประเทศ เร่งและประสานกันปรับปฏิรูประบบกลไกทั้งภาครัฐและเอกชนให้สอดคล้องกับการขับเคลื่อนใหญ่ทั้งในระดับภูมิภาคและทั้งโลกโดยรวม
ทั้งนี้ แนวคิดของสังคมต้องพุ่งไปทางเดียวกันกับการขับเคลื่อนของยุคสมัยอย่างชัดเจน และเสียงนำของสังคมต้องสะท้อนให้เห็นถึงความพร้อมเสมอที่จะพลิกทุกวิกฤติเป็นโอกาส และใช้ทุกโอกาสให้เกิดผลดีต่อการพัฒนาก้าวหน้าของตัวเอง
โดยนัยนี้ สิ่งแรกที่จะต้องเข้าถึง คือความจริงที่กำลังขับเคลื่อนสังคมโลกวันนี้ และประการที่สองคือมาตรการต่างๆที่จำเป็นสำหรับการขับเคลื่อนตัวเองไปได้ดีที่สุดตลอดกระบวนการการขับเคลื่อนของสังคมโลกยุคใหม่นี้
ในประการแรก ผู้เขียนขออิงเอาหลักวินิจฉัยของพรรคคอมมิวนิสต์จีน โดยประธานาธิบดีสีจิ้นผิงเป็นหลักนำ ที่ท่านบอกว่าความขัดแย้งหลักของสังคมจีน ณ วันนี้ได้ก้าวเข้าสู่คู่ความขัดแย้งระหว่างความต้องการมีคุณภาพชีวิตที่สูงขึ้นของประชาชนกับความสามารถในการผลิตและการให้บริการของสังคม
ตามหลักทฤษฎีว่าด้วยความขัดแย้ง คู่ความขัดแย้งหลักคือพลังขับเคลื่อนหลักของสิ่ง การเร่งพัฒนาพลังการผลิตให้ทันกับความต้องการของประชาชน อันเป็นความขัดแย้งหลักของสังคมจีนขั้นนี้ ก็จะกลายเป็นพลังขับเคลื่อนใหญ่ที่สุดในการส่งให้จีนพุ่งทะยานไปสู่ อนาคต
ในอดีต ยุคปฏิวัติ เมื่อจีนแกัไขปัญหาความขัดแย้งหลักระหว่างประเทศจีนกับมหาอำนาจตะวันตกได้สำเร็จก็ก้าวเข้าสู่ระยะความขัดแย้งหลักระหว่างความล้าหลังกับการพัฒนาเศรษฐกิจ ซึ่งพรรคฯจีนใช้การปฏิรูปเป็นกุญแจไขประตูสู่ความสำเร็จ
มาบัดนี้ จีนมุ่งใช้วิทยาศาสตร์เทคโนโลยียุคใหม่เป็นกุญแจไขประตูไปสู่อนาคต โดยถือเอาความพอใจของประชาชนเป็นที่ตั้ง
เพื่อแก้ไขปัญหาความขัดแย้งหลักยุคใหม่นี้ พรรคคอมมิวนิสต์จีนได้ดำเนินการปฏิรูปเปลี่ยนแปลงอย่างกว้างขวางและลึกซึ้งในทุกแขนงและระดับชั้น ตั้งแต่ภายในพรรคและกลไกการบริหารของภาครัฐบาล ไปจนถึงภาคเอกชน
การเตรียมความพร้องได้สูงสุด ทำให้จีนพัฒนาตัวเองได้อย่างก้าวกระโดดในทุกๆด้าน สร้างความพอใจให้แก่ประชาชนสูงขึ้นเรื่อยๆ
นั่นคือการแก้ปัญหาของประเทศจีน ในยามที่วิทยาศาสตร์เทคโนโลยีโลกเบ่งบาน พลังการผลิตโลกเติบใหญ่ ควบคู่ไปกับความเรียกร้องต้องการของประชากรโลกที่นับวันสูงขึ้น ซึ่งทั้งสองส่วนนี้ ประกบกันเข้าเป็นคู่ขัดแย้งหลักของสังคมโลกแล้วโดยปริยาย
โดยจีนเป็นผู้เข้าถึงแล้วถึงความจริงนี้ และกำลังใช้ประโยชน์จากการแก้ไขความขัดแย้งหลักนี้อย่างขมีขมัน
หลายๆประเทศเริ่มเรียนรู้และเข้าใจ แต่ก็ติดปัญหาการปรับปฏิรูปตัวเองไม่มากก็น้อย
แต่ก็ยังมีอีกจำนวนหนึ่ง โดยเฉพาะกลุ่มประเทศพัฒนาแล้ว แสดงท่าทีปฏิเสธ ไม่ยอมรับความจริง ยังดึงดันที่จะแก้ปัญหาด้วยกระบวนการสงคราม ซึ่งสวนทางกับความเรียกร้องต้องการของประชาชนชาวโลก
ผลคือ กลุ่มประเทศพัฒนาแล้วเหล่านั้น นับวันจะกลายมาเป็นประเทศไร้การพัฒนา เมื่อเทียบกับประเทศจีน
ไขคำจีน
双力 ซวงลี่ พลังคํู