เมื่อบริการขนส่งสินค้าทางรถไฟระหว่างจีน-เวียดนาม เริ่มเปิดตัวในปี 2560 โดยออกเดินทางจากเขตปกครองตนเองกว่างซีจ้วง ทางตอนใต้ของจีน มีรถไฟวิ่งให้บริการเพียงไม่ถึงห้าขบวนต่อเดือน อย่างไรก็ตาม เพียงแค่เดือนที่แล้ว มีการขนส่งตู้คอนเทนเนอร์สินค้า ขนาดยี่สิบฟุต ทำสถิติเป็นจำนวนถึง 1,922 ตู้ ซึ่งเกินปริมาณการขนส่งทั้งหมด ในไตรมาสแรกของปี 2567
ประธานาธิบดีจีน สี จิ้นผิง กล่าวเมื่อวันจันทร์ว่า จีนพร้อมทำงานร่วมกับเวียดนาม เพื่อเร่งให้เกิดการเชื่อมโยงสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐาน ที่ประกอบด้วยโครงสร้างพื้นฐานทางรถไฟ ทางด่วน และท่าเรือ เสริมสร้างการเชื่อมโยงด้านกฎระเบียบ ของระบบศุลกากรอัจฉริยะ และร่วมกันสร้างห่วงโซ่อุตสาหกรรม และห่วงโซ่อุปทานที่มั่นคงและปลอดภัย
ในช่วงสำคัญยิ่ง ของการพัฒนาและการฟื้นฟูชาติ สีเน้นย้ำว่า จีนและเวียดนามควรเสริมสร้างรูปแบบการพัฒนา ที่ประกอบด้วย 6 ด้าน ได้แก่ ความไว้วางใจทางการเมืองที่เพิ่มขึ้น ความร่วมมือด้านความมั่นคงที่แข็งแกร่งยิ่งขึ้น ความร่วมมือในทางปฏิบัติที่ลึกซึ้งขึ้น การสนับสนุนจากประชาชนที่เข้มแข็งยิ่งขึ้น การประสานงานและความร่วมมือจากหลายฝ่ายอย่างใกล้ชิดยิ่งขึ้น และการจัดการแก้ไขความแตกต่างที่ดีขึ้น ซึ่งนำโดยวิสัยทัศน์ในการสร้างประชาคม ที่มีอนาคตร่วมกัน
ขณะที่ โต เลิม ผู้นำสูงสุดของพรรคคอมมิวนิสต์เวียดนาม กล่าวว่า พรรคและรัฐบาลของเขา จะดำเนินการตามเป้าหมายสำคัญ ทั้ง 6 ประการ เพื่อกระชับความร่วมมือเป็นหุ้นส่วนเชิงลึก ระหว่างเวียดนามและจีน ให้ลึกซึ้งยิ่งขึ้น และส่งเสริมการสร้างประชาคม ที่มีอนาคตร่วมกัน ซึ่งมีความสำคัญเชิงกลยุทธ์ ระหว่างทั้งสองประเทศ
เลิมอยู่ระหว่างการเยือนจีน เป็นเวลา 3 วัน ซึ่งเป็นการเดินทางเยือนต่างประเทศครั้งแรก หลังจากเข้ารับตำแหน่ง เลขาธิการใหญ่พรรคคอมมิวนิสต์เวียดนาม เมื่อต้นเดือนนี้
สีกล่าวว่า การเลือกจีนเป็นจุดหมายแรก แสดงให้เห็นว่าเลิมให้ความสำคัญกับความสัมพันธ์ระหว่างสองพรรค และสองประเทศอย่างสูง ตลอดจนลักษณะเชิงกลยุทธ์ และระดับที่สูงของความสัมพันธ์จีน-เวียดนาม ได้ก่อตัวขึ้น จากรุ่นสู่รุ่น ระหว่างทั้งสองพรรค มีความลึกซึ้ง เหมือนความสัมพันธ์ระหว่าง “สหายและพี่น้อง” นำมาสู่การขยายความร่วมมือ ระหว่างโครงการริเริ่มแถบและเส้นทาง (Belt and Road Initiative) และยุทธศาสตร์สองระเบียงเศรษฐกิจและหนึ่งวงกลมเศรษฐกิจ (Two Corridors and One Economic Circle) อย่างจริงจัง
