“…..สหรัฐหมดโอกาสที่จะไล่ทันจีนแล้ว เมื่อจีนยิงจรวดขีปนาวุธข้ามทวีป”ตงเฟิง-31AG”รัศมีทำการ 12,000กิโลเมตร ติดหัวรบนิวเคลียร์จำลอง จากเกาะไหหลำไปตกยังตอนใต้เกาะฮาวาย เมื่อเช้าวันที่ 25 กันยายนที่ผ่านมานี้ สามารถสะกดความบ้าระห่ำของพวกกระหายสงครามได้ชนิด “อยู่หมัด” เพราะแม้ว่าจะได้รับแจ้งจากจีนล่วงหน้า แต่สหรัฐอเมริกาก็ไหวตัวไม่ทัน ไม่รู้จุดยิงและพิกัดและไม่รู้วิธีจะสกัดอย่างไร เพราะมันเป็นจรวดไฮเปอร์โซนิก เร็วเหนือเสียง 25 เท่า และหัวรบเป็นแบบดาวกระจายแสวงเป้าอิสระด้วยตนเอง ซึ่งเป็นการเฉลยผลล่วงหน้าว่าหากมีการสู้รบกันจริง สหรัฐอเมริกายับเยินแน่ เพราะจีนยังมีขีปนาวุธเหนือชั้นกว่านี้อีกหลายรุ่นทั้ง “ตงเฟิง -41” “ตงเฟิง-51” และอื่นๆ ที่ล้วนแต่ผ่านการทดสอบสมรรถนะพร้อมใช้รบได้จริงทั้งสิ้น นั่นคือ โดยสภาพเป็นจริง ณ วันนี้จีนมีความพร้อมทางยุทธศาสตร์ในการทำสงครามเบ็ดเสร็จสูงสุดยิ่งกว่าสหรัฐอเมริกา ที่บอกว่าหากเกิดสงครามนิวเคลียร์ก็จะไม่มีใครชนะนั้นไม่จริง เพียงแต่ว่าผู้ที่จะชนะนั้นมิใช่สหรัฐอเมริกาอย่างแน่นอน สหรัฐอเมริกากับพวกพากันเงียบกริบในท่ามกลางเสียงไชโยโห่ฮิ้วของชาวจีน แสดงถึงความเหนือกว่าที่จีนมีต่อสหรัฐฯ อะไรๆ ที่สร้างสรรค์และสันติภาพ ก็จะเข้าแทนที่อะไรๆ ที่ทำลายและสงคราม สังคมโลกได้ก้าวเข้าสู่ยุคสันติสุชอย่างแท้จริง ก็ด้วย “ตงเฟิง-31AG” ตัวนี้!…”
ขีปนาวุธจัดระเบียบ 导弹治理
เหลือเชื่อและน่าอัศจรรย์ใจจริงๆ!
เมื่อสหรัฐอเมริกาเข้าใจความหมายที่จรวดขีปนาวุธข้ามทวีป “ตงเฟิง-31AG” ส่งถึง ที่สื่อความว่า “สันติภาพโลกต้องรักษาไว้ สงครามคือความพ่ายแพ้ของท่าน”
จรวดขีปนาวุธข้ามทวีป “ตงเฟิง-31AG” รัศมีทำการ 12,000 กิโลเมตร ติดหัวรบนิวเคลียร์จำลอง ที่ยิงจากเกาะไหหลำไปตกยังตอนใต้เกาะฮาวาย เมื่อเช้าวันที่ 25 กันยายนที่ผ่านมานี้ สามารถสะกดความบ้าระห่ำของพวกกระหายสงครามได้ชนิด “อยู่หมัด”
เพราะแม้ว่าจะได้รับแจ้งจากจีนล่วงหน้า แต่สหรัฐอเมริกาก็ไหวตัวไม่ทัน ไม่รู้จุดยิงและพิกัดและไม่รู้วิธีจะสกัดอย่างไร เพราะมันเป็นจรวดไฮเปอร์โซนิก เร็วเหนือเสียง 25 เท่า และหัวรบเป็นแบบดาวกระจายแสวงเป้าอิสระด้วยตนเอง ซึ่งเป็นการเฉลยผลล่วงหน้าว่าหากมีการสู้รบกันจริง สหรัฐอเมริกายับเยินแน่ เพราะจีนยังมีขีปนาวุธเหนือชั้นกว่านี้อีกหลายรุ่นทั้ง “ตงเฟิง -41” “ตงเฟิง-51” และอื่นๆ ที่ล้วนแต่ผ่านการทดสอบสมรรถนะพร้อมใช้รบได้จริงทั้งสิ้น
นั่นคือ โดยสภาพเป็นจริง ณ วันนี้จีนมีความพร้อมทางยุทธศาสตร์ในการทำสงครามเบ็ดเสร็จสูงสุดยิ่งกว่าสหรัฐอเมริกา ที่บอกว่าหากเกิดสงครามนิวเคลียร์ก็จะไม่มีใครชนะนั้นไม่จริง เพียงแต่ว่าผู้ที่จะชนะนั้นมิใช่สหรัฐอเมริกาอย่างแน่นอน
การยิงจรวดส่งสัญญาณของจีนเกิดขึ้นท่ามกลางบรรยากาศสงครามคุกรุ่นรุนแรงชนิดมีแนวโน้ม “เอาไม่อยู่” ทั้งในยูเครนและตะวันออกกลาง โดยผูู้ที่คอยยุแหย่สุมไฟตัวเอ้ก็คือสหรัฐฯ อีกทั้งมีแนวโน้มที่จะก่อจุดความรุนแรงขึ้นมาอีกอย่างต่อเนื่องที่ทะเลจีนใต้ ช่องแคบไต้หวัน โดยโหมกระตุ้นความตึงเครียดกับจีนทั้งการโฆษณาชวนเชื่อ การซ้อมรบและการติดตั้งจรวดพิสัยกลางที่ญี่ปุ่นและฟิลิปปินส์ เป็นต้น
ทั้งหมดนั้นมันเป็นต้นเหตุสำคัญที่จะนำไปสู่การระเบิดขึ้นของสงครามใหญ่และจะใหญ่ยิ่งขึ้น เนื่องเพราะกลุ่มชาวปาเลสไตน์ทั้งฮามาสและฮิชบอลเลาะห์สู้กับอิสราเอลแบบยืดเยื้อ และประธานาธิบดีปูตินแห่งรัสเซียก็ปรับขอบเขตการใช้อาวุธนิวเคลียร์ให้กว้างขึ้น เพื่อสกัดสหรัฐอเมริกาและนาโต ที่กำลังยกระดับการสนับสนุนยูเครนเป็นรุกโจมตีรัสเซียโดยตรง
บรรยากาศเช่นนี้หมิ่นเหม่อย่างยิ่งที่จะนำไปสู่สงครามที่คาดไม่ได้ในผลที่จะตามมา แต่สหรัฐฯ ที่หลงใหลอยู่กับความยิ่งใหญ่ในอดีต และละเมออยู่กับดุลอำนาจนิวเคลียร์กลับเล่นบทตีสองหน้า ปากว่าตาขยิบ ด้านหนึ่งก็ขนอาวุธสนับสนุนอิสราเอล อีกด้านหนึ่งก็ตั้งโต๊ะให้ทั้งสองฝ่ายเจรจา ด้านหนึ่งก็ว่าไม่เข้ารบในยูเครนโดยตรง อีกด้านหนึ่งก็ส่งอาวุธร้ายแรงยิ่งขึ้นเพื่อรุกคืบเข้าไปในรัสเซีย ด้านหนึ่งก็บอกว่าไม่สนับสนุนไต้หวันแยกตัวออกจากจีน อีกด้านหนึ่งก็จัดส่งอาวุธเสริมเขี้ยวเล็บให้ไต้หวันสู้กับจีน ด้านหนึ่งก็บอกจะใชัสิทธิเดินเรือในทะเลจีนใต้ อีกด้านหนึ่งก็ขยายฐานทัพติดตั้งอาวุธที่สามารถโจมตีจีนได้ในฟิลิปปินส์และที่อื่นๆ รายรอบประเทศจีน
เช่นนี้แล้วจีนจึงจำเป็นต้องส่งสัญญาณ “ตีแสกหน้า” อเมริกาด้วยขีปนาวุธข้ามทวีป จากเกาะไห่หนัน หรือไหหลำพุ่งข้ามมหาสมุทรแปซิฟิกเข้าใส่อเริกาชนิด “คาดไม่ถึง”
สหรัฐอเมริกากับพวกพากันเงียบกริบในท่ามกลางเสียงไชโยโห่ฮิ้วของชาวจีน
มันช่างสะใจจริงๆ เพราะมันได้พิสูจน์ความจริงต่อสายตาชาวโลกอย่างชัดเจนแล้วว่า ณ วันนี้ “ไผเป็นไผ”!
นี่แค่จววดตัวรองของจีนเท่านั้นนะ ยังโชว์ความเหนือกว่าของอเมริกาที่ว่าเยี่ยมที่สุดได้แบบกินขาด เพราะก่อนหน้านี้สหรัฐฯ ประสบความล้มเหลวอย่างต่อเนื่องในด้านขีปนาวุธข้ามทวีป
หมดโอกาสที่จะไล่ทันจีนแล้ว
จึงแสดงออกอย่างสงบเสงี่ยมเกินคาดต่อการยิง “ตงเฟิง-31AG” ของกองทัพจรวดจีนครั้งประวัติศาสตร์นี้
เชื่อเหอะ นับตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป ไม่ว่าอิสราเอลจะกร่างแค่ไหน ยูเครนจะดิ้นอย่างไร ฟิลิปปินส์และญี่ปุ่นจะซ่าแบบไหน ก็จะไม่ต่างจากการเป็นดินเปียก จุดไม่ติด เพราะพี่ใหญ่ตัวเอ้ “หงอ” แล้ว
ผู้เขียนไม่ได้บอกว่า “สหรัฐฯ แพ้” เพราะสงครามจริงยังไม่เกิด แต่จะบอกว่าถ้าสงครามจริงระหว่างสหรัฐอเมริกากับจีนเกิดขึ้นเมื่อใด ผลจะเป็นอย่างไร คำตอบปรากฏแล้วจากท่าทีของวอชิงตันครั้งนี้
มองในหลักของความขัดแย้ง การยิงจรวดมหาประลัยของกองทัพจรวดจีนครั้งนี้ แสดงถึงความเหนือกว่าและเป็นด้านหลักของคู่ขัดแย้งหลักที่จีนมีต่อสหรัฐฯ อะไรๆ ที่สร้างสรรค์และสันติภาพ ก็จะเข้าแทนที่อะไรๆ ที่ทำลายและสงคราม เปรียบเหมือนกล้วยน้ำว้าใบหนึ่งได้เปลี่ยนจากดิบเป็นสุกแล้วรสชาติเดิมๆ ที่มีแต่ความฝาดก็จะกลายเป็นหวานหอม
สังคมโลกได้ก้าวเข้าสู่ยุคสันติสุขอย่างแท้จริง ก็ด้วย “ตงเฟิง-31AG” ตัวนี้!
ไขคำจีน
导弹 ต่าวต้าน จรวดขีปนาวุธ