“….เป็นที่น่าสังเกตว่า งานนิทรรศการที่อ้างว่าเป็นภารกิจหลักที่บริษัทเชื้อเชิญไปเยี่ยมชมในครั้งนี้มีกำหนดจัดขึ้นระหว่างวันที่ 24-27 กันยายน 2567 แต่ทริปการเดินทางกลับกำหนดเดินทางในวันที 26 กันยายน ทำให้ไม่แน่ใจว่าจะมีโอกาสได้เข้าไปเยี่ยมชมนิทรรศการหรือไม่ โดยใช้เงินการรถไฟและมีบริษัทเอกชนรายหนึ่งที่มีโรงงานด้านซ่อมปรับปรุงตัวรถไฟอยู่แถววิหารแดง สระบุรี ซึ่งมีสายสัมพันธ์แนบแน่นเป็นพิเศษกับบอร์ดชุดนี้คอยติดตามดูแลชนิด ซูเปอร์ VVIP ตลอดการเดินทางด้วย อย่างไรก็ดี คณะกรรมการ ป.ป.ช. เคยพิจารณากรณีตัวอย่างในลักษณะเดียวกันนี้ และเคยมีมติว่าเข้าข่ายเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐรับทรัพย์สินหรือ ประโยชน์อื่นใดจากบุคคล นอกเหนือจากทรัพย์สินหรือประโยชน์อันควรได้ตามกฎหมาย หรือกฎ ข้อบังคับที่ออกโดยอาศัยอำนาจตามบทบัญญัติแห่งกฎหมาย ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542…”
รถไฟฉาวอีก!
บอร์ด-ผู้บริหารยกคณะทัวร์นอก
บริษัทรับเหมาปูเสื่อดูแล คชจ.พุงปลิ้น
รถไฟทำพิลึกผู้บริหาร จัดทริปดูงานนิทรรศการเยอรมัน แถมรับจ๊อบพิเศษให้เอกชนปูเสื่อดูแลค่าใช้จ่าย-เจรจาความร่วมมือ วงในกังขาชาวบ้านเดือดร้อนจากวิกฤติน้ำท่วมทางรถไฟถูกตัดขาด ยังมีหน้าจัดทริปยกคณะทัวร์ตปท. ปูทางกินรวบประมูลงานยักษ์ในอนาคตหรือไม่?
ผู้สื่อข่าวรายงานจากการรถไฟแห่งประเทศไทย(ร.ฟ.ท.)ว่า เมื่อปลายสัปดาห์ที่ผ่านมา ชมรม Strong ต้านทุจริตประเทศไทย ได้ออกมาเปิดโปงถึงกรณีสุดพิลึกในการรถไฟฯ โดยมีรายงานว่า มีบริษัทเอกชนรับเหมารายใหญ่ชื่อย่อ “ซีxxxxxx ” ได้จัดทริปสุดพิเศษระดับ VVIP เรียนเชิญนายจเร รุ่งฐานีย รองผู้ว่าการรถไฟ และรักษาการผู้ว่าการรถไฟ ที่กำกับดูแลฝ่ายก่อสร้าง ฝ่ายโยธา และฝ่ายการอาณัติสัญญาณและสื่อสาร ไปเยี่ยมชมงานนิทรรศการ Innotrans ที่กรุงเบอรลิน ณ ประเทศเยอรมนี ระหว่างวันที่ 26 กันยายน ถึง 4 ตุลาคม นี้
โดยนอกเหนือจากการเชิญไปดูงานแล้ว ในโปรแกรมการดูงานยังได้เชิญผู้บริหารรถไฟไปร่วมพูดคุยกับหุ้นส่วนธุรกิจของบริษัทที่ประเทศเยอรมนีด้วย โดยบริษัท ระบุในคำเชิญว่า จะดูแลค่าใช้จ่ายทั้งหมดตลอดการเดินทาง ซึ่งแม้ว่าการรถไฟจะไม่ได้เสียค่าใช้จ่าย หรือใช้งบในการเดินทางไปดูงานแต่ ก็อาจถูกมองว่า เป็นผลประโยชน์ทับซ้อนหรือขัดต่อจริยธรรมอันดีหรือไม่ ที่ตกปากรับคำเชิญจากบริษัทรับเหมาที่ได้งานก่อสร้างรถไฟทางคู่เกือบทั้งประเทศ
นอกจากนี้ ยังเป็นที่น่าสังเกตว่า งานนิทรรศการที่อ้างว่าเป็นภารกิจหลักที่บริษัทเชื้อเชิญไปเยี่ยมชมในครั้งนี้มีกำหนดจัดขึ้นระหว่างวันที่ 24-27 กันยายน 2567 แต่ทริปการเดินทางกลับกำหนดเดินทางในวันที 26 กันยายน ทำให้ไม่แน่ใจว่าจะมีโอกาสได้เข้าไปเยี่ยมชมนิทรรศการหรือไม่ อีกทั้งยังเป็นที่น่าสังเกตว่า รองผู้ว่าการรถไฟได้อนุมัติโปรแกรมการดูงาน ในขณะที่ตนเองดำรงตำแหน่งรักษาการผู้ว่าการรถไฟ
นอกเหนือจากคณะของรองผู้ว่าการรถไฟฯ ท่านนี้แล้วยังมีคณะของบอร์ดการรถไฟฯ ที่เดินทางไปดูนิทรรศการรถไฟในครั้งนี้ทั้งคณะด้วย ยกเว้นนายวีริศ อัมระปาล ผู้ว่าการรถไฟฯคนใหม่ และ นายอภิรัฐ ไชยวงศ์น้อย กรรมการรถไฟ บอร์ดที่เหลือนอกจากนั้นต่างร่วมเดินทางไปดูงานด้วยทั้งหมด พร้อมผู้ติดตามจากการรถไฟฯโดยใช้เงินการรถไฟและมีบริษัทเอกชนรายหนึ่งที่มีโรงงานด้านซ่อมปรับปรุงตัวรถไฟอยู่แถววิหารแดง สระบุรี ซึ่งมีสายสัมพันธ์แนบแน่นเป็นพิเศษกับบอร์ดชุดนี้คอยติดตามดูแลชนิด ซูเปอร์ VVIP ตลอดการเดินทางด้วย
นอกจากนี้ยัง เป็นที่น่าสังเกตว่าการไปดูงานครั้งนี้มีแวะไปศึกษางานที่เมือง Zermatt ประเทศ สวิสแลนด์ และมีนั่งรถไฟท่องเที่ยว Glacier Express ซึ่งเป็นทริปพิเศษในฝันของบรรดานักท่องเที่ยวหลายๆคน แต่เป็นการใช้งบประมาณหลวงและเอกชนโดยอ้างเหตุไปดูงานรถไฟ
อย่างไรก็ดี คณะกรรมการ ป.ป.ช. เคยพิจารณากรณีตัวอย่างในลักษณะเดียวกันนี้ และเคยมีมติว่าเข้าข่ายเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐรับทรัพย์สินหรือ ประโยชน์อื่นใดจากบุคคล นอกเหนือจากทรัพย์สินหรือประโยชน์อันควรได้ตามกฎหมาย หรือกฎ ข้อบังคับที่ออกโดยอาศัยอำนาจตามบทบัญญัติแห่งกฎหมาย ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 และที่แก้ไขเพิ่มเติม มาตรา 103 ประกอบมาตรา 122 ประกอบประกาศคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ เรื่อง หลักเกณฑ์การรับทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นโดยธรรมจรรยาของเจ้าหน้าที่ของรัฐ พ.ศ. 2543 และมีมูลความผิดทางวินัยอย่างร้ายแรง
“คงต้องฝากถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้องควรช่วยกันเข้ามาตรวจสอบอย่างจริงจัง ว่าขัดจริยธรรม หรือมีความเหมาะสมหรือไม่ ขณะที่คนไทยหลายล้านคนกำลังวิกฤติเดือดร้อนไม่มีอันจะกินจากเศรษฐกิจยุคข้าวยากหมากแพงเช่นนี้ อีกทั้งเกิดวิกฤตน้ำท่วมทางภาคเหนือ ทางรถไฟถูกตัดขาด แต่คณะผู้บริหารการรถไฟฯกลับจัดทริปไปท่องเที่ยวสำราญใจอยู่ต่างประเทศ”
ล่าสุดนี้ชมรม Strong ต่อต้านทุจริตประเทศไทย ได้ส่งเรื่องให้ ปปช.เป็นที่เรียบร้อยแล้ว เพื่อตรวจสอบ กรณีเอกชนใช้สายสัมพันธ์ใกล้ชิด เพื่อหวังผลตอบแทนกลับมาทางธุรกิจของตนเองในกรณีดังกล่าว
