“….จีนกับกลุ่มบริกส์ แกนนำกลุ่มประเทศโลกใต้ ประสบความสำเร็จอย่างยิ่งใหญ่ในการประชุมครั้งที่ 16 ที่เมืองคาซาน รัสเซีย โดยมีชาติสมาชิกขยายวง 10 ชาติและชาติหุ้นส่วนพันธมิตรอีก 13 ชาติเข้าร่วม โดยประเทศไทยก็เป็น 1 ใน 13 ชาติ ซึ่งจะมีเพียงจีนประเทศเดียวที่นำเสนอข้อริเริ่มเชิงยุทธศาสตร์ต่อนาๆชาติ เพื่อก้าวไปสู่อนาคตร่วมกัน ตรงกันข้ามกับสหรัฐอเมริกาที่มักจะสร้างกลุ่มประเทศขึ้นมาเพื่อเป็นอำนาจต่อรอง เบียดขับคู่แข่ง โดยเฉพาะกับจีน โดยขาดจินตนาการที่สร้างสรรค์ต่อการก้าวไปสู่อนาคตร่วมกัน สีจิ้นผิงเรียกกลุ่มบริกส์ขยายวงนี้ว่าเป็น”ทีมที่หนึ่ง” ตี้อีทีตุ้ย ของกลุ่มประเทศโลกใต้ นั่นคือบนเส้นทางไปสู่อนาคตร่วมกันนี้ จีนกำลังแสดงบทบาทเป็นพลวัตขับเคลื่อนอันทรงพลังยิ่งยวดในทุกเวทีความร่วมมือระหว่างประเทศ และโลกในส่วนของกลุ่มประเทศ”โลกใต้” จะเดินหน้าสร้างระบบความสัมพันธ์แบบใหม่ที่หลุดจากอำนาจอิทธิพลของกลุ่มประเทศตะวันตกหรือ”โลกเหนือ” อย่างสิ้นเชิง ทั้งทางด้านเศรษฐกิจการเงิน การเมือง การทหาร…”
กลุ่มทีมนำที่หนึ่ง 第一梯队
จีนกับกลุ่มบริกส์ แกนนำกลุ่มประเทศโลกใต้ ประสบความสำเร็จอย่างยิ่งใหญ่ในการประชุมครั้งที่ 16 ที่เมืองคาซาน รัสเซีย โดยมีชาติสมาชิกขยายวง 10 ชาติและชาติหุ้นส่วนพันธมิตรอีก 13 ชาติเข้าร่วม โดยประเทศไทยก็เป็น 1 ใน 13 ชาตินั้น
ปัจจุบันนี้ ดูเหมือนจะมีเพียงจีนประเทศเดียวที่นำเสนอข้อริเริ่มเชิงยุทธศาสตร์ต่อนาๆชาติ เพื่อก้าวไปสู่อนาคตร่วมกัน แล้วเดินหน้าปฏิบัติจนบรรลุเป้าหมายได้อย่างเป็นจริงเป็นที่ประจักษ์แก่สายตาชาวโลก
ตรงกันข้ามกับสหรัฐอเมริกาที่มักจะสร้างกลุ่มประเทศขึ้นมาเพื่อเป็นอำนาจต่อรอง เบียดขับคู่แข่ง โดยเฉพาะกับจีน โดยขาดจินตนาการที่สร้างสรรค์ต่อการก้าวไปสู่อนาคตร่วมกัน
ในทางทฤษฎี จีนยินดีสามัคคีทุกฝ่าย ร่วมกันเดินหน้าสร้างอารยธรรมใหม่ของมวลมนุษชาติ ตามแนวคิด”ร่วมคิด ร่วมทำ ร่วมแบ่งปัน” แต่ในทางปฏิบัติ จีนเลือกที่จะจับมือกับกลุ่มประเทศที่พร้อมร่วมไปกับจีนก่อน แล้วค่อยๆขยายวงทีหลัง ตามหลักคิด”สร้างก้อนเค็กให้โต สร้างวงเพื่อนให้ใหญ่” ให้ผลพวงและความสำเร็จที่เกิดขึ้นเป็นฐานรองรับการขับเคลื่อนในขั้นต่อๆไป
ในทางยุทธศาสตร์ จีนยืนหยัดพัฒนาตัวเองด้วยแนวทางสันติ แต่ในทางยุทธวิธี จีนพร้อมตอบโต้ สวนหมัดกับผู้รุกล้ำย่ำยีอธิปไตย ทำลายผลประโยชน์ของประชาชาติจีน
ทั้งนี้เพื่อประกันการพัฒนาก้าวหน้าของตัวเองให้สามารถดำเนินไปได้อย่างต่อเนื่องบนเส้นทางที่นับวันกว้างใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ
การประชุมกลุ่มบริกส์ขยายวงที่เมืองคาซานประเทศรัสเซียเมื่อวันที่ 22-24 ตุลาคมที่ผ่านมา แล้วประมวลออกมาเป็น”ปฏิญญาคาซาน” รวม 134 ข้อ สะท้อนให้เห็นอย่างชัดเจนถึงทิศทางการขับเคลื่อนของสังคมโลกยุคใหม่ที่กลุ่มประเทศ”โลกใต้” เป็นแกนนำ
สีจิ้นผิงเรียกกลุ่มบริกส์ขยายวงนี้ว่าเป็น”ทีมที่หนึ่ง” ตี้อีทีตุ้ย(第一梯队)ของกลุ่มประเทศโลกใต้ ดุจการวิ่งมาราธอน ที่อยู่ในตำแหน่งกลุ่มนำ โดยมีกลุ่มอื่นๆเช่นกลุ่มความร่วมมือจีนแอฟริกาเกาะกลุ่มวิ่งมาตามหลัง
พอจะเห็นภาพได้ไม่ยากว่า ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มใด ทั้งที่เป็นกลุ่มประเทศโลกใต้และกลุ่มประเทศทั่วไป ล้วนแต่มีจีนวิ่งอยู่ร่วมกลุ่ม แสดงบทบาทให้ทุกกลุ่มเหล่านั้นขับเคลื่อนไปในทิศทางเดียวกัน ตามข้อเสนอริเริ่มต่างๆที่จีนนำเสนอต่อสังคมโลกเพื่อบรรลุจุดมุ่งหมาย”สร้างประชาคมโลกที่มีอนาคตร่วมกัน” หรือ”เหรินลุ่ยมิ่งอวิ้นก้งถงถี่”
นั่นคือบนเส้นทางไปสู่อนาคตร่วมกันนี้ จีนกำลังแสดงบทบาทเป็นพลวัตขับเคลื่อนอันทรงพลังยิ่งยวดในทุกเวทีความร่วมมือระหว่างประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกลุ่มประเทศกำลังพัฒนาหรือ”โลกใต้”
ในทางรูปธรรม กลุ่มบริกส์ขยายวงดูมีแนวโน้มเป็นเวทีหลักในการขับเคลื่อนกระบวนการเปลี่ยนแปลงที่สอดคล้องกับทิศทางการขับเคลื่อนของสังคมโลกยุคใหม่มากที่สุด มิเช่นนั้นสีจิ้นผิงคงไม่บอกว่าเป็นกลุ่มนำที่หนึ่งของกระบวนการขับเคลื่อนไปสู่อนาคตของประเทศกำลังพัฒนา โดยไม่ติดอยู่กับปัญหาความขัดแย้งต่างๆที่มาจากโลกตะวันตก
โดยภาพรวมก็คือ โลกในส่วนของกลุ่มประเทศ”โลกใต้” จะเดินหน้าสร้างระบบความสัมพันธ์แบบใหม่ที่หลุดจากอำนาจอิทธิพลของกลุ่มประเทศตะวันตกหรือ”โลกเหนือ” อย่างสิ้นเชิง ทั้งทางด้านเศรษฐกิจการเงิน การเมือง การทหาร ฯลฯ
หรืออีกนัยหนึ่งเป็นกลุ่มประเทศที่ปลอดจากกลิ่นอายของการกดขี่ขูดรีด เอารัดเอาเปรียบจากประเทศนักล่าอาณานิคมตะวันตกอย่างแท้จริง
บรรยากาศในกลุ่มจึงเต็มไปด้วยโอกาสและความหวัง ซึ่งทั้งหมดนั้นไม่มีใครปฏิเสธเลยว่า ล้วนมาจากจีนที่กำลังแสดงบทบาทเป็นผู้นำของกลุ่มที่หนึ่งของขบวนการขับเคลื่อนไปสู่อนาคตของชาว”โลกใต้”
ยิ่งดูลึกลงไปในข้อเสนอริเริ่มและมาตรการรูปธรรมต่างๆของฝ่ายจีนที่ปรากฏอยู่ใน”ปฏิญญาคาซาน” ท่านก็จะรู้สึกได้ทันทีถึงความหวังและความมั่นอกมั่นใจของกลุ่มประเทศโลกใต้ ในการก้าวเดินไปพร้อมกับจีน
ประเทศไทยก็คงเช่นเดียวกัน!
ไขคำจีน
梯队 ทีตุ้ย กลุ่มทีมนำ