“….จีนประกาศชัดว่าพร้อมเสมอที่จะทำสงครามกับอเมริกาทุกรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นสงครามการค้า สงครามเย็นหรือสงครามร้อน จีนสำทับว่า อเมริกาจะไม่ชนะเหนือจีน ไม่ว่าจะเป็นสงครามแบบไหน ดังนั้นจึงไม่ควรคิดทำสงครามใดๆกับจีน เมื่อเปรีบเทียบดุลกำลังระหว่างจีนกับสหรัฐฯ เห็นชัดแล้วว่า ในด้านเทคโนโลยีล้ำยุค จีนเหนือกว่าแทบทุกด้าน โดยเฉพาะขีปนาวุธไฮเปอร์โซนิก ระบบการสื่อสารควอนตัม เครื่องบินรบรุ่นที่6 เรือรบทันสมัยยิ่งกว่า ประสิทธิภาพเหนือกว่า ตลอดจนยานยนต์และหุ่นยนต์อัจฉริยะหลากหลายรูปแบบที่สามารถประยุกต์ใช้ในการทำสงครามทั้งบนบก ทะเล อากาศและอวกาศ โดยนัยคือ อเมริกาควรยุติการก่อสงครามกับจีนทุกรูปแบบ แล้วหันมาร่วมมือกันสร้างความเจริญรุ่งเรืองให้แก่มวลมนุษย์บนดาวโลกดวงนี้ สำหรับเป็นฐานการสร้างอารยธรรมใหม่สู่นอกโลกในระยะยาว ตามแนวคิดของประธนาธิบดีสีจิ้นผิงที่ว่า”จงมาร่วมกันสร้างประชาคมโลกที่มีชะตากรรมร่วมกัน” ที่สะท้อนถึงความเรียกร้องต้องการของยุคสมัยในยุคโลกาภิวัตน์ที่มวลมนุษยชาติต้องร่วมกันแก้ไขปัญหามากมาย…”

ชนะได้โดยไม่ต้องรบ 不战而屈人之兵
เมื่อไม่กี่วันก่อน จีนประกาศชัดว่าพร้อมเสมอที่จะทำสงครามกับอเมริกาทุกรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นสงครามการค้า สงครามเย็นหรือสงครามร้อน
คำประกาศนี้ทำให้ฝ่ายอเมริกันร้อนตัว แต่ก็ยังปากแข็งว่าจะเร่งสร้างความพร้อมเพื่อรับมือกับการท้าทายของจีน
ทันทีจีนก็สำทับกลับมาว่า อเมริกาจะไม่ชนะเหนือจีน ไม่ว่าจะเป็นสงครามแบบไหน ดังนั้นจึงไม่ควรคิดทำสงครามใดๆกับจีน
โดยนัยคือ อเมริกาควรยุติการก่อสงครามกับจีนทุกรูปแบบ แล้วหันมาร่วมมือกันสร้างความเจริญรุ่งเรืองให้แก่มวลมนุษย์บนดาวโลกดวงนี้ สำหรับเป็นฐานการสร้างอารยธรรมใหม่สู่นอกโลกในระยะยาว
นี่คือการชี้ทางให้อเมริกาเดิน
ไม่ใช่เพื่อประเทศจีน แต่เพื่ออนาคตร่วมกันของมวลมนุษยชาติ
ตามแนวคิดของประธนาธิบดีสีจิ้นผิงที่ว่า”จงมาร่วมกันสร้างประชาคมโลกที่มีชะตากรรมร่วมกัน” ที่สะท้อนถึงความเรียกร้องต้องการของยุคสมัยในยุคโลกาภิวัตน์ที่มวลมนุษยชาติต้องร่วมกันแก้ไขปัญหามากมาย
นี่คือการตีความของผู้เขียน โดยยึดเอากฎเกณฑ์การขับเคลื่อนของกระแสประวัติศาสตร์เป็นที่ตั้ง และเชื่อมั่นว่าพรรคคอมมิวนิสต์จีนภายใต้การนำของสีจิ้นผิง สามารถยืนอยู่บนความถูกต้องของประวัติศาสตร์ ดำเนินการเคลื่อนไหวปฏิบัติเพื่อผลประโยชน์ร่วมกันของชาวโลกได้ท่ามกลางความยินดีปรีดาของคนทั้งโลก
โดย ณ วันนี้ จีนพร้อมแล้วที่จะเป็นผู้นำพามวลมนุษย์เดินหน้าไปสู่อนาคต และหากสหรัฐอเมริกาพยายามขวาง จีนก็พร้อมที่จะแสดงศักยภาพและอานุภาพกำราบให้อยู่หมัด
ท่าทีดังกล่าวของจีนดูจะได้ใจชาวโลกเป็นอย่างมาก เพราะกำลังหวาดหวั่นต่อนโยบายทำสงครามการค้าและการขยายดินแดนของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ มีแนวโน้มกลายเป็นชะนวนของวิกฤติใหม่ๆที่จะทำลายเสถียรภาพไปทั่วโลก
การแสดงตัวพร้อมสยบความบ้าคลั่งของโดนัลด์ ทรัมป์ครั้งนี้ จีนย่อมมั่นใจแล้วว่า จะได้ผลอะไรบ้าง
ทั้งนี้ เมื่อเปรีบเทียบดุลกำลังระหว่างจีนกับสหรัฐฯ เราเริ่มเห็นชัดแล้วว่า ในด้านเทคโนโลยีล้ำยุค จีนเหนือกว่าแทบทุกด้าน สามารถเบียดแซงได้เป็นเบื้องต้น และมีแนวโน้มทิ้งห่างออกไปเรื่อยๆ
ในเชิงยุทธศาสตร์ ณ วันนี้ แสนยานุภาพโดยรวมของจีนอยู่ในฐานะเหนือกว่าสหรัฐฯ โดยเฉพาะขีปนาวุธไฮเปอร์โซนิก ระบบการสื่อสารควอนตัม เครื่องบินรบรุ่นที่6 เรือรบทันสมัยยิ่งกว่า ประสิทธิภาพเหนือกว่า ตลอดจนยานยนต์และหุ่นยนต์อัจฉริยะหลากหลายรูปแบบที่สามารถประยุกต์ใช้ในการทำสงครามทั้งบนบก ทะเล อากาศและอวกาศ ฯลฯ
ซึ่งตลอดหลายเดือนที่ผ่านมา จีนก็ได้ทำการเปิดตัวสรรพอาวุธล้ำยุคบรรดามีสู่สายตาชาวโลกอย่างต่อเนื่อง เพื่อปูพื้นไปสู่การบรรลุชัยชนะได้โดยไม่ต้องรบ
การดำเนินยุทธศาสตร์ชั้นสูงนี้ คนจีนนิยมทำมาตั้งแต่สมัยโบราณ ตามหลักพิชัยสงครามของซุนจื่อหรือซุนวู และพรรคคอมมิวนิสต์จีนโดยเหมาเจ๋อตงก็นำมาใช้ในช่วงทำสงครามประชาชนปลดปล่อยประเทศจีนที่กองทัพแดงตีตะลุยกองทัพเจียงไคเช็คแตกกระจุยกระจายจนขวัญหนีดีฝ่อ กระทั่งยอมแพ้โดยไม่ต้องรบก็มีมาก
ผลคือ ประเทศจีนก้าวเข้าสู่ยุคสร้างชาติ ประชาชนจีนเดินหน้าสร้างชีวิตใหม่ ภายใต้การนำของพรรคคอมมิวนิสต์จีน
มาบัดนี้ ขณะที่จีนกำลังมุ่งมั่นที่จะสร้างความทันสมัยยุคใหม่ให้แก่ตัวเอง และพร้อมที่จะนำพาเพื่อนผองน้องพี่บนผิวโลกดวงนี้เดินหน้าไปสู่อนาคตร่วมกัน ตามทิศทางการขับเคลื่อนของกระแสประวัติศาสตร์ แต่กลับพบว่า สหรัฐอเมริกาพยายามเดินเกมขัดขวางทุกวิถีทาง ด้วยข้ออ้างสารพัด ดังนั้น เมื่อได้จังหวะที่เหมาะสม บนความพร้อมที่จำเป็น จึงต้องออกอาการ”เตือนสติ” เพื่อมิให้สถานการณ์บานปลาย
จีนบอกว่าพร้อมรบทุกรูปแบบ จริงๆก็เพื่อให้สหรัฐฯเลิกคิดที่จะรบกับจีน ไม่ว่าจะรบกันแบบไหน อย่างไร!
ไขคำจีน
屈人之兵 ซวีเหรินจือปิง กำราบกำลังรบฝ่ายศัตรู