ทุกครั้งในการปรากฏตัว หรือกล่าวปาฐกถาพิเศษ ของ สีจิ้นผิง ประธานาธิบดีของจีน ประโยคที่โลกมักได้ยินเสมอคือ “การสร้างประชาคมที่มีอนาคตร่วมกัน ต้องไม่มีประเทศใดถูกทิ้งไว้ข้างหลัง”
จีนดำเนินนโยบายตามแผนการพัฒนาระดับโลก (Global Development Initiative) ยกระดับกระบอกเสียงของกลุ่มประเทศกำลังพัฒนา ในกิจการระดับโลก ด้วยคำกล่าวสั้นๆ แต่ได้ใจว่า “จีนเป็นและจะยังคงเป็นสมาชิกของกลุ่มประเทศกำลังพัฒนาเสมอ”
สีจิ้นผิง กล่าวว่า “เราควรอยู่ร่วมกันอย่างสันติ และสร้างความร่วมมือแบบได้ประโยชน์ทุกฝ่าย ด้วยท่าทีที่มีเหตุผล และปฏิบัติได้จริง รวมถึงการทำงานในทิศทางเดียวกัน” พร้อมกับย้ำว่า “ความแข็งแกร่งของประชาคม มาจากเอกภาพ และความเชื่อมั่น ที่มีค่ามากกว่าทอง”
สีจิ้นผิง ยังกล่าวถึง โครงการหนึ่งแถบหนึ่งเส้นทางของจีน นำไปสู่เปลี่ยนแปลงโลกอย่างใหญ่หลวง ด้วยการพัฒนาของประวัติศาสตร์ และความเจริญทางอารยธรรม ตามความคิดว่า มนุษยชาติไม่อาจตัดขาด จากการขับเคลื่อนการพัฒนาความก้าวหน้า ไม่ใช่เฉพาะแต่ในเมืองจีน หากยังได้นำเอาความคาดหวังของประชาชน ในประเทศต่างๆ ทั่วโลก ที่มุ่งแสวงหาวิถีชีวิตอันดีงาม มาสร้างประชาคมร่วมโชคชะตา แห่งมวลมนุษยชาติ ชี้ทางสว่างให้กับการพัฒนาสังคมมนุษยชาติ สานประโยชน์ถ้วนหน้า และคว้าชัยชนะร่วมกัน
แนวคิดดังกล่าว ช่วยให้ประเทศต่างๆ ทั่วโลก หันมาสร้างเครือข่ายแห่งความเชื่อมโยง ซึ่งกันและกัน แบบแน่นแฟ้นอย่างไม่เคยมีมาก่อน ก่อเกิดเส้นทางสายไหม เชื่อมโยงโลกทั้งใบให้เป็นหนี่งเดียว ที่แม้กระทั่ง “สงครามภาษี” ยังต้องยอมแพ้
