“…ความยิ่งใหญ่ของจีนยุคใหม่ เกินกว่าจินตนาการของคนทั่วไปจริงๆ และสิ่งนี้แหละที่จะพลิกโฉมประวัติศาสตร์โลก ให้ก้าวไปสู่มิติใหม่ที่หลุดพ้นจากกรอบเดิมๆอย่างสิ้นเชิง ทั้งเรื่องสงคราม เรื่องความขาดแคลนล้าหลังยากจน และการเอารัดเอาเปรียบ ก่อความเดือดร้อนทุกข์ยากซึ่งกันและกัน ที่เป็นรอยประทับมาตั้งแต่ยุคต้นๆของประวัติศาสตร์มวลมนุษยชาติ พรรคและรัฐบาลจีนได้ยึดปฏิบัติในทางเป็นจริงเสมอมา ไม่ว่าจะอ้างถึงทฤษฎีใดๆของคาร์ลมาร์กซ เหมาเจ๋อตง เติ้งเสี่ยวผิง หรือสีจิ้นผิงในยุคปัจจุบัน ตลอดจนขงจื๊อ เล่าจื๊อ หรือซุนจื๊อในยุคโบราณ ซึ่งการสร้างการเปลี่ยนแปลงใหม่ๆโดยยึดมั่นในหลักทฤษฎี ปรัชญา และธรรมทั้ง 4 ประการนี้ของจีน คือหลักประกันพื้นฐานในความสำเร็จของการพัฒนาประเทศของจีน และการนำพาประเทศต่างๆทั่วโลกก้าวเดินไปสู่อนาคตร่วมกัน
ร่วมกันนำพาสังคมโลกก้าวเข้าสู่ยุคอยู่ร่วมกันได้บนความแตกต่าง ร่วมกันพัฒนาความเจริญรุ่งเรือง ทันสมัยร่วมกัน หลุดพ้นจากความแตกแยก ความสับสนวุ่นวายและความไร้ระเบียบอย่างสิ้นเชิง..”

สิ้นสุดยุคโลกไร้ระเบียบ 乱世的终结
ข้อเขียนนี้ผู้เขียนขอนำเสนอวิธีการเข้าถึงความจริงของโลกปัจจุบัน ประกอบด้วยเครื่องมือที่ใช้วิเคราะห์และสรุปหาคำตอบในแต่ละเรื่องที่เราสนใจ ซึ่งเป็นสิ่งที่ผู้เขียนยึดปฏิบัติมาโดยตลอดตั้งแต่เข้าสู่วงการวิเคราะห์เจาะลึกถึงทิศทางการขับเคลื่อนของประวัติศาสตร์ มวลมนุษยชาติ อันเป็นเรื่องที่ผู้เขียนให้ความสนใจมากที่สุด
นั่นคือที่มาของคำสรุป ณ วันนี้ ที่ว่าความยิ่งใหญ่ของจีนยุคใหม่ เกินกว่าจินตนาการของคนทั่วไปจริงๆ และสิ่งนี้แหละที่จะพลิกโฉมประวัติศาสตร์โลก ให้ก้าวไปสู่มิติใหม่ที่หลุดพ้นจากกรอบเดิมๆอย่างสิ้นเชิง ทั้งเรื่องสงคราม เรื่องความขาดแคลนล้าหลังยากจน และการเอารัดเอาเปรียบ ก่อความเดือดร้อนทุกข์ยากซึ่งกันและกัน ที่เป็นรอยประทับมาตั้งแต่ยุคต้นๆของประวัติศาสตร์มวลมนุษยชาติ
เหตุที่มองจีนในเชิงบวกชัดเจนเช่นนี้ ด้วยเชื่อมั่นในทฤษฎี ปรัชญา และหลักธรรรม 4 ประการ ที่ผู้เขียนศึกษาและใช้เป็นเครื่องมือวิเคราะห์ มาโดยตลอด อันประกอบด้วย
1.ทฤษฎีวัถตุนิยมประวัติศาสตร์ของคาร์ล มาร์กซ ที่ว่าพลังการผลิตคือตัวขับเคลื่อนประวัติศาสตร์ ยกระดับความเจริญก้าวหน้าของสังคมตลอดจนคุณภาพชีวิตของคนเราตลอดกระบวนการ
ซึ่งปัจจุบันนี้วิทยาศาสตร์เทคโนโลยีล้ำยุคเช่นปัญญาประดิษฐ์และควอนตัมคอมพิวเตอร์ได้กลายเป็นพลังการผลิตคุณภาพใหม่ที่กระตุ้นการพัฒนาพลังการผลิตโดยรวมของสังคมจีนให้ล้ำหน้าประเทศอื่นๆทั่วโลกอย่างชัดเจน
2.ทฤษฎีว่าด้วยความขัดแย้งของเหมาเจ๋อตง ที่ว่าการจะเข้าถึงกฎเกณฑ์การพัฒนาของสิ่งและแก้ปัญหาที่เป็นอุปสรรคให้ตกไปได้ จะต้องจับความขัดแย้งหลักที่ดำรงอยู่ในแต่ละขั้นตอนของการขับเคลื่อนให้ได้
จากนั้นจงระดมสรรพกำลังเข้าแก้ไขความขัดแย้งหลักเฉพาะหน้าให้ตกไปด้วยวิธีการสร้างเงื่อนไขและเหตุปัจจัยใหม่ๆขึ้นมาจนกลายเป็นปัจจัยกำหนด เป็นด้านหลักของความขัดแย้งหลักที่สามารถแสดงบทบาทเหนือกว่าเหตุปัจจัยเก่าๆ ซึ่งในที่สุดจะนำไปสู่การพัฒนาเปลี่ยนแปลงของสิ่ง จากสิ่งเก่าเป็นสิ่งใหม่ในระดับที่ดีกว่า ก้าวหน้ากว่าเสมอ
นั่นคือเหตุผลที่ว่าทำไมจีนจึงก้าวหน้ามาได้เป็นลำดับ โดดเด่นเป็นพิเศษในยุคปัจจุบัน ได้รับการยอมรับว่าเหนือกว่าสหรัฐอเมริกาในแทบทุกด้าน และเป็นเหตุบ่งชี้ถึงการเปลี่ยนแปลงของสังคมโลกจากเดิมที่ทุนนิยมเป็นปัจจัยกำหนดมาสู่ขั้นใหม่ที่สังคมนิยมเป็นปัจจัยกำหนด ซึ่งสภาวะทั่วไปที่เต็มไปด้วยความแตกแยกจะหมดไป วิกฤตและสงครามจะหมดไปในที่สุด
3.ปรัชญา”ความกลมกลืนของความแตกต่าง” ของขงจื๊อ ที่ชี้ให้เห็นถึงธรรมชาติของสรรพสิ่งที่อยู่ร่วมกันได้บนความแตกต่าง ตามหลัก”เหอเอ๋อร์ปู้ถง” (和而不同)
พรรคและรัฐบาลจีนดำเนินนโยบายทั้งในและต่างประเทศ โดยยึดอยู่กับหลักปรัชญาข้อนี้เสมอมา
โดยในประเทศส่งเสริมให้คนจีนทุกชนชาติอยู่ร่วมกันบนฐานของความแตกต่างทางภาษาวัฒนธรรมดั้งเดิมโดยการยึดเอาความรักชาติเป็นหลักแกน
ขณะที่ในระหว่างประเทศก็ยึดมั่นในความเสมอภาค เคารพซึ่งกันและกัน ช่วยเหลือเกื้อกูลกัน มุ่งสร้างอนาคตร่วมกัน ทำให้จีนเป็นที่ยอมรับของนานาชาติมากขึ้นเรื่อยๆ ยินดีร่วมหัวจมท้ายไปกับจีนยิ่งกว่ายุคใดๆ
4.หลักธรรม”ปฏิจจสมุปบาท” ของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
ปฏิจจสมุปบาท แปลว่า “การเกิดขึ้นเพราะอาศัยกัน”หรือ “ธรรมที่เกิดขึ้นเนื่องด้วยเหตุปัจจัยสัมพันธ์กัน” เป็นหลักธรรมที่อธิบายว่า ทุกสิ่งล้วนเกิดขึ้นจากการอาศัยกันของปัจจัย ไม่มีสิ่งใดเกิดขึ้นลอยๆ โดยไม่เกี่ยวข้องกับเหตุอื่น
ด้วยหลักธรรมข้อนี้ เราจะพบว่าพรรคและรัฐบาลจีนได้ยึดปฏิบัติในทางเป็นจริงเสมอมา ไม่ว่าจะอ้างถึงทฤษฎีใดๆของคาร์ลมาร์กซ เหมาเจ๋อตง เติ้งเสี่ยวผิง หรือสีจิ้นผิงในยุคปัจจุบัน ตลอดจนขงจื๊อ เล่าจื๊อ หรือซุนจื๊อในยุคโบราณ
การสร้างการเปลี่ยนแปลงใหม่ๆโดยยึดมั่นในหลักทฤษฎี ปรัชญา และธรรมทั้ง 4 ประการนี้ของพรรคและรัฐบาลจีน คือหลักประกันพื้นฐานในความสำเร็จของการพัฒนาประเทศของจีน และการนำพาประเทศต่างๆทั่วโลกก้าวเดินไปสู่อนาคตร่วมกัน
ในทางรูปธรรมก็คือ ร่วมกันนำพาสังคมโลกก้าวเข้าสู่ยุคอยู่ร่วมกันได้บนความแตกต่าง ร่วมกันพัฒนาความเจริญรุ่งเรือง ทันสมัยร่วมกัน หลุดพ้นจากความแตกแยก ความสับสนวุ่นวายและความไร้ระเบียบอย่างสิ้นเชิง
ไขคำจีน
乱世 ล่วนซื่อ โลกไร้ระเบียบ