การเมืองใหม่ “มีผู้นำฉลาด”เดินคู่กับ “จีน”ไทยจะยืนได้ “เดินดี”

“…ประเทศไทยได้เดินมาถึงจุดที่จะต้องปรับตัวเองครั้งใหญ่ เพื่อให้ทันกับการเปลี่ยนแปลงของโลกยุคใหม่ที่มีจีนนำ โดยจะต้องทำการวางโครงสร้างพื้นฐานทางการเมืองการปกครองแบบใหม่ที่เอื้อต่อการพัฒนาประเทศมากที่สุด และยังประโยชน์สูงสุดต่อพี่น้องชาวไทยตลอดไป มาถึงวันนี้ ปรากฏชัดแล้วว่า ระบบการเมืองแบบเลือกตั้งไม่ช่วยให้ไทยก้าวไปข้างหน้าได้ทันกับการเปลี่ยนแปลงของโลกยุคใหม่ ขาดซึ่งแผนทั้งระยะสั้นและระยะยาวในการดึงทุนและนวัตกรรมจีนที่เหมาะสมกับเรามากที่สุด หนำซ้ำยังปล่อยให้ทุนจีนเถื่อนและเทาสารพัดชนิดแทรกซึมเข้ายึดตลาดและที่ทำกินของคนไทยเรา โดยมีพวกเจ้าหน้าที่ข้าราชการน้ำเน่าคอยสมคบโกงกิน เมื่อจะปรับตัวทั้งทีก็ต้องปรับตัวให้ทั่วถึงรอบด้าน ใช้จีนเป็นแบบอย่างและมาตรฐานที่เราจะต้องไปให้ถึง จีนดีแค่ไหนไทยก็จะดีไม่แพ้ ไทยก็ต้องยืนขึ้นมาให้ได้ ด้วยพลังร่วมกันของคนไทยทั้งชาติ ขจัดอำนาจอิทธิพลกลุ่มผลประโยชน์ต่างๆที่ครอบงำการบริหารประเทศให้หมดสิ้นไป คณะผู้บริหารทั้งในระดับชาติและระดับท้องถิ่น ทุกกลุ่มองค์กรจะคอยถกเถียงกันในเรื่องการทำงานมากกว่าเรื่องการแบ่งผลประโยชน์ ซึ่งก็คือผลประโยชน์ส่วนรวม ของชาติของประชาชน ดังนั้นในประเทศไทย คนไทยทุกสาขาอาชีพ ทุกระดับชั้นก็ต้องจับมือกัน ร่วมคิดร่วมทำ สร้างประเทศไทยใหม่ให้เจริญรุ่งเรืองก้าวหน้า ประชาชนเป็นสุข เป็นที่ประจักษ์ชัดในสายตาชาวโลก….”

ยืนได้ เดินดี 站得稳走得远

มองในสายตาประวัติศาสตร์ ณ วันนี้ ประเทศไทยได้เดินมาถึงจุดที่จะต้องปรับตัวเองครั้งใหญ่ เพื่อให้ทันกับการเปลี่ยนแปลงของโลกยุคใหม่ที่มีจีนนำ โดยจะต้องทำการวางโครงสร้างพื้นฐานทางการเมืองการปกครองแบบใหม่ที่เอื้อต่อการพัฒนาประเทศมากที่สุด และยังประโยชน์สูงสุดต่อพี่น้องชาวไทยตลอดไป ตามการคาดการณ์ของผู้เขียน สิ่งต่างๆที่กำลังจะปรากฏโดยความร่วมแรงร่วมใจของคนไทยรักชาติรักความก้าวหน้าและกล้าหาญชาญชัยที่สามารถรวมตัวกันได้แล้วในเงื่อนไขและบรรยากาศที่พร้อมสูงสุดวันนี้

1.สิ้นสุดเสียทีกับการล้มลุกคลุกคลานของประเทศไทย อันเนื่องจากความไม่ลงรอยกันของกลุ่มผลประโยชน์ต่างๆที่ส่งตัวแทนเข้าไปนั่งในสภาและเลือกตัวคณะผู้บริหารประเทศ

2.สิ้นสุดเสียทีกับการเสียโอกาสของชาติไปกับระบบการเลือกตั้งตัวแทนกลุ่มผลประโยชน์ที่มุ่งหมายแย่งชิงผลประโยชน์เฉพาะตัวโดยอ้างความเป็นผู้แทนราษฎรเข้าไปนั่งในสภา

เหตุผลสนับสนุนก็คือ มาถึงวันนี้ ปรากฏชัดแล้วว่า ระบบการเมืองแบบเลือกตั้งไม่ช่วยให้ไทยก้าวไปข้างหน้าได้ทันกับการเปลี่ยนแปลงของโลกยุคใหม่ เพราะขณะที่จีนเดินหน้าสร้างนวัตกรรมใหม่ๆขยายฐานอุตสาหกรรมการผลิตอัจฉริยะอย่างรวดเร็วรอบด้าน และเปิดกว้างให้แก่ประเทศต่างๆทั่วโลกเชื่อมต่อเข้ากับกระบวนการนี้นั้น ประเทศไทยกลับเต็มไปด้วยความไม่รู้ และกระทั่งตีความไปในทางลบถึงโอกาสที่จะเชื่อมประสานกับจีนอย่างรู้ทันและอย่างเป็นฝ่ายกระทำ

หลายทศวรรษที่ผ่านมา เราจึงได้แต่จ้องมองโอกาสต่างๆที่ผ่านเลย ขาดซึ่งแผนทั้งระยะสั้นและระยะยาวในการดึงทุนและนวัตกรรมจีนที่เหมาะสมกับเรามากที่สุดอย่างเป็นฝ่ายกระทำ หนำซ้ำยังปล่อยให้ทุนจีนเถื่อนและเทาสารพัดชนิดแทรกซึมเข้ายึดตลาดและที่ทำกินของคนไทยเรา โดยมีพวกเจ้าหน้าที่ข้าราชการน้ำเน่าคอยสมคบโกงกิน

ขืนปล่อยให้สิ่งเหล่านี้ดำเนินต่อไปอีก คงไม่นานหรอกที่ประเทศไทยจะกลายเป็นประเทศท้ายๆของกลุ่มประเทศอาเซียนที่เริ่มปรับตัวเองไปในทางเดียวกันกับจีนชัดเจนมากขึ้น รวมทั้งไม่เน่าเฟะเท่าเรา

ทว่า เมื่อจะปรับตัวทั้งทีก็ต้องปรับตัวให้ทั่วถึงรอบด้าน ซึ่งหนีไม่พ้นต้องตั้งเป้าไปที่จีน ใช้จีนเป็นแบบอย่างและมาตรฐานที่เราจะต้องไปให้ถึง

อีกนัยหนึ่ง เมื่อจะเปลี่ยนก็ต้องเปลี่ยนเป็นดีที่สุด จีนดีแค่ไหนไทยก็จะดีไม่แพ้

ประการแรกก็คือ มองเห็นกระบวนการเปลี่ยนแปลงของเขาตั้งแต่เริ่มลุกยืนขึ้นมา แล้วเดินหน้าสร้างสรรค์ประเทศชาติจนเจริญรุ่งเรืองขึ้นมาอย่างรวดเร็วกระทั่งผงาดขึ้นมาเป็นผู้นำในแทบทุกด้านวันนี้ และมีแนวโน้มเป็นผู้นำโลกแบบเบ็ดเสร็จไปอีกนานเท่านาน

ครั้งนี้ ไทยก็ต้องยืนขึ้นมาให้ได้ ด้วยพลังร่วมกันของคนไทยทั้งชาติ ขจัดอำนาจอิทธิพลกลุ่มผลประโยชน์ต่างๆที่ครอบงำการบริหารประเทศให้หมดสิ้นไป แล้วจัดตั้งสภาประชาชนทำหน้าที่คัดสรรคณะผู้บริหารประเทศที่เก่งกาจระดับโลกขึ้นมาทำหน้าที่ภายใต้การตรวจสอบอย่างเข้มงวดของปวงชน

ด้วยคุณสมบัติพื้นฐานเช่นนี้ของคณะผู้บริหารทั้งในระดับชาติและระดับท้องถิ่น การดำเนินนโยบายพัฒนาประเทศจึงจะไม่ติดขัด ทุกกลุ่มองค์กรจะคอยถกเถียงกันในเรื่องการทำงานมากกว่าเรื่องการแบ่งผลประโยชน์ เพราะต่างก็มีผลประโยชน์ร่วมกัน เป็นหนึ่งเดียวกัน ซึ่งก็คือผลประโยชน์ส่วนรวม ของชาติของประชาชน

ในประเทศจีน แม้กระทั่งในหมู่นักธุรกิจเอกชน เช่นหัวเหวย บีวายดี DeepSeek เทนเซนต์ เป็นต้น ไม่ว่าจะใหญ่โตแค่ไหนก็งยังถือเอาผลประโยชน์ของชาติและประชาชนชาวจีนเป็นที่ตั้ง โดยยึดมั่นปฏิบัติภารกิจสร้างชาติจีนให้เจริญรุ่งเรืองล้ำโลกไปให้ได้ภายใต้การนำของพรรคคอมมิวนิสต์จีน

ดังนั้นในประเทศไทย คนไทยทุกสาขาอาชีพ ทุกระดับชั้นก็ต้องจับมือกัน ร่วมคิดร่วมทำ สร้างประเทศไทยใหม่ให้เจริญรุ่งเรืองก้าวหน้า ประชาชนเป็นสุข เป็นที่ประจักษ์ชัดในสายตาชาวโลก

โดยรูปธรรมคือ ทุกฝ่ายมีภาระหน้าที่ร่วมกัน ในการสนับสนุนส่งเสริมความแข็งแกร่งของสภาประชาชน ที่จะทำหน้าที่เป็นแกนอำนาจใหม่ให้แก่ประเทศไทยใหม่ในทุกระดับชั้นของการบริหารปกครอง

เพื่อเป็นหลักประกันสูงสุดและมั่นคงที่สุดให้แก่การเดินไปข้างหน้าของประเทศไทยในรอบร้อยปีต่อไป

ไขคำจีน

站得稳 จ้านเตออุ่น