วันจันทร์, กรกฎาคม 7, 2025
หน้าแรกการเมือง“บิ๊กป้อม” จากสนามรบสู่สนามการเมือง: เส้นทางแห่งอำนาจของพี่ใหญ่แห่งบูรพาพยัคฆ์

Related Posts

“บิ๊กป้อม” จากสนามรบสู่สนามการเมือง: เส้นทางแห่งอำนาจของพี่ใหญ่แห่งบูรพาพยัคฆ์

ในยุคที่ผู้นำทางการเมืองหลายคนลอยมาไวและจางหายเร็วยิ่งกว่าไอน้ำ “พล.อ. ประวิตร วงษ์สุวรรณ” หรือ “บิ๊กป้อม” กลับกลายเป็นชื่อที่ยังคงปรากฏบนเวทีอำนาจมายาวนานกว่า 5 ทศวรรษ จากเด็กนักเรียนเซนต์คาเบรียล สู่ผู้บัญชาการทหารบก ก่อนจะก้าวข้ามสู่เวทีการเมืองในฐานะรองนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม และหัวหน้าพรรคการเมืองที่มีบทบาทสำคัญในการกำหนดทิศทางประเทศ หนทางของ “พี่ใหญ่” คนนี้ เต็มไปด้วยกลยุทธ์ บารมี และเสียงวิพากษ์—ผสมผสานทั้งมิติของอำนาจและปริศนาอย่างยากจะมองข้าม

พล.อ. ประวิตร วงษ์สุวรรณ: กำเนิดนักยุทธศาสตร์อำนาจ
พล.อ. ประวิตร เกิดเมื่อวันที่ 11 สิงหาคม 2488 ในกรุงเทพฯ เป็นบุตรของ พล.ต. ประเสริฐ วงษ์สุวรรณ เติบโตในครอบครัวข้าราชการทหาร โดยมีน้องชายที่ก้าวหน้าในแวดวงความมั่นคงเช่นกัน ได้แก่ พล.อ. ศิษฐวัชร วงศ์สุวรรณ และ พล.ต.อ. พัชรวาท วงษ์สุวรรณ

การศึกษาขั้นต้นที่โรงเรียนเซนต์คาเบรียล ต่อด้วยเตรียมทหารรุ่นที่ 6 และโรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้ารุ่นที่ 17 ซึ่งนับเป็น “คลื่นลูกใหญ่” ของยุค เขายังเรียนต่อหลักสูตรเสนาธิการทหารบกและวิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักร ซึ่งบ่มเพาะวิสัยทัศน์ด้านความมั่นคงในระดับชาติ

จากสมรภูมิจริง สู่สมรภูมิอำนาจ
เริ่มต้นรับราชการใน “กรมทหารราบที่ 21 รักษาพระองค์” หรือ “รบพิเศษอีสานใต้” ในปี 2512 เขามีบทบาทในการปราบปรามคอมมิวนิสต์ภายในประเทศ และเกี่ยวข้องกับภารกิจในลาวและเวียดนาม ต่อมาได้ไต่เต้าผ่านตำแหน่งสำคัญ อาทิ ผู้บังคับการกรม, แม่ทัพภาคที่ 1, ผู้ช่วย ผบ.ทบ. และ ผบ.ทบ. ระหว่างปี 2547–2548

แม้จะเกษียณจากกองทัพในปี 2548 แต่การเมืองกลับกลายเป็นเวทีใหม่ที่เขาก้าวเข้าไปอย่างมั่นคง

ยุทธศาสตร์การเมือง: จากกลาโหมสู่กลไกพรรค
การก้าวเข้าสู่การเมืองเริ่มต้นในรัฐบาลอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ โดยดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ระหว่างปี 2551–2554 จุดเปลี่ยนสำคัญเกิดขึ้นในปี 2557 เมื่อ คสช. ยึดอำนาจจากรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เขาถูกแต่งตั้งให้เป็นรองหัวหน้า คสช. และที่ปรึกษาคนสำคัญของ พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา

หลังการเลือกตั้งปี 2562 พล.อ.ประวิตรขึ้นเป็นหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ซึ่งเป็นแกนหลักในการจัดตั้งรัฐบาล และเคยทำหน้าที่รักษาการนายกรัฐมนตรีในช่วงที่ พล.อ. ประยุทธ์ ถูกศาลรัฐธรรมนูญสั่งระงับการปฏิบัติหน้าที่ (ส.ค.–ก.ย. 2565)

ผลงานเด่นในฐานะผู้มีบทบาทนโยบายความมั่นคง
แม้หลายโครงการจะมีภาพสะท้อนด้านการบริหาร แต่ก็มีผลงานที่เป็นรูปธรรม อาทิ:

-ผลักดันการ ปฏิรูปตำรวจและฝ่ายความมั่นคง ผ่านกลไก คสช.

-ส่งเสริมการบังคับใช้ ยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี

-ริเริ่มและสนับสนุนโครงการ “อาสาสมัครพิทักษ์ป่า” ในนามมูลนิธิอนุรักษ์ป่ารอยต่อ 5 จังหวัด

-ดูแลการเตรียมงานมหกรรมกีฬาในประเทศ ในฐานะ ประธานโอลิมปิกแห่งประเทศไทย

นอกจากตำแหน่งอย่างเป็นทางการแล้ว พล.อ. ประวิตรยังเป็น เป็นทหารเสือพระราชินีเพียงหนึ่งเดียวที่ยังอยู่ในแวดวงการเมือง ที่ได้รับการยอมรับจากทั้งในแวดวงทหารและการเมือง เป็นศูนย์รวมอำนาจของกลุ่ม “บูรพาพยัคฆ์” ซึ่งรวมทั้ง พล.อ. ประยุทธ์ และ พล.อ. อนุพงษ์ เข้าด้วยกัน

ตลอดเส้นทางชีวิตราชการและการเมือง พล.อ. ประวิตรได้รับเครื่องราชอิสริยาภรณ์ชั้นสูงมากมาย เช่น มงกุฎไทย,ช้างเผือก, จุลจอมเกล้าวิเศษ รวมถึงเหรียญกล้าหาญจากสนามรบชายแดน

“บิ๊กป้อม” คือภาพแทนของนักยุทธศาสตร์อำนาจ ที่เดินเกมได้ทั้งในสนามรบและสนามการเมือง แม้จะเต็มไปด้วยเสียงชื่นชมและเสียงวิจารณ์ แต่เส้นทางของเขาก็สะท้อนให้เห็นว่า “อำนาจ” ไม่ได้มีแค่การเลือกตั้ง แต่ยังรวมถึงความสามารถในการประคองสมดุลของกลุ่มผลประโยชน์ เครือข่าย และสถาบันหลักของประเทศอย่างแยบยล

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่

spot_img

Latest Posts